เปิดตัว Lamborghini Temerario 2024-2025 ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ล่าสุด
Temerario เปิดตัวด้วย 2 โทนสีใหม่ที่ออกแบบมาพร้อมกับรถรุ่นนี้ ได้แก่
- สีน้ำเงิน Blu Marinus
- สีเขียว Verde Mercurius
(พร้อมนำเสนอสีตัวถังมากกว่า 400 รายการและลวดลายพิเศษ พร้อมให้ลูกค้าเลือกปรับแต่งได้อย่างไม่รู้จบผ่านโปรแกรม Ad Personam ของลัมโบร์กีนี)

ขุมพลัง Lamborghini Temerario 2024-2025
Temerario ระบบส่งกำลังไฮบริดรูปแบบใหม่ซึ่งเกิดจากการผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบที่พัฒนาใหม่ในทุกรายละเอียดเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว มอบกำลังเครื่องยนต์รวมถึง 920 CV โดยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมดโดยโรงงาน Sant’Agata Bolognese และยังเป็นเครื่องยนต์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในการผลิตที่สามารถทำความเร็วรอบได้สูงถึง 10,000 รอบต่อนาที ประสิทธิภาพที่สั่นสะเทือนวงการอย่างแท้จริงโดยมีความเร็วสูงสุดมากกว่า 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง (เร็วกว่า 210 ไมล์/ชั่วโมง) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง (0-62 ไมล์/ชั่วโมง) ได้ในเวลาเพียง 2.7 วินาที
“ระบบขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ ซึ่งได้แก่เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ V8 ขนาด 4.0 ลิตรแบบใหม่ที่มีกำลังเครื่องจำเพาะที่ 200 แรงม้าต่อลิตร โดยทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบระบายความร้อนด้วยน้ำมันที่ผสานการทำงานได้อย่างสมบูรณ์กับตัวเครื่องยนต์ V8 พร้อมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่เพลาหน้าที่ช่วยส่งกำลังขับเคลื่อน”
ลัมโบร์กินีได้ออกแบบทัศนียภาพของเสียงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแต่ละโหมดการขับขี่ทั้งในโหมด Città, Strada, Sport และ Corsa โดยโหมด Città จะให้เสียงที่ฟังสบาย ๆ ระดับพรีเมียมด้วยโทนเสียงพิเศษจากชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งจะให้ประสบการณ์เสียงที่นุ่มนวล ลื่นไหล และน่าพึงพอใจในสภาพแวดล้อมแบบตัวเมือง ซึ่ง Temerario จะไม่มีการปล่อยมลพิษและทำงานเงียบมากในโหมด Città

ภายนอก Lamborghini Temerario 2024-2025
ล้อหน้าใหม่ขนาด 20 นิ้วและล้อหลัง 21 นิ้ว โดยมีให้เลือก 3 แบบในวัสดุที่แตกต่างกัน ทั้งล้อโหละผสม (สามสี) ล้อฟอร์จ (สี่สี) และล้อคาร์บอน โดยการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในก็มีออปชันคาร์บอนไฟเบอร์ให้เลือกหลากหลายส่วน อาทิ สปลิตเตอร์หน้า ฝาครอบกระจก ช่องระบายอากาศด้านข้าง ดิฟฟิวเซอร์ด้านหลัง ช่องกลาง แผงหน้าปัด ช่องระบายอากาศ กรอบสวิตช์ประตู พวงมาลัยคาร์บอน ฝาครอบคอพวงมาลัย และหัวเกียร์
รถยนต์ Temerario ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของลัมโบร์กินีในแง่ของการพัฒนาประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ ผสานกับรายละเอียดและเส้นสายอย่างมีสไตล์ ซึ่งแสดงถึงความเป็นเลิศด้านการออกแบบของแบรนด์ โครงสร้างใหม่ทั้งหมดผลิตจากโครงอะลูมิเนียมโดยการใช้โลหะผสมที่ล้ำสมัย ซึ่งให้ความแข็งแรงสูงและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ จึงสามารถเพิ่มความทนทานต่อแรงบิดสูง และยังช่วยเสริมพลศาสตร์การขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม
โครงแชสซีมอบความสะดวกสบายชั้นเลิศแก่ผู้โดยสารด้วยความกว้างที่เพิ่มขึ้น โดย Temerario เป็นซูเปอร์สปอร์ตคาร์ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะขั้นสูงสุดในสนามแข่ง ในขณะเดียวกันก็มอบพื้นที่กว้างทั้งสำหรับผู้โดยสารและช่องเก็บสัมภาระได้มากกว่ารถยนต์รุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน

Temerario ยังมอบประสบการณ์ที่ล้ำสมัยที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของลัมโบร์กินี ด้วยการเปิดตัวระบบ Lamborghini Vision Unit ซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงฟังก์ชันและแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังทำให้ผู้ใช้สามารถย้อนดูและแบ่งปันประสบการณ์การขับขี่ที่ผ่านมา ทั้งในสนามแข่งขันและบนถนนของตนให้แก่คนอื่นได้
ฝ่ายออกแบบ Lamborghini Centro Stile ได้พยายามสร้างสรรค์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ถือเป็นการพัฒนา DNA การออกแบบแนวใหม่ให้กับแบรนด์ ที่มาพร้อมภาพลักษณ์อันหรูหรา โดดเด่น แสดงถึงอัตลักษณ์ในแบบฉบับของตัวเองอย่างถึงที่สุด
เมื่อมองแวบแรก Temerario สื่อถึง DNA ในแบบฉบับของลัมโบร์กินีได้อย่างชัดเจน ทั้งเส้นสายที่เด่นชัด การผสมผสานของระบบอากาศพลศาสตร์อย่างยอดเยี่ยม และดีไซน์ทรงจมูกฉลามอันโดดเด่น

ไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมมีเซ็นเซอร์เรดาร์ในตัวและช่องอากาศในตัว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรัชญาในการออกแบบที่ผสานระบบไฟส่องสว่างเข้ากับหลักการอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง นอกจากนี้ ช่องอากาศที่อยู่ด้านล่างไฟหน้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการไหลของอากาศและการระบายความร้อนของระบบเบรกหน้าประสิทธิภาพสูง เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ส่วนหลังคาได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยรูปแบบที่เอนลู่ไปทางด้านหลังเล็กน้อยจะช่วยนำอากาศไปยังปีกหลังที่รวมไว้โดยตรง ซึ่งส่วนนี้จะมีประโยชน์มากโดยช่วยให้เครื่องยนต์ หม้อน้ำ และเครื่องเทอร์โบชาร์จเจอร์มีอากาศไหลเวียนอย่างเพียงพอ (เป็นต้น)


