ISUZU MAXFORCE: พลังแห่งอนาคต กำหนดนิยามใหม่แห่งการขับขี่ในปี 2025
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างไม่หยุดยั้ง การก้าวกระโดดของเทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญของการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเสมอ และในปี 2025 นี้ อีซูซุได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ดีเซลอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “ISUZU MAXFORCE: The FORCE of FUTURE” สองขุมพลังดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุด ทั้งเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่ไม่ได้เพียงแค่แรงขึ้น เร็วขึ้น แต่ยังมาพร้อมประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นี่คือการประกาศศักดาครั้งสำคัญ ที่จะมากำหนดนิยามใหม่แห่งสมรรถนะ ความคุ้มค่า และเทคโนโลยีแห่งอนาคตของการขับขี่อย่างแท้จริง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ ผมได้ติดตามการพัฒนาของอีซูซุมาอย่างใกล้ชิดมานานกว่าทศวรรษ และต้องยอมรับว่า MAXFORCE คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ อีซูซุไม่ได้เพียงแค่ปรับปรุงเครื่องยนต์เดิม แต่เป็นการพลิกโฉมด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบันและอนาคต ด้วยทางเลือกเครื่องยนต์ที่หลากหลายที่สุดในตลาด ควบคู่ไปกับการจำหน่ายเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อีซูซุจึงมอบอิสระในการเลือกสรรที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มองหารถกระบะสำหรับการบรรทุกหนัก การใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือรถยนต์ PPV สำหรับการเดินทางของครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายและสมรรถนะอันทรงพลัง
2.2 Ddi MAXFORCE: พลังเงียบ ประหยัดเหนือชั้น เพื่อทุกการใช้งาน
หัวใจสำคัญของการพัฒนาครั้งนี้อยู่ที่เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE ขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่หมดจด เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ แรงขึ้นถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือแรงบิดช่วงออกตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 56% นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่หมายถึงการออกตัวที่นุ่มนวล ทรงพลัง ไม่ว่าคุณจะบรรทุกหนักเพียงใด หรือต้องเร่งแซงในสถานการณ์คับขัน เครื่องยนต์นี้ก็พร้อมตอบสนองได้อย่างทันท่วงที
แต่พลังที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาพร้อมกับการบริโภคน้ำมันที่มากขึ้น กลับกัน อีซูซุ MAXFORCE รุ่นใหม่นี้ยังสร้างสถิติประหยัดน้ำมันยิ่งกว่าเดิม โดยสามารถประหยัดได้สูงสุดถึง 10.7% ในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู เกรด L ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถยนต์ดีเซลต่างต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ นอกจากนี้ ยังมีค่า CO2 ต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของอีซูซุในการพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมรองรับมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดในอนาคต
หัวใจของเทคโนโลยี MAXFORCE 2.2 Ddi:
หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. (ใหม่!): ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูงระดับ 250 เมกะพาสคัลนี้ ทำให้การฉีดเชื้อเพลิงเป็นละอองฝอยละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบ เพิ่มกำลังและลดมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง (ใหม่!): หน่วยควบคุมเครื่องยนต์ (Engine Control Module) แบบ Multi-Core Processor ที่ทรงพลัง ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ด้วยความเร็วสูง ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น ตอบสนองการขับขี่ได้ดีเยี่ยมในทุกช่วงความเร็ว
E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (ใหม่!): เทอร์โบแปรผันที่ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยปรับการทำงานของครีบเทอร์โบให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ ทำให้ไอเสียไหลผ่านครีบเทอร์โบได้อย่างเหมาะสม สร้างแรงอัดอากาศได้รวดเร็ว ลดอาการรอรอบ และส่งผลให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ทันใจในทุกช่วงความเร็ว
ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL (ใหม่!): การออกแบบห้องเผาไหม้ให้มีลักษณะเป็นเกลียวหมุน (Swirl) สูง ทำให้การผสมผสานระหว่างอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ และลดเขม่าควัน
ลูกสูบใหม่ ULTRA-LOW FRICTION: ลูกสูบที่ได้รับการออกแบบพิเศษให้มีแรงเสียดทานต่ำเป็นพิเศษ ช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการเสียดสีภายในเครื่องยนต์ ส่งผลให้กำลังเพิ่มขึ้นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
เสื้อสูบแกร่งพิเศษ แบบ EXTREME STRENGTH: โครงสร้างเสื้อสูบที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ช่วยให้เครื่องยนต์มีความทนทานสูง สามารถรองรับแรงเค้นที่เกิดขึ้นจากการทำงานรอบสูงได้อย่างมั่นคง ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
ระบบหล่อลื่นเครื่องยนต์ใหม่! HI-FLOW และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า TIMING GEAR & CHAIN: ระบบหล่อลื่นที่ออกแบบมาเพื่อให้การไหลเวียนของน้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดความร้อนและยืดอายุชิ้นส่วน พร้อมด้วยชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวที่แข็งแกร่ง ให้ความแม่นยำและทนทาน ไร้กังวลเรื่องการบำรุงรักษา
3.0 Ddi MAXFORCE: พลังไร้ขีดจำกัด กำหนดโลกแห่งการขับขี่
สำหรับผู้ที่ต้องการพละกำลังสูงสุด อีซูซุได้นำเสนอเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE “พลังใหม่…กำหนดโลก!” ที่ให้พลังแรงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ขุมพลังนี้พร้อมพาคุณฝ่าฟันทุกอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกหนัก การลากจูง หรือการเดินทางขึ้นเขาลงห้วยที่ท้าทาย ด้วย E-VGS TURBO ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ที่เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นในทุกช่วงความเร็ว แรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความมั่นใจและพละกำลังที่เหลือเฟือในทุกการเร่งแซง เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE มีให้เลือกทั้งในรถอีซูซุ D-MAX และ MU-X ทำให้คุณสามารถเลือกสรรพละกำลังที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้งานของคุณได้อย่างลงตัว
ระบบส่งกำลังใหม่: ลื่นไหล นุ่มนวล ประหยัดทุกเส้นทาง
นอกจากเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแล้ว อีซูซุยังได้ยกระดับระบบส่งกำลัง เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์สอดประสานกันอย่างลงตัว:
ใหม่! เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC (ครั้งแรกของอีซูซุ!): นี่คือหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ต้องกล่าวถึง ด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ REV TRONIC ที่ให้อัตราทดเกียร์ต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็ว การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างราบรื่น นุ่มนวลแทบไม่รู้สึก แต่กลับส่งกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยให้การขับขี่สนุกเร้าใจยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังคงความประหยัดน้ำมันได้อย่างน่าทึ่ง การมีอัตราทดเกียร์ที่ครอบคลุมมากขึ้น ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานในรอบที่เหมาะสม ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง บนทางหลวงยาวๆ
ใหม่! เกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ GENIUS SPORT SHIFT: สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการควบคุมรถด้วยตนเอง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด GENIUS SPORT SHIFT ได้รับการปรับปรุงอัตราทดใหม่ เพื่อการออกตัวที่ดีขึ้นแม้บรรทุกหนัก และยังคงให้ความประหยัดน้ำมันที่ความเร็วสูง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัวและตอบสนองได้ดั่งใจ
ขยายไลน์อัพใหม่: ISUZU D-MAX และ NEW! MU-X The Next Peak
เพื่อรองรับขุมพลัง MAXFORCE อีซูซุยังได้เปิดตัวและปรับปรุงไลน์อัพรถยนต์ทั้งกระบะ D-MAX และรถยนต์อเนกประสงค์ MU-X เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ใหม่เหล่านี้
NEW! MU-X The Next Peak 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: กำหนดจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่า
รถยนต์อเนกประสงค์ PPV ยอดนิยมอย่าง MU-X กลับมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “The Next Peak” โดยเฉพาะการเพิ่มไลน์อัพใหม่ NEW! MU-X The Next Peak รุ่น RS เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE (ขับเคลื่อนสองล้อ) ซึ่งเป็นการยกระดับสู่จุดพีคที่สุดของสมรรถนะที่ไม่เคยมีมาก่อน พลังใหม่ที่พร้อมกำหนดโลก ให้คุณฝ่าทุกอุปสรรคอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมพามุ่งสู่จุดสูงสุดของการเดินทางอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ราคาจำหน่าย NEW! MU-X ในแต่ละรุ่น:
NEW! MU-X RS 4×4 ราคาตั้งแต่ 1,759,000 – 1,771,000 บาท
NEW! MU-X RS ราคาตั้งแต่ 1,624,000 – 1,671,000 บาท
NEW! MU-X Ultimate ราคาตั้งแต่ 1,554,000 – 1,601,000 บาท
NEW! MU-X Elegant ราคาตั้งแต่ 1,429,000 – 1,476,000 บาท
NEW! MU-X Active ราคาตั้งแต่ 1,194,000 – 1,206,000 บาท
รถปิกอัพอีซูซุ D-MAX 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: พลังใหม่…กำหนดโลก
สำหรับผู้ที่มองหารถกระบะที่แข็งแกร่ง ทนทาน และมีสมรรถนะยอดเยี่ยม อีซูซุ D-MAX รุ่นใหม่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ
เพิ่มไลน์อัพใหม่! ISUZU V-CROSS 4×4 เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE
เพิ่มไลน์อัพใหม่! ISUZU D-MAX Spark 4×4 เกรด S เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE
และยังมาพร้อมกับสีใหม่! สีเทา Elbrus Grey Opaque (เทา เอลบรุส โอเพค) ที่เสริมความหรูหราทันสมัย กำหนดนิยามใหม่ของรถกระบะพรีเมียม
ราคาจำหน่ายอีซูซุ D-MAX ในแต่ละรุ่น:
NEW! ISUZU V-Cross 4×4 รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 937,000 – 1,284,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Hi-Lander รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 778,000 – 1,171,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Cab4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 749,000 – 902,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spacecab ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 668,000 – 784,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark 4×4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 740,000 – 787,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 558,000 – 655,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์จริง: การทดสอบขับขี่ที่พิสูจน์ได้
จากการเปิดตัวครั้งนี้ มีโอกาสได้ทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์ใหม่ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และต้องบอกว่าประสบการณ์ที่ได้รับนั้นเกินความคาดหมายจริงๆ
ISUZU D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi MAXFORCE:
เริ่มต้นด้วย Isuzu D-Max Hi-Lander 2.2 Ddi MAXFORCE สิ่งที่สัมผัสได้ทันทีคือพละกำลังที่มาตั้งแต่รอบต่ำ เพียง 1,600 รอบ/นาที คุณสามารถเรียกแรงม้าแรงบิดจากเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่ ทำให้การออกตัวเป็นไปอย่างกระฉับกระเฉง และการเร่งแซงทำได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องรอรอบนาน ด้วยการทำงานของเทอร์โบลูกใหม่ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือความเงียบของเครื่องยนต์ หากเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ 1.9 Ddi รุ่นก่อนหน้า เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ให้เสียงที่เบาลงอย่างชัดเจนตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ และยังคงความเงียบสงบในขณะเร่งแซง การทำงานของเครื่องยนต์มีความราบรื่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อลองกดคันเร่งขณะรถจอดนิ่งก็รู้สึกได้ว่ารอบเครื่องยนต์มาเร็วขึ้น ตอบสนองได้ทันใจ
แต่พระเอกตัวจริงของการทดสอบนี้ต้องยกให้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่ REV TRONIC การเปลี่ยนเกียร์มีความราบรื่นอย่างเหลือเชื่อ ทำให้การขับขี่ต่อเนื่องและสบาย การรอรอบในช่วงเร่งแซงนั้นแทบไม่มีเลย และระบบ Paddle Shift ก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการลดเกียร์เพื่อเรียกพละกำลัง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างแม่นยำและสนุกสนาน ที่สำคัญคือเรื่องของความประหยัด เกียร์ 8 สปีดช่วยให้อัตราทดเกียร์เหมาะสมในทุกช่วงความเร็ว เมื่อขับขี่ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ในเกียร์ 8 รอบเครื่องยนต์อยู่ที่เพียง 1,900-1,950 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งเป็นรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมาก ช่วยลดการใช้น้ำมันได้อย่างแน่นอน หากเป็นการขับขี่ทางไกลยาวๆ ความประหยัดที่ได้จะยิ่งน่าทึ่ง
MU-X The Next Peak 2.2 Ddi MAXFORCE:
เมื่อนำเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE มาวางใน Isuzu MU-X The Next Peak แม้ว่าน้ำหนักตัวรถที่มากกว่าอาจทำให้รู้สึกว่าอัตราเร่งอาจไม่จัดจ้านเท่า D-Max แต่ความไหลลื่นและความนุ่มนวลของการเปลี่ยนเกียร์นั้นโดดเด่นอย่างมากใน MU-X ด้วยลักษณะของรถยนต์อเนกประสงค์ที่เน้นความสบายในการเดินทาง เกียร์ใหม่นี้ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้การขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลาย มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
Slope Station: บทพิสูจน์ความแข็งแกร่งและสมรรถนะการบรรทุก
นอกจากการทดสอบสมรรถนะการขับขี่ในสนามแล้ว อีซูซุยังได้จัดให้มีการทดสอบ Slope Station หรือการทดสอบขับรถขึ้นและลงเนินชัน 18 องศา พร้อมโหลดน้ำหนักถึง 1,000 กิโลกรัม ด้วยรถปิกอัพ NEW! ISUZU D-MAX Spacecab เกียร์ธรรมดา และ NEW! ISUZU D-MAX Spark เกียร์อัตโนมัติ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและพละกำลังของเครื่องยนต์ MAXFORCE ที่สามารถเอาชนะความท้าทายได้อย่างสบายๆ แม้ต้องแบกรับน้ำหนักมาก การออกตัวบนทางชันเป็นไปอย่างมั่นใจ และระบบควบคุมการลงทางชันก็ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย นี่คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่า Isuzu MAXFORCE ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วและความประหยัด แต่ยังพร้อมลุยงานหนักและตอบโจทย์การใช้งานในทุกรูปแบบ
สรุป: ISUZU MAXFORCE คืออนาคตที่จับต้องได้
ISUZU MAXFORCE คือก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของอีซูซุในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เหนือกว่า ด้วยเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE อีซูซุได้มอบขุมพลังที่แรงขึ้น ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมรองรับเทคโนโลยีและพลังงานที่หลากหลายในอนาคต ระบบส่งกำลังใหม่ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ก็เข้ามาเติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะมองหารถกระบะที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย หรือรถยนต์ PPV สำหรับการเดินทางของครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายและสมรรถนะอันทรงพลัง อีซูซุ MAXFORCE ก็พร้อมที่จะเป็นคำตอบของคุณในปี 2025 นี้
อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งการขับขี่ มาร่วมสัมผัสพลังที่เหนือกว่า ความประหยัดที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ ISUZU D-MAX และ NEW! MU-X The Next Peak ที่โชว์รูมอีซูซุใกล้บ้านคุณวันนี้ เพื่อพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองว่า “The FORCE of FUTURE” ของอีซูซุนั้นยิ่งใหญ่และน่าประทับใจเพียงใด คุณจะได้พบกับรถกระบะประหยัดน้ำมันและรถ PPV แรงบิดสูงที่มาพร้อมสมรรถนะยอดเยี่ยม พร้อมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมลพิษต่ำ นี่คือโอกาสที่คุณจะได้ขับขี่รถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่า ความแรง และความยั่งยืนในระยะยาว อีซูซุ MAXFORCE จะเป็นเพื่อนคู่ใจที่พาคุณไปสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจและปลอดภัย.
