Geely EX2: พลิกนิยาม City Car สู่ยุค 2025 – เกมเชนเจอร์ตัวจริงที่ทุกคนต้องจับตา
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพัฒนาการของอุตสาหกรรมนี้ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด จากรถยนต์ไฟฟ้าที่เคยเป็นเพียงแนวคิดและเทคโนโลยีที่เข้าถึงยาก วันนี้มันได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือที่รู้จักกันในนาม “City Car EV” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย และในปี 2025 นี้เอง มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตลาด และผมกล้าพูดได้เลยว่ามันคือ “เกมเชนเจอร์” ตัวจริง นั่นคือ Geely EX2
Geely EX2 ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าขนาด B-Segment ทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตูธรรมดา แต่มันคือการประกาศนิยามใหม่ของคำว่า “รถยนต์ City Car” อย่างสิ้นเชิง ด้วยสถาปัตยกรรม GEA Intelligent Architecture อันล้ำสมัยที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาล่าสุด Geely ได้ท้าทายทุกความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับรถยนต์สำหรับเมือง ทำให้รถคันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะสำหรับการเดินทางในเมือง แต่เป็นเสมือน “เพื่อนร่วมทางอัจฉริยะ” ที่พร้อมจะยกระดับคุณภาพชีวิตและการขับขี่ของผู้ใช้งานไปอีกขั้น
ความสำเร็จของ Geely EX2 ในประเทศจีนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะหลังจากที่เปิดตัวไป พวกเขาได้สร้างยอดขายถล่มทลาย แซงหน้าคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง BYD Seagull และแม้แต่ Tesla Model Y ขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 นั่นแสดงให้เห็นถึงการยอมรับและเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของ Geely ที่ไม่ได้มีดีแค่ราคา แต่ยังอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ นวัตกรรม และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Geely EX2 ถึงได้ฉายาว่า “เกมเชนเจอร์ตัวจริง” และเหตุใดคุณจึงไม่ควรมองข้ามรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้
ออกแบบล้ำสมัย สปอร์ตโดดเด่น ไม่ใช่แค่รถ “จิ๋ว” แต่ “แจ๋ว” กว่าที่คิด
เมื่อเราพูดถึงรถยนต์ City Car ภาพจำมักจะเป็นรถคันเล็กๆ ที่เน้นฟังก์ชันพื้นฐาน และอาจไม่โดดเด่นเรื่องดีไซน์มากนัก แต่ Geely EX2 ได้เข้ามาทำลายกรอบความคิดเหล่านั้นอย่างสิ้นเชิง ด้วยการออกแบบที่ผสานความน่ารักเข้ากับความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งผมมองว่านี่คือจุดแข็งสำคัญที่ทำให้มันแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า Geely EX2 ถูกออกแบบตามหลัก “Golden Ratio” ซึ่งไม่เพียงแค่ให้ความรู้สึกสบายตา ดูสมส่วนในทุกมิติ แต่ยังคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) เพื่อลดแรงต้านอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ และขยายระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น
สิ่งที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นคือชุดไฟหน้าแบบ Auto LED ที่มาพร้อมกับ Day Time Running Light (DRL) ในโคมเดียวกัน ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความสว่างและทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ช่วงกลางวันอีกด้วย ส่วนไฟท้ายก็ถูกออกแบบให้ไปในทิศทางเดียวกันกับไฟหน้า ด้วยดีไซน์แบบ “Feather-Flow” หรือรูปทรงคล้ายขนนกที่พลิ้วไหว ให้ความรู้สึกพรีเมียมและทันสมัยอย่างเห็นได้ชัด ล้ออัลลอยด์ลายใบ Clover 4 แฉก ขนาด 205/65/15 หรือ 205/60/16 (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ก็เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่ช่วยเสริมบุคลิกของ Geely EX2 ให้ดูโดดเด่นและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร เป็นการผสมผสานความน่ารักเข้ากับความแข็งแกร่งได้อย่างลงตัว
มิติตัวถังของ Geely EX2 นั้นถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ ด้วยความยาว 4,135 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร และสูง 1,580 มิลลิเมตร ทำให้ตัวรถดูมีสัดส่วนที่กำลังดี ไม่เล็กจนอึดอัด แต่ก็ยังคงความคล่องตัวในการซอกแซกจราจรและการหาที่จอดในเมืองใหญ่ ฐานล้อยาว 2,650 มิลลิเมตร ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญ เพราะมันไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสารให้กว้างขวางเกินคาดสำหรับรถในเซกเมนต์ B-Segment เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพการขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ความเร็วบนทางหลวง ระยะความสูงใต้ท้องรถ 162 มิลลิเมตร (แบบไม่บรรทุก) ก็ถือว่าเพียงพอต่อการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ที่บางครั้งอาจเจอเนินหรือทางต่างระดับได้โดยไม่ต้องกังวล
นอกจากนี้ Geely EX2 ยังเอาใจสายกิจกรรมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ขยายความจุสูงสุดได้ถึง 1,320 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง ซึ่งถือว่ากว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ทำให้คุณสามารถขนสัมภาระ อุปกรณ์กีฬา หรือแม้แต่ของใช้ขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นทริปพักผ่อนสั้นๆ หรือการช้อปปิ้งประจำสัปดาห์ ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Geely EX2 อีกต่อไป
สำหรับรายละเอียดภายนอกระหว่างรุ่นย่อย Pro และ Max นั้น สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือในรุ่น Max จะมีระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam) มาให้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน ส่วน Frunk หรือช่องเก็บสัมภาระด้านหน้าขนาด 70 ลิตร ที่หลายคนชื่นชอบ ก็มีมาให้ทั้งสองรุ่นย่อย ถือเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเก็บสายชาร์จ หรือของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่อยากปะปนกับสัมภาระด้านหลัง
ขุมพลังไฟฟ้าที่เหนือกว่า: ประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ยุค 2025
ภายใต้ดีไซน์ที่โดดเด่น Geely EX2 ยังซ่อนขุมพลังและเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าที่เหนือชั้นไว้ภายใน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Geely ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ แต่ยังมอบประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของปี 2025
Geely EX2 ทั้งสองรุ่นย่อย (Pro และ Max) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor – PMSM) แบบ 11-in-1 Intelligent Electric Drive ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ทันสมัย การรวมส่วนประกอบสำคัญ 11 อย่างเข้าไว้ในชุดเดียว ทำให้ระบบมีขนาดกะทัดรัด ประหยัดพื้นที่ มีประสิทธิภาพสูง และลดความซับซ้อนในการบำรุงรักษา มอเตอร์ชุดนี้ให้กำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองได้อย่างสนุกสนานและคล่องตัว ด้วยการตอบสนองของมอเตอร์ไฟฟ้าที่รวดเร็วทันใจ ทำให้การออกตัวและการเร่งแซงเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมั่นใจ
แบตเตอรี่ที่ใช้เป็นชนิด LFP (Lithium Iron Phosphate) ขนาด 39.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่โดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัย อายุการใช้งานที่ยาวนาน และความทนทานต่ออุณหภูมิที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานในประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างประเทศไทย ด้วยแบตเตอรี่ชุดนี้ Geely EX2 สามารถทำระยะทางขับขี่สูงสุดได้ถึง 395 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือ 325 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนการใช้งานจริงได้แม่นยำกว่า และถือว่าเป็นระยะทางที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ City Car EV ทำให้การเดินทางในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการไปทำงาน ช้อปปิ้ง หรือแม้แต่ทริปสั้นๆ นอกเมือง ก็เป็นไปได้อย่างไร้กังวล
เรื่องการชาร์จพลังงานก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ Geely EX2 ตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่ได้อย่างครบครัน รองรับการชาร์จ AC Type 2 สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือตามสถานีชาร์จสาธารณะที่รองรับ และที่สำคัญคือรองรับการชาร์จ DC CCS2 สูงสุด 70 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นระบบชาร์จเร็วที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางไกล โดยใช้เวลาเพียง 25 นาทีในการชาร์จจาก 30-80% ทำให้คุณสามารถแวะพักเพื่อชาร์จไฟได้รวดเร็วทันใจ และกลับสู่เส้นทางได้อย่างไม่เสียเวลามากนัก
ในด้านสมรรถนะการขับขี่ Geely EX2 สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 11.5 วินาที ซึ่งถือว่าจัดจ้านและเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่ และด้วย Top Speed ที่ถูกล็อกไว้ที่ 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็ทำให้มั่นใจได้ว่าตัวรถยังคงให้ความปลอดภัยและมีเสถียรภาพในการขับขี่บนทางหลวง แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กก็ตาม
ระบบช่วงล่างก็ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี โดยด้านหน้าเป็นแบบแม็คฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) และด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงค์ (Multi-link) ซึ่งให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม และการควบคุมที่แม่นยำ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน เพื่อประสิทธิภาพในการหยุดรถที่ดีขึ้นและลดปัญหาเบรกเฟด ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกธรรมดา นอกจากนี้ยังมีระบบการเบรกเพื่อจ่ายพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking) ที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และยืดระยะทางขับขี่ให้ได้ไกลยิ่งขึ้น และที่สำคัญ Geely EX2 ยังมาพร้อมกับระบบถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ (Vehicle-to-Load หรือ V2L) ที่ให้กำลังสูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ ทำให้รถของคุณกลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปตั้งแคมป์ ปิคนิค หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉิน ก็ทำได้อย่างสบาย
เหนือกว่าคู่แข่งในทุกมิติ: ภายในห้องโดยสารอัจฉริยะและพรีเมียม
หากเราพูดถึงคู่แข่งในพิกัดเดียวกันอย่าง BYD Dolphin, AION UT, GWM ORA Good Cat หรือ MG4 ผมกล้าพูดได้เลยว่า Geely EX2 สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของรถยนต์ City Car ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ภายในห้องโดยสารที่เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งในด้านวัสดุ ฟังก์ชันการใช้งาน และความรู้สึกพรีเมียมที่สัมผัสได้ทันทีที่ก้าวเข้ามา
ภายในห้องโดยสารของ Geely EX2 ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ด้วยการใช้วัสดุแบบ Soft-Touch ในหลายจุด ช่วยเพิ่มสัมผัสที่นุ่มนวลและลดเสียงรบกวนจากภายใน การออกแบบห้องโดยสารแบบทูโทนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมความรู้สึกหรูหราและทันสมัย ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ในรถยนต์ระดับที่สูงกว่า ผิดจากภาพจำของรถยนต์ City Car ทั่วไป
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังที่ปรับสูง-ต่ำได้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ให้เหมาะสมกับสรีระได้อย่างง่ายดาย กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และกระจกหน้าต่างปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน ก็เป็นฟังก์ชันเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และโดยสาร
เบาะนั่งก็ถูกยกระดับให้ดีขึ้นกว่าที่เคยพบในรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เบาะหนังสังเคราะห์ให้สัมผัสที่นุ่มสบายและดูแลรักษาง่าย โดยในรุ่น Pro เบาะนั่งคนขับสามารถปรับได้ 6 ทิศทางแบบแมนนวล แต่ในรุ่น Max จะได้รับการอัปเกรดเป็นเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการปรับท่านั่งให้ลงตัวยิ่งขึ้น ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับได้ 4 ทิศทางในทั้งสองรุ่นย่อย นอกจากนี้ Geely EX2 ยังใส่ใจในความสะดวกสบายของผู้โดยสารตอนหลังด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่หาได้ยากในรถยนต์ City Car ทั่วไป
หัวใจสำคัญของห้องโดยสารอัจฉริยะคือหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนและชัดเจน แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าจอ Infotainment แบบสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการควบคุมระบบต่างๆ ภายในรถยนต์ มาพร้อมการรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้อย่างราบรื่น ใช้งานแผนที่ ฟังเพลง หรือเข้าถึงแอปพลิเคชันโปรดได้อย่างง่ายดาย
สำหรับรุ่น Max ยังเพิ่มฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Internet 4G และความสามารถในการค้นหาและสั่งงานผ่าน Smart Phone ซึ่งช่วยให้คุณสามารถควบคุมฟังก์ชันบางอย่างของรถได้จากระยะไกล เช่น การตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การเปิด/ปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้า หรือการค้นหาตำแหน่งรถ ลำโพงในรุ่น Pro มีให้ 4 ตัว ส่วนรุ่น Max ได้รับการอัปเกรดเป็น 6 ตัว เพื่อคุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น พอร์ต USB-A และ USB-C สำหรับที่นั่งด้านหน้ามีให้ทั้งสองรุ่นย่อย และในรุ่น Max ยังมีพอร์ต USB-A สำหรับที่นั่งด้านหลังเพื่อความสะดวกสบายของผู้โดยสารอีกด้วย นอกจากนี้รุ่น Max ยังมาพร้อมกับ Wireless Charger และ Ambient Lighting ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 256 เฉดสี สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ตรงกับความรู้สึกของคุณในแต่ละวัน และฟังก์ชันการเปิด-ปิดกระจกหน้าต่างด้วยรีโมท ก็เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่ Geely EX2 มอบให้
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะและความปลอดภัยระดับพรีเมียม
Geely EX2 ไม่เพียงแค่โดดเด่นเรื่องดีไซน์และขุมพลัง แต่ยังอัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) และระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนแพลตฟอร์ม GEA Intelligent Architecture ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเทคโนโลยีเหล่านี้โดยเฉพาะ ทำให้คุณมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ Geely EX2 กลายเป็นรถยนต์ City Car ที่ใช้งานง่ายกว่าเดิมคือรัศมีวงเลี้ยวที่แคบเพียง 4.95 เมตร เท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างมาก ทำให้การกลับรถ การเลี้ยวในพื้นที่แคบ หรือการถอยจอดในเมืองเป็นเรื่องง่ายดาย และช่วยลดความเครียดในการขับขี่ไปได้มาก
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ที่ Geely EX2 มอบให้นั้นมีความหลากหลายและครอบคลุมการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น:
ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC): (เฉพาะรุ่น Max) ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางไกล
ระบบช่วยเตือนการชนหน้า (FCW) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (AEB): (เฉพาะรุ่น Max) ตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหน้า พร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงหรือป้องกันการชน
ระบบช่วยเตือนการชนหลัง (RCW): (ทั้งสองรุ่น) ตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหลัง
ระบบ Blind Spot Monitoring (BSM): (ทั้งสองรุ่น) ตรวจจับรถในจุดอับสายตาและแจ้งเตือน
ระบบช่วยเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA): (ทั้งสองรุ่น) แจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนเลนขณะที่มีรถอยู่ในจุดอับสายตา
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง (RCTA): (ทั้งสองรุ่น) ตรวจจับรถหรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่มาจากด้านข้างขณะถอยหลัง
ระบบช่วยเตือนรถออกนอกเลน (LDW): (เฉพาะรุ่น Max) แจ้งเตือนเมื่อรถกำลังจะออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบช่วยเตือนการชนก่อนเปิดประตู (DOORS): (ทั้งสองรุ่น) แจ้งเตือนเมื่อมีรถหรือวัตถุเคลื่อนที่มาจากด้านหลังขณะกำลังจะเปิดประตู
ระบบช่วยตรวจสอบป้ายจราจร (TSR): (เฉพาะรุ่น Max) ตรวจจับและแสดงป้ายจำกัดความเร็วบนหน้าจอ
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FVD): (เฉพาะรุ่น Max) แจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนที่ในขณะที่คุณหยุดนิ่ง
นอกจากระบบ ADAS ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้นแล้ว Geely EX2 ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเชิงรับที่ครบครัน เพื่อปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน:
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ครอบคลุมผู้โดยสารทุกตำแหน่ง
เรดาร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการถอยจอด
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) และระบบเบรกอัตโนมัติชั่วคราว Auto Hold เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่เมื่อต้องจอดติดไฟแดงหรือบนทางลาดชัน
ระบบช่วยตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS) แจ้งเตือนเมื่อแรงดันลมยางผิดปกติ
ระบบช่วยป้องกันล้อล็อค (ABS), ระบบช่วยควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA)
ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), ระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS), ระบบช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC), ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า-หลังพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ รวมถึงระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย
ISOFIX สำหรับติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก และระบบล็อคนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูด้านหลังจากในรถ
ระบบช่วยป้องกันการโจรกรรม และระบบสัญญาณกันขโมย
ระบบเตือนคนรอบข้างขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ (AVAS) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ
ระบบปลดล็อคฝาท้ายฉุกเฉิน
สิ่งเดียวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างรุ่น Pro และ Max ในส่วนของระบบภาพคือ ในรุ่น Pro จะมีกล้องมองภาพด้านหลังมาให้ ส่วนรุ่น Max จะได้เป็นกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา พร้อมโหมดแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง ซึ่งช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นไม่มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ซึ่งอาจเป็นข้อสังเกตเล็กน้อยสำหรับบางท่าน
Geely EX2 มีสีภายนอก-ภายใน ให้เลือกหลากหลายเพื่อให้คุณได้ปรับแต่งรถให้เข้ากับสไตล์ของคุณ:
Geely EX2 Pro: มีให้เลือก 4 สีภายนอก ได้แก่ สีเบจ, สีเทา, สีเงิน, สีขาว โดยจะมาพร้อมกับภายในสีเทา
Geely EX2 Max: มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งสีทูโทนและสีภายในที่แตกต่างกัน:
สีเบจ/หลังคาดำ, สีเทา/หลังคาดำ, สีเงิน/หลังคาดำ (ภายในสีเทา)
หรือ สีเขียว/หลังคาดำ, สีเบจ/หลังคาดำ (ภายในสีขาว)
Geely EX2: รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่พร้อมสำหรับคุณ
จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในการสังเกตการณ์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า Geely EX2 ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอีกคันหนึ่งในตลาด แต่มันคือการยกระดับมาตรฐานของ City Car ขึ้นไปอีกขั้นอย่างแท้จริง ด้วยยอดขายถล่มทลายในประเทศจีนที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพและเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ใช้งาน ทำให้ Geely EX2 ได้รับการยอมรับในระดับโลกและกลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
Geely EX2 ผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่นและมีสไตล์เข้ากับเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ทันสมัย ภายในห้องโดยสารที่พรีเมียมและอัดแน่นด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ ไปจนถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยที่ครบครัน ทำให้ทุกการเดินทางในเมืองของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่น สะดวกสบาย และปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การเดินทางไปทำงาน หรือแม้แต่การออกทริปสั้นๆ Geely EX2 ก็พร้อมจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ตอบสนองทุกความต้องการของคุณได้อย่างลงตัว
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่เป็น “เกมเชนเจอร์” ที่จะมาเปลี่ยนภาพจำของรถยนต์ City Car ไปตลอดกาล Geely EX2 คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการ ขอเชิญชวนให้ทุกท่านที่สนใจ ได้มาสัมผัสและทดลองขับ Geely EX2 ด้วยตัวคุณเอง
อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของยุคสมัยใหม่แห่งการขับเคลื่อน! Geely EX2 กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2025 ที่กำลังจะมาถึงในปลายเดือนนี้
มาพิสูจน์ “เกมเชนเจอร์” ตัวจริงด้วยตาของคุณเอง! เยี่ยมชมบูธ Geely เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม ลงทะเบียนทดลองขับ และเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตก่อนใคร แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม Geely EX2 ถึงได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการยานยนต์ไฟฟ้า

