Geely EX2: พลิกโฉมวงการ City Car EV แห่งปี 2025 ด้วยสถาปัตยกรรมอัจฉริยะและความคุ้มค่าเหนือระดับ
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์พลังงานสะอาดมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบันที่เทคโนโลยี EV ได้ก้าวหน้าไปไกลเกินกว่าที่หลายคนคาดคิด และในปี 2025 นี้เอง ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้ง โดยเฉพาะในเซกเมนต์ City Car ที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงรถยนต์ขนาดเล็ก ประหยัด และเน้นฟังก์ชันพื้นฐาน แต่ทว่าวันนี้ มีผู้เล่นรายใหม่ที่กำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า “รถยนต์ City Car EV” อย่างแท้จริง นั่นคือ Geely EX2 ซึ่งผมกล้ากล่าวได้เลยว่า นี่คือ “เกมเชนเจอร์” ตัวจริง ที่ไม่ได้แค่มาเพื่อแข่งขัน แต่มาเพื่อยกระดับมาตรฐานและสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่กำลังจะต้อนรับการมาถึงของมันอย่างเป็นทางการ
Geely EX2: จากความสำเร็จถล่มทลายในจีน สู่มาตรฐานใหม่ของโลก EV
ก่อนที่เราจะเจาะลึกถึงรายละเอียด ผมอยากจะพูดถึงปรากฏการณ์ Geely EX2 ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ก่อน มันไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่งที่เปิดตัว แต่เป็นการสร้างยอดขายถล่มทลายชนิดที่เฉือนเอาชนะคู่แข่งชื่อดังอย่าง BYD Seagull และแม้กระทั่ง Tesla Model Y ได้อย่างน่าประทับใจ นี่คือสิ่งที่ยืนยันว่า Geely EX2 ไม่ได้มาเล่นๆ แต่มาพร้อมกับแนวคิดที่ต้องการ “เปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของรถยนต์ City Car” ให้กลายเป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ครบครัน ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ เทคโนโลยี และความปลอดภัย ในแพ็กเกจที่ลงตัวสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่และขยายไปถึงการเดินทางระหว่างเมือง
สิ่งที่ทำให้ Geely EX2 แตกต่างและโดดเด่น คือการสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม GEA Intelligent Architecture ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่หลอมรวมทุกองค์ประกอบให้ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้ที่ติ แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่เป็นระบบสมองกลที่รองรับการเชื่อมต่ออัจฉริยะ การประมวลผลข้อมูล และการทำงานของระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง นี่คือเบื้องหลังความสามารถที่ทำให้ EX2 ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถยนต์ City Car แบบดั้งเดิมได้อย่างแท้จริง
การออกแบบที่ลงตัว: “Golden Ratio” ของ City Car แห่งอนาคต
เมื่อพูดถึงรถยนต์ City Car หลายคนอาจนึกถึงรถทรงกล่องเล็กๆ เน้นฟังก์ชัน แต่ Geely EX2 ได้ฉีกกรอบความคิดนั้นทิ้งไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการออกแบบตัวถังภายใต้แนวคิด “Golden Ratio” ที่ผสานความน่ารักกะทัดรัดเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ได้อย่างลงตัว เส้นสายที่ลู่ลมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่และระยะทางวิ่งสูงสุดในแบบรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งยังคงเอกลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็รู้สึกถึงความสดใหม่และทันสมัย
ไฟหน้า Auto LED ดีไซน์ล้ำสมัย พร้อม Day Time Running Light (DRL) ในโคมเดียวกัน ให้ความสว่างและปลอดภัยในทุกสภาพการขับขี่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปิด-ปิดไฟในเวลากลางคืนหรือยามที่แสงน้อย และเมื่อมองไปยังด้านท้าย ไฟท้ายได้รับการออกแบบในทิศทางเดียวกันกับไฟหน้า ด้วยรูปทรงแบบ Feather-Flow หรือขนนกที่ดูพลิ้วไหว มีมิติ และสร้างความโดดเด่นไม่แพ้กัน เสริมด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ลายใบ Clovers 4 แฉก ขนาด 205/65/15 หรือ 205/60/16 (แล้วแต่รุ่นย่อย) ไม่เพียงแต่เสริมความสวยงาม แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบโดยรวมที่คำนึงถึงประสิทธิภาพและความกลมกลืน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่การตกแต่ง แต่เป็นการสะท้อนปรัชญาการออกแบบที่คิดมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ในส่วนของมิติตัวถัง Geely EX2 มีความยาว 4,135 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,580 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเกินคาดสำหรับรถยนต์ B-Segment ความสูงใต้ท้องรถ 162 มิลลิเมตร (แบบไม่บรรทุก) ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจบนสภาพถนนที่หลากหลาย และที่สำคัญ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรองรับทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปจ่ายตลาด การออกทริปต่างจังหวัด หรือแม้แต่การบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ ด้วยความจุสูงสุดถึง 1,320 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำว่า Geely EX2 ไม่ใช่แค่รถสำหรับในเมืองเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างครบครัน พร้อม Frunk ด้านหน้าขนาด 7 ลิตรที่เพิ่มความสะดวกสบายในการเก็บของจุกจิกอีกด้วย
สมรรถนะที่ “จิ๋วแต่แจ๋ว”: กำลังและระยะทางที่พร้อมลุย
หัวใจสำคัญของ Geely EX2 คือระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ โดยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Geely EX2 Pro และ Geely EX2 Max ซึ่งทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (PMSM) แบบ 11-in-1 Intelligent Electric Drive ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ หรือ 114 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร แม้ตัวเลขอาจดูไม่สูงนัก แต่ด้วยน้ำหนักตัวรถที่เหมาะสม การขับเคลื่อนล้อหลังทำให้ EX2 มีอัตราเร่งที่กระฉับกระเฉง ตอบสนองไว เหมาะกับการใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว และยังเพียงพอสำหรับการเดินทางนอกเมืองแบบสบายๆ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 11.5 วินาที และ Top Speed ที่ถูกจำกัดไว้ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น เป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผลและเพียงพอต่อการใช้งานจริงในประเทศไทย
ในส่วนของพลังงาน EX2 มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ขนาด 39.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีความเสถียรและความปลอดภัยสูง One-Charge สามารถขับได้ระยะทางสูงสุด 395 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC หรือ 325 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งเป็นระยะทางที่ผมมองว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน หรือการเดินทางข้ามจังหวัดในระยะใกล้-ปานกลาง และเมื่อถึงเวลาชาร์จ ก็ไม่ต้องรอนาน เพราะรองรับการชาร์จ AC Type 2 สูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ และที่สำคัญ รองรับการชาร์จ DC CCS2 สูงสุดถึง 70 กิโลวัตต์ โดยใช้เวลาในการชาร์จ DC จาก 30-80% ได้ในเวลาเพียง 25 นาที ซึ่งรวดเร็วทันใจ ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ที่ไม่ชอบการรอคอย
สิ่งที่น่าสนใจและเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ Geely EX2 คือระบบถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่างๆ (V2L – Vehicle to Load) ที่ให้กำลังสูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้รถยนต์ของคุณเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ตั้งแคมป์ หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉินในบ้าน ฟังก์ชัน V2L นี้ไม่ใช่แค่ gimmick แต่เป็นฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่ไม่ได้เป็นแค่พาหนะ แต่เป็นมากกว่านั้น
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ Geely EX2 ให้มาเกินคาดสำหรับรถยนต์ในเซกเมนต์นี้ โดยเฉพาะช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ที่มักจะพบในรถยนต์พรีเมียมหรือขนาดใหญ่กว่า ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล เกาะถนนดีเยี่ยม และควบคุมได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบเบรกด้านหน้ายังเป็นดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกธรรมดา พร้อมระบบการเบรกเพื่อจ่ายพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking) ที่ปรับได้ถึง 3 ระดับ ซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางขับขี่และลดการสึกหรอของผ้าเบรกได้อย่างมีนัยสำคัญ
ห้องโดยสารอัจฉริยะ: เหนือกว่าคู่แข่งในทุกมิติ
หากคุณเคยสัมผัสกับรถยนต์ City Car EV รุ่นอื่นๆ ในพิกัดใกล้เคียงอย่าง BYD Dolphin, AION UT, GWM ORA Good Cat หรือ MG4 ผมกล้าพูดได้เลยว่า Geely EX2 จะมอบประสบการณ์ภายในที่แตกต่างและเหนือกว่าอย่างชัดเจน Geely ไม่ได้แค่ใส่ฟังก์ชันมาให้เยอะ แต่ใส่ใจในรายละเอียดและคุณภาพของวัสดุ การใช้วัสดุแบบ Soft-Touch ในหลายจุดของห้องโดยสาร และการออกแบบภายในแบบทูโทน ทำให้รู้สึกถึงความพรีเมียม หรูหรา และความใส่ใจในดีไซน์ที่สัมผัสได้ ไม่ใช่แค่พลาสติกแข็งๆ ทั่วไป
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว แสดงผลได้อย่างคมชัดและครบครัน ส่วนหน้าจอ Infotainment ขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ Geely EX2 เหนือกว่าคู่แข่งหลายรายในเรื่องของการแสดงผลและประสบการณ์ผู้ใช้ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto อย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างไร้รอยต่อ และในรุ่น Max ยังมีระบบเชื่อมต่อ Internet 4G พร้อมฟังก์ชันค้นหาและสั่งงานผ่าน Smart Phone ได้อีกด้วย ยกระดับให้รถเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตดิจิทัลของคุณได้อย่างสมบูรณ์
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังที่ปรับสูง-ต่ำได้ เบาะนั่งหนังสังเคราะห์ที่นั่งสบาย โดยในรุ่น Max เบาะนั่งคนขับยังปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุด ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลังช่วยให้ทุกคนในรถเย็นสบายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันกระจกหน้าต่างปรับ Auto 4 ประตู, กระจกมองหลังตัดแสง, ลำโพง 4 หรือ 6 ตำแหน่ง (ขึ้นอยู่กับรุ่น), ช่องเสียบ USB-A และ C ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึง Wireless Charger ในรุ่น Max และไฟ Ambient Lighting ปรับได้ถึง 256 เฉดสี ที่สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้เปลี่ยนไปตามอารมณ์ของคุณได้ตลอดเวลา และฟังก์ชันเปิด-ปิดกระจกหน้าต่างด้วยรีโมทที่เพิ่มความสะดวกสบายก่อนเข้าและหลังออกจากรถ
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัย: GEA Platform หัวใจสำคัญแห่งความอุ่นใจ
Geely EX2 ไม่ได้โดดเด่นแค่ดีไซน์และสมรรถนะ แต่ยังอัดแน่นไปด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) และระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ด้วย GEA Platform ที่เป็นสถาปัตยกรรมอัจฉริยะ ทำให้มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง เปลี่ยนการเดินทางที่ซับซ้อนให้ง่ายดายขึ้น ด้วยวงเลี้ยวรัศมีที่แคบเพียง 4.95 เมตรเท่านั้น ทำให้ชีวิตในเมืองสะดวกสบายขึ้นเป็นเท่าตัว การกลับรถ การจอดรถในที่แคบ หรือการซอกแซกในจราจรติดขัดจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ที่มาพร้อมกับ Geely EX2 โดยเฉพาะในรุ่น Max นั้น ถือว่าครบครันเกินกว่าที่ City Car EV ทั่วไปจะมอบให้:
ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC): ช่วยควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล
ระบบช่วยเตือนการชนหน้า (FCW) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (AEB): เพิ่มความปลอดภัยด้วยการเตือนและช่วยเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงจากการชน
ระบบช่วยเตือนการชนหลัง (RCW): ช่วยเตือนเมื่อมีรถเข้ามาใกล้จากด้านหลัง
ระบบ Blind Spot (BSD) และระบบช่วยเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA): ลดจุดบอดและเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร
ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง (RCTA): แจ้งเตือนเมื่อมีวัตถุเคลื่อนที่ตัดผ่านด้านหลังขณะถอยรถ
ระบบช่วยเตือนรถออกนอกเลน (LDW): ช่วยป้องกันการออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบช่วยเตือนการชนก่อนเปิดประตู (DOW): ป้องกันอุบัติเหตุจากการเปิดประตูชนรถหรือจักรยานยนต์ที่แล่นผ่านมา
ระบบช่วยตรวจสอบป้ายจราจร (TSR): แสดงข้อมูลป้ายจราจรบนหน้าจอ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดข้อมูลสำคัญ
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FCDA): แจ้งเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ออกไปแล้วในสภาพการจราจรติดขัด
นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมด้านข้าง, ม่านถุงลมด้านข้าง, เรดาร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหลัง, ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB), ระบบเบรกอัตโนมัติชั่วคราว Auto Hold, ระบบช่วยตรวจสอบแรงดันลมยาง (TPMS), ระบบช่วยป้องกันล้อล็อค (ABS), ระบบช่วยควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA), ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC), ระบบช่วยป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS), ระบบช่วยป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC), ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และเข็มขัดนิรภัยพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ รวมถึงระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัยทั้งหน้า-หลัง, ISOFIX สำหรับเด็ก และระบบล็อคนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูด้านหลังจากในรถ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทุกคนในครอบครัว และไม่ลืมระบบช่วยป้องกันการโจรกรรม, ระบบสัญญาณกันขโมย, ระบบเตือนคนรอบข้างขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ (AVAS) และระบบปลดล็อคฝาท้ายฉุกเฉิน
สิ่งเดียวที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างรุ่น Pro และ Max ในส่วนของกล้องมองภาพ คือในรุ่น Pro จะมีกล้องมองภาพด้านหลังมาให้เพื่อช่วยในการถอยจอด ส่วนรุ่น Max จะได้เป็นกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา พร้อมโหมดแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง (Transparent Chassis) ซึ่งช่วยให้มองเห็นสภาพรอบรถได้อย่างชัดเจน ลดจุดบอดในการขับขี่และจอดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรุ่นไม่มีที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาตามลักษณะการใช้งานในสภาพอากาศของไทย
Geely EX2: ทางเลือกที่น่าตื่นเต้นสำหรับตลาด EV ไทยปี 2025
Geely EX2 ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้าอีกคันในตลาด แต่เป็นนวัตกรรมที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนมุมมองที่เรามีต่อ City Car EV อย่างสิ้นเชิง ความสำเร็จในประเทศจีนเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ชัดเจนว่ารถคันเล็กก็สามารถให้คุณค่าที่ยิ่งใหญ่ได้ ด้วยการผสมผสานดีไซน์ที่โดดเด่น สมรรถนะที่ตอบโจทย์ เทคโนโลยีที่เหนือระดับ และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ทำให้ Geely EX2 ยกระดับมาตรฐานของ City Car EV ขึ้นไปอีกขั้น เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า Geely EX2 จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าประเทศไทยปี 2025 ได้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าคันแรก หรือต้องการอัปเกรดจากรถยนต์สันดาปเดิมๆ ไปสู่ยุค EV ที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Geely EX2 คือคำตอบที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยราคาที่คาดว่าจะสามารถแข่งขันได้ และออปชั่นที่ให้มาแบบไม่กั๊ก ทำให้รถคันนี้ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของการเดินทางที่คุ้มค่า
อย่าพลาดโอกาสสัมผัสประสบการณ์ขับขี่แห่งอนาคต!
ถึงเวลาแล้วที่เราจะได้สัมผัสกับ “เกมเชนเจอร์” ตัวจริง สำหรับผู้ที่สนใจและอยากสัมผัสประสบการณ์สุดยอดของ Geely EX2 ด้วยตัวคุณเอง เตรียมตัวให้พร้อมได้เลย เพราะพวกเขากำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่งาน Motor Expo 2025 ที่กำลังจะมาถึงในปลายเดือนนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ใหม่แห่งวงการ City Car EV และมาค้นหาว่าทำไม Geely EX2 ถึงถูกขนานนามว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ปฏิวัติทุกความเชื่อเดิมๆ ของคุณได้ พบกันที่งาน!

