GWM POER SAHAR 2025: ยกระดับประสบการณ์กระบะดีเซลพรีเมียม สู่มิติใหม่แห่งอนาคต
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถกระบะในประเทศไทยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างก้าวกระโดด จากยานพาหนะเพื่อการบรรทุก สู่การเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และเป็นมากกว่าแค่รถใช้งาน สิ่งที่น่าจับตาในปี 2025 นี้ คือการมาถึงของ GWM POER SAHAR ที่จะพลิกโฉมความคาดหวังที่มีต่อรถกระบะดีเซลขนาดใหญ่ ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยนิยามของ “พรีเมียมสมรรถนะสูง” ที่ผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และความอัจฉริยะในการขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ
ตลาดรถกระบะในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่พละกำลัง แต่ยังต้องการความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต GWM POER SAHAR เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของรถกระบะ ผสมผสานกับเส้นสายที่ทันสมัย โฉบเฉี่ยว และแฝงไว้ด้วยความหรูหราที่ชวนให้หลงใหล ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือในการเดินทาง หรือผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยที่ต้องการรถคู่ใจที่พร้อมลุยในทุกเส้นทาง Poer Sahar พร้อมที่จะเป็นคำตอบของคุณ
ขีดสุดแห่งทางเลือก: รุ่นย่อยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
GWM POER SAHAR DIESEL มอบทางเลือกที่หลากหลายถึง 3 รุ่นย่อย เพื่อให้คุณสามารถเลือกสรรสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการและการใช้งานของคุณได้อย่างแม่นยำ ทุกรุ่นมาพร้อมกับความพรีเมียมและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจ แต่มีความแตกต่างในรายละเอียดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ใช้งานในแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง
POER SAHAR DIESEL รุ่น 2.4T PRO 2WD: จุดเริ่มต้นของความพรีเมียมที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะขนาดใหญ่ที่เน้นการใช้งานในเมืองและการเดินทางบนถนนลาดยางเป็นหลัก ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ให้ความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันและเดินทางระยะไกล
POER SAHAR DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA 2WD: ก้าวขึ้นอีกขั้นสู่ความสมบูรณ์แบบ ด้วยการเพิ่มออปชันและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่และการโดยสารให้เหนือกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายระดับสูง และเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทุกการเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้น
POER SAHAR DIESEL รุ่น 2.4T ULTRA 4WD: สุดยอดแห่งสมรรถนะและขีดความสามารถที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางออฟโรดสุดท้าทาย หรือการลากจูงที่ต้องการพละกำลังและความมั่นคงสูงสุด รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อนักผจญภัยและผู้ที่ต้องการความมั่นใจในทุกสภาพถนน
นอกจากนี้ การเลือกสีภายนอกที่ครอบคลุมทั้งสีดำ สีเทา และสีขาว ยังช่วยให้คุณสามารถสะท้อนบุคลิกและความชอบส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ โดยทุกรุ่นมาพร้อมกับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำที่ให้ความรู้สึกสุขุม ลึกลับ และหรูหราเหนือกาลเวลา
หัวใจที่ทรงพลัง: สมรรถนะที่ตอบสนองทุกการขับขี่
ภายใต้รูปลักษณ์ที่โดดเด่นของ GWM POER SAHAR DIESEL ทั้ง 3 รุ่นย่อย คือขุมพลังดีเซล 2.4T เจนเนอเรชันใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนามาเพื่อมอบทั้งพละกำลังที่เหลือเฟือและความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ เครื่องยนต์ดีเซลที่มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) นี้ ให้พละกำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดมหาศาล 480 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที ซึ่งหมายความว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจ และแรงบิดที่ต่อเนื่องในการขับขี่ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว การเร่งแซง หรือการขับขี่ขึ้นทางลาดชัน เครื่องยนต์บล็อกนี้ยังโดดเด่นด้วยระบบหัวฉีดแรงดันสูงถึง 2,000 บาร์ ซึ่งช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ลดมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
ด้วยถังน้ำมันขนาด 78 ลิตร GWM POER SAHAR สามารถพาคุณเดินทางได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจและบ่งบอกถึงความสามารถในการเดินทางระยะไกลได้อย่างไร้กังวล เรื่องของความประหยัดน้ำมันดีเซลก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง โดยรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14 กม./ลิตร ขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ทำได้เฉลี่ย 13.5 กม./ลิตร (ตาม Eco Sticker) ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมสำหรับรถกระบะขนาดใหญ่ที่มีสมรรถนะสูงเช่นนี้
ระบบส่งกำลังอัจฉริยะเพื่อประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและช่วยยกระดับประสบการณ์ขับขี่ได้อย่างชัดเจน ด้วยช่วงอัตราทดเกียร์ที่กว้างถึง 8.843 ทำให้เกียร์สามารถเปลี่ยนขึ้นเกียร์ 9 ได้ที่ความเร็วเพียง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่ต่ำลงเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น และเพิ่มความประหยัดน้ำมัน ระบบเกียร์นี้ยังถูกออกแบบมาให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล มอบความต่อเนื่องในการส่งกำลัง และลดอาการกระตุกจากการเปลี่ยนเกียร์ ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น
GWM POER SAHAR ยังมอบความยืดหยุ่นในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) คุณสามารถเลือกได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดปกติ (Normal) สำหรับการใช้งานทั่วไป โหมดสปอร์ต (Sport) เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวและเร้าใจยิ่งขึ้น และโหมดประหยัด (Eco) สำหรับการเดินทางที่ต้องการประสิทธิภาพการใช้น้ำมันสูงสุด ส่วนในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการผจญภัย ได้เพิ่มโหมดการขับขี่ที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ได้แก่ โหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) สำหรับถนนปกติ โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) สำหรับสภาพถนนที่ท้าทายขึ้นเล็กน้อย และโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตราทดเกียร์ต่ำ (4L) สำหรับการขับขี่ออฟโรดที่ต้องการแรงฉุดลากสูงสุด ช่วยให้คุณสามารถพิชิตทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจ
นอกจากนี้ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้ายังมาพร้อม 3 โหมดช่วยผ่อนแรง ได้แก่ โหมดเบา โหมดสบาย และโหมดสปอร์ต ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับน้ำหนักพวงมาลัยให้เหมาะสมกับความรู้สึกในการขับขี่และความเร็วที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการขับขี่บนทางหลวงที่ต้องการความมั่นคง
มิติใหม่แห่งความแกร่งและกว้างขวาง
GWM POER SAHAR DIESEL มีมิติตัวถังขนาดใหญ่ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความกว้างขวาง โดยมีความยาว 5,445 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,991 มิลลิเมตร และความสูง 1,924 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,350 มิลลิเมตร และระยะห่างของล้อคู่หน้าและหลัง 1,635 มิลลิเมตร มิติเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย แต่ยังส่งผลต่อเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อต้องบรรทุกหรือลากจูง สิ่งที่น่าประทับใจอีกประการคือระยะความสูงใต้ท้องรถถึง 224 มิลลิเมตร และความสามารถในการลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร ทำให้ Poer Sahar พร้อมรับมือกับทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคบนถนน หรือการเดินทางผจญภัยในเส้นทางออฟโรด นี่คือรถกระบะที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับการใช้งานหนัก แต่ยังคงไว้ซึ่งความพรีเมียมในทุกรายละเอียด
ออปชันภายนอกที่ผสานดีไซน์และฟังก์ชัน
ภายนอกของ GWM POER SAHAR DIESEL ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนถึงความหรูหราและความแข็งแกร่ง ไฟหน้ารมดำแบบ LED อัจฉริยะ ไม่เพียงแต่ให้ความสว่างคมชัด แต่ยังมาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายในการขับขี่ในเวลากลางคืน พร้อมฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home) เพื่ออำนวยความสะดวกในการมองเห็นเมื่อคุณลงจากรถ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Light) และไฟท้ายรมดำแบบ LED ช่วยเพิ่มความโดดเด่นและปลอดภัยในการขับขี่ทั้งกลางวันและกลางคืน
กระจังหน้าสีดำ ราวหลังคาสีดำ และกรอบหน้าต่างสีดำ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่เสริมสร้างภาพลักษณ์สปอร์ตและดุดัน ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีดำ พร้อมยางขนาด 265/60 R18 ไม่เพียงแต่ดูสวยงาม แต่ยังให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว และกระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD) เป็นอีกหนึ่งความใส่ใจในรายละเอียดที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้วนเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งาน นอกจากนี้ บันไดข้างยังช่วยให้การขึ้นลงรถเป็นไปอย่างสะดวกสบาย และฝาท้ายที่เปิด-ปิดพร้อมระบบผ่อนแรง ก็ช่วยลดภาระในการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ปิดท้ายด้วยระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อพร้อมครีบระบายความร้อนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเบรกและความปลอดภัยสูงสุด
ภายในที่หรูหราและเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ GWM POER SAHAR DIESEL คุณจะพบกับบรรยากาศที่หรูหรา กว้างขวาง และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ช่วยให้คุณสามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ระบบเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด
วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์เกรดพรีเมียม ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและหรูหรา พร้อมพนักพิงเบาะหลังที่สามารถปรับระดับได้ 2 ระดับ (ประมาณ 33 องศา) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในรถกระบะ ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหลังได้รับความสะดวกสบายสูงสุดในการเดินทางไกล นอกจากนี้ พนักพิงเบาะยังสามารถพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมที่พักแขนตอนกลางและที่วางแก้ว เพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดเก็บสัมภาระและอำนวยความสะดวกสบาย ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบ Electronic Shifter มอบความรู้สึกที่ทันสมัยและประหยัดพื้นที่ กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start System เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงและสตาร์ทรถ กระจกไฟฟ้า One-Touch รอบคัน และหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ช่วยให้ทุกข้อมูลสำคัญอยู่ตรงหน้าคุณ ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อถึงความเร็วที่กำหนด และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ล้วนเป็นคุณสมบัติที่เสริมสร้างความพรีเมียม
สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ยังได้รับการยกระดับด้วยออปชันเพิ่มเติม เช่น ที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟแต่งหน้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในการปรับท่านั่ง ช่องต่อ USB ทั้งด้านหน้าและหลัง (รุ่น PRO มีเฉพาะด้านหน้า) ช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ และช่องจ่ายไฟสำรอง 220V ล้วนเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเดินทาง ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ระบบนำทาง (Navigation System) และระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) ที่รองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบไร้สาย (FOTA) สะท้อนถึงการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาผสานเข้ากับประสบการณ์การขับขี่อย่างแท้จริง
เฉพาะในรุ่น 2.4T ULTRA 4WD สุดยอดสมรรถนะออฟโรดที่เหนือกว่า ด้วยระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (Electric Rear Diff Lock) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มแรงฉุดลากเมื่อรถติดหล่มหรืออยู่บนพื้นผิวที่ลื่น ทำให้ล้อทั้งสองฝั่งหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย นอกจากนี้ กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติยังช่วยปรับความสว่างจากไฟหน้ารถที่ขับตามหลังในเวลากลางคืน ลดแสงสะท้อนและเพิ่มความปลอดภัย
เชื่อมต่อทุกเส้นทาง: ระบบความบันเทิงและ GWM แอปพลิเคชันอัจฉริยะ
ระบบความบันเทิงใน GWM POER SAHAR DIESEL ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เพลิดเพลิน ด้วยลำโพง 6 ตำแหน่ง พร้อมหน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วในรุ่น 2.4T PRO และหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้วในรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ซึ่งรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, Bluetooth และ MP5 ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและเข้าถึงแอปพลิเคชันโปรดได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้ในรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังรองรับ Online Music และ Online Radio เพื่อความบันเทิงที่ครบครันยิ่งขึ้น
ความอัจฉริยะของ GWM POER SAHAR ยังก้าวไปอีกขั้นด้วย GWM แอปพลิเคชันอัจฉริยะ (เฉพาะรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD) ที่ให้คุณสามารถเชื่อมต่อและควบคุมรถจากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟนได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะประตูและหน้าต่าง ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ ตรวจสอบระยะทางวิ่งคงเหลือและปริมาณน้ำมัน สถานะอุณหภูมิและแรงดันลมยาง ระบบช่วยเตือนเมื่อสถานะประตู/หน้าต่างผิดปกติ เมื่อแบตเตอรี่ 12V ต่ำ หรือเมื่อปริมาณน้ำมันต่ำ คุณยังสามารถค้นหาตำแหน่งรถยนต์ กำหนดขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ ล็อกและปลดล็อกประตู ปิดกระจก หรือแม้แต่เปิดและปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้าได้ ฟังก์ชันเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความอุ่นใจในการเป็นเจ้าของรถ
ที่สุดแห่งความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญในการออกแบบ GWM POER SAHAR DIESEL ซึ่งมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ครบครัน เพื่อปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างเต็มที่ ด้วยถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง พร้อมระบบติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center และระบบติดต่อเบอร์ฉุกเฉิน ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในที่แคบเป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการเข้าโค้งอัจฉริยะ (ACC) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ระยะไกลและในสภาพการจราจรติดขัด ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW) ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ
ในด้านการรักษาช่องทางขับขี่ Poer Sahar มีระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้รถอยู่ในช่องทางที่ถูกต้องและลดความเสี่ยงจากการเฉี่ยวชน นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเลี่ยงการชนทางด้านข้าง (WDS) และระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (LCA) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการเปลี่ยนเลนและการขับขี่บนถนนที่มีรถขนาดใหญ่
สำหรับการถอยหลังและจอดรถ ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ล้วนเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความมั่นใจและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM) ยังช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหลังจากการชนครั้งแรก ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน และลงทางลาดชัน (HSA / HDC) เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนเส้นทางที่เป็นเนินเขา ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW) เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจร และการแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด รวมถึงระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ที่สำคัญ โครงสร้างตัวถังของ GWM POER SAHAR ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ด้วยคานเหล็กกันกระแทกที่ติดตั้งครบทั้ง 4 ประตู พื้นรถ และหลังคา โดยใช้เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงมากกว่า 64.3% ของโครงสร้างทั้งหมด ทนต่อแรงบิดสูงถึง 61,118 นิวตันเมตร/องศา และแรงดัดที่ 26,163 นิวตัน/มิลลิเมตร ขณะที่หลังคาสามารถรับแรงกดได้มากถึง 4.88 เท่าของน้ำหนักตัวรถ ซึ่งสามารถท้าทายแรงกดจากน้ำหนักกว่า 10 ตันได้อย่างสบายใจ นี่คือวิศวกรรมที่คำนึงถึงความปลอดภัยอย่างแท้จริง
บทสรุป: รถกระบะพรีเมียมที่นิยามใหม่แห่งอนาคต
GWM POER SAHAR DIESEL 2025 ไม่ใช่แค่รถกระบะทั่วไป แต่เป็นผลลัพธ์ของการผสานรวมเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะที่แข็งแกร่ง และความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่มองหารถกระบะที่สามารถเป็นได้ทั้งยานพาหนะคู่ใจในการทำงาน รถครอบครัวสำหรับการเดินทาง และเพื่อนร่วมทางในการผจญภัย ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทรงพลัง ออปชันภายในที่สะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่ครบครัน GWM POER SAHAR พร้อมที่จะเป็นมาตรฐานใหม่ของรถกระบะพรีเมียมในตลาดปี 2025
หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่สามารถยกระดับทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมือง การผจญภัยนอกเส้นทาง หรือการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องการทั้งความสะดวกสบายและความมั่นใจ GWM POER SAHAR คือคำตอบที่ใช่ในเวลานี้ อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยตัวคุณเอง
ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของรถกระบะดีเซลพรีเมียม สัมผัส GWM POER SAHAR 2025 ได้แล้ววันนี้! เยี่ยมชมโชว์รูม GWM ใกล้บ้านคุณ หรือลงทะเบียนเพื่อทดลองขับ เพื่อค้นพบว่ารถกระบะคันนี้จะเปลี่ยนนิยามการเดินทางของคุณไปตลอดกาลได้อย่างไร

