นิยามใหม่แห่งความหรูหรา: เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 6 ยนตรกรรม Top-End Luxury สุดล้ำในปี 2025
ปี 2025 นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียมและลักชัวรีอย่างเด่นชัด ด้วยการจัดงาน “The Art of Cultivated Luxury” เผยโฉมยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury ถึง 6 รุ่น ซึ่งสะท้อนปรัชญาของแบรนด์ที่มุ่งมั่นนำเสนอประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ ผสมผสานความสง่างามเหนือกาลเวลาเข้ากับนวัตกรรมล้ำสมัยได้อย่างลงตัว ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมมองว่าการเปิดตัวครั้งนี้ไม่ใช่แค่การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ แต่เป็นการประกาศถึงทิศทางและวิสัยทัศน์ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์มีต่ออนาคตของรถยนต์หรูและยั่งยืน
ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกยานยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้อย่างเหนียวแน่น การเข้ามาของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ควบคู่ไปกับเครื่องยนต์สันดาปที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการกลับมาของตำนานที่ทุกคนรอคอย ล้วนเป็นสิ่งที่น่าจับตาและสะท้อนถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความต้องการอันหลากหลายของลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ในประเทศไทย ลองมาเจาะลึกถึงรายละเอียดของแต่ละรุ่นที่เตรียมมาพลิกโฉมวงการยานยนต์ระดับพรีเมียมในปีนี้
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV: บทใหม่แห่งความหรูหราไฟฟ้าไร้ขีดจำกัด
นี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ Mercedes-Maybach ด้วยการเปิดตัว EQS 680 SUV ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Maybach สู่ตลาดในปี 2025 ยนตรกรรมคันนี้ไม่ได้เป็นเพียงรถ SUV ไฟฟ้าทั่วไป แต่คือสุดยอดแห่งวิศวกรรมและการออกแบบที่หลอมรวมความยั่งยืนเข้ากับความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ของ Maybach ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในราคาเริ่มต้นที่ 12,500,000 บาท ผู้ที่ครอบครองจะได้สัมผัสกับนิยามใหม่ของความสะดวกสบายและสมรรถนะรถยนต์ที่เหนือชั้น
Mercedes-Maybach EQS 680 SUV โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่หรูหราสง่างาม ผสมผสานเส้นสายที่ทันสมัยเข้ากับองค์ประกอบคลาสสิกของ Maybach ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า Panamericana ที่ประทับตรา Maybach อย่างชัดเจน หรือการตกแต่งโครเมียมรอบคันที่สะท้อนความประณีตทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารคืออาณาจักรแห่งความผ่อนคลาย ด้วยวัสดุชั้นเลิศ อาทิ หนัง Nappa คุณภาพสูง ลายไม้ตกแต่งที่คัดสรรมาอย่างดี และเทคโนโลยี MBUX Hyperscreen ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมแผงหน้าปัด พร้อมจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่มอบความบันเทิงระดับเฟิร์สคลาส ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับที่นั่ง Executive Seats ด้านหลังที่ปรับเอนได้เต็มที่ พร้อมฟังก์ชันนวด ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ และระบบเสียง Burmester® high-end 4D surround sound system ที่เปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นการแสดงคอนเสิร์ตส่วนตัว
ขุมพลังไฟฟ้าที่มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ มอบพละกำลังที่น่าทึ่งและแรงบิดมหาศาล ทำให้การเร่งแซงเป็นไปอย่างราบรื่นและเงียบสงบ มอบประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลอย่างที่ไม่อาจหาได้จากรถสันดาปใดๆ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ช่วยให้วิ่งได้ระยะทางไกลเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางข้ามจังหวัด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จมากนัก Mercedes-Maybach EQS 680 SUV จึงเป็นมากกว่ารถยนต์ แต่คือผลงานศิลปะเคลื่อนที่ที่สะท้อนถึงรสนิยมอันโดดเด่นและความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมของผู้ครอบครอง
Mercedes-Maybach S 580 e Premium: ซีดานปลั๊กอินไฮบริด สองสีในตำนาน กลับมาอีกครั้ง
สำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกเหนือกาลเวลาของ S-Class ผสานเข้ากับเทคโนโลยีรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ทันสมัย Mercedes-Maybach S 580 e Premium คือคำตอบที่ลงตัวที่สุดในปี 2025 ในราคาเริ่มต้นที่ 11,300,000 บาท รุ่นนี้กลับมาพร้อมจุดเด่นที่แฟนๆ เฝ้ารอคอย นั่นคือตัวถังสีทูโทนอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นรุ่น Local Production ที่ผลิตในประเทศไทย สะท้อนความใส่ใจในตลาดและลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะ
Mercedes-Maybach S 580 e Premium เป็นการผสมผสานความหรูหราขั้นสุดของ Maybach เข้ากับประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน EQ Power ที่ล้ำสมัย เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังที่ทรงพลังและการประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจ สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ระยะทางที่ไกลพอสำหรับการใช้งานในเมือง ลดการปล่อยมลพิษ และเพิ่มความเงียบสงบในห้องโดยสาร
การออกแบบภายนอกยังคงความสง่างามตามแบบฉบับ S-Class แต่เพิ่มเติมด้วยรายละเอียดของ Maybach ที่ประณีตยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะ ตัวเลือกสีทูโทนที่เพิ่มความหรูหราและโดดเด่นบนท้องถนน ภายในห้องโดยสารคือพื้นที่ส่วนตัวที่ถูกรังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ด้วยเบาะหนังดีไซน์เฉพาะแบบ Maybach ระบบแสงไฟภายในห้องโดยสารที่ปรับได้หลากหลายสี และระบบอินโฟเทนเมนต์ MBUX ที่ใช้งานง่ายและเชื่อมต่อโลกดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ รถซีดานหรูคันนี้ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและรสนิยมที่ไร้ที่ติ
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology: “King of Off-Road” สู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว
ตำนาน 45 ปีของ G-Class หรือที่รู้จักกันในฉายา “King of Off-Road” ได้ก้าวเข้าสู่มิติใหม่ในปี 2025 ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ G-Class มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า 100% และยังคงคุณสมบัติรถยนต์ออฟโรดที่ไร้เทียมทานไว้อย่างครบถ้วน ด้วยราคาเริ่มต้น 9,500,000 บาท สำหรับรุ่น STANDARD และ 12,200,000 บาท สำหรับรุ่น EDITION ONE ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 6 คันในประเทศไทย นี่คือโอกาสที่หาได้ยากสำหรับนักสะสมและผู้ที่ต้องการรถ SUV ระดับไฮเอนด์ที่ไม่เหมือนใคร
หัวใจสำคัญของ G 580 with EQ Technology คือมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ที่แยกการขับเคลื่อนแต่ละล้ออิสระ ทำให้สามารถทำแรงบิดได้สูงสุดถึง 1,164 นิวตันเมตร ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ พละกำลังมหาศาลนี้ไม่เพียงแต่ให้สมรรถนะรถยนต์บนทางเรียบที่น่าประทับใจ แต่ยังเสริมความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยฟังก์ชัน “G-TURN” ที่ช่วยให้รถหมุนตัว 360 องศาได้ในที่แคบ และ “G-STEERING” ที่ควบคุมการเลี้ยวได้อย่างแม่นยำในสถานการณ์สมบุกสมบัน
การออกแบบภายนอกยังคงเอกลักษณ์ของ G-Class ไว้ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงกล่องอันเป็นสัญลักษณ์ ไฟหน้ากลมคลาสสิก แต่มีการปรับปรุงรายละเอียดเล็กน้อยเพื่อรองรับความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า อาทิ กระจังหน้าแบบปิดทึบ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ทั้งหน้าจอ MBUX คู่ขนาดใหญ่ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครัน G 580 with EQ Technology ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ แต่คือผลงานชิ้นเอกที่หลอมรวมมรดกอันยิ่งใหญ่เข้ากับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
Mercedes-Benz G 450 d: พลังดีเซลที่ยังคงเป็นตำนาน
แม้ว่าโลกจะก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงไม่ละทิ้งความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบเครื่องยนต์ดีเซลอันทรงพลัง ด้วยการเปิดตัว Mercedes-Benz G 450 d ยนตรกรรม The new G-Class ที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลตามคำเรียกร้องของกลุ่มลูกค้าชาวไทย ในราคาเริ่มต้นที่ 12,200,000 บาท นี่คือการตอกย้ำว่า G-Class ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและสมรรถนะที่ไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบใด
G 450 d มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบเรียง เทอร์โบ ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านพละกำลัง อัตราสิ้นเปลือง และการลดมลพิษ มอบแรงบิดที่สูงและต่อเนื่อง เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งบนถนนหลวงและเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย รถยนต์ดีเซลรุ่นนี้ยังคงรักษาคุณสมบัติเด่นของ G-Class ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่างที่แข็งแกร่ง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-time พร้อมเฟืองท้ายล็อก 3 ตำแหน่ง ที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่
การออกแบบภายนอกและภายในของ G 450 d ยังคงยึดมั่นในปรัชญาของ G-Class ที่เน้นความทนทาน หรูหรา และใช้งานได้จริง ห้องโดยสารกว้างขวางและตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง มอบความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง พร้อมด้วยเทคโนโลยี MBUX และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน G 450 d จึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการรถ SUV พรีเมียมที่เปี่ยมด้วยขุมพลังและจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยในแบบฉบับของ G-Class
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium: ที่สุดแห่งความสมบูรณ์แบบในซีดานหรู
Mercedes-Benz S 580 e AMG Premium คือยนตรกรรมลักชัวรีซีดานที่มอบความครบเครื่องในทุกมิติ ทั้งสุนทรียภาพด้านการขับขี่ ความสะดวกสบายของการโดยสาร ระบบความบันเทิง และความปลอดภัยรถยนต์ขั้นสูง ในราคา 7,580,000 บาท รุ่นนี้ได้รับการยกระดับให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ขับขี่ที่ไร้ที่ติ และความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้โดยสารทุกคน
หัวใจสำคัญที่เสริมความสะดวกสบายในการขับขี่ที่มากขึ้นคือระบบควบคุมทิศทางตัวรถแบบเลี้ยว 4 ล้อ (Rear axle steering 4.5°) ที่ช่วยลดรัศมีวงเลี้ยว ทำให้การขับขี่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัดเป็นไปอย่างคล่องตัว และเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูงได้อย่างน่าทึ่ง นี่คือเทคโนโลยีรถยนต์ที่ทำให้ S-Class รู้สึกกระฉับกระเฉงกว่าขนาดตัวที่แท้จริงอย่างเห็นได้ชัด
ภายใต้ฝากระโปรงคือระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลัง ผสานเครื่องยนต์เบนซินเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า มอบทั้งพละกำลังที่เหลือเฟือและประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานที่ดีเยี่ยม การออกแบบภายนอกมาพร้อมชุดแต่ง AMG Premium ที่ช่วยเสริมลุคให้ดูสปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น แต่ยังคงความสง่างามตามแบบฉบับ S-Class ภายในห้องโดยสารคือความหรูหราที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ด้วยเบาะหนัง Nappa ระบบแสงไฟ Active ambient lighting ที่สร้างบรรยากาศอันน่าทึ่ง และหน้าจอ MBUX ที่ใช้งานง่าย พร้อมฟังก์ชันสั่งการด้วยเสียง “Hey Mercedes” S 580 e AMG Premium จึงเป็นนิยามของรถซีดานหรูที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านความประณีต เทคโนโลยี และสมรรถนะรถยนต์
Mercedes-Benz V 300 d Exclusive: รถแวนลักชัวรีสำหรับครอบครัวและธุรกิจ
สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวาง ความอเนกประสงค์ และความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส Mercedes-Benz V 300 d Exclusive คือคำตอบที่ลงตัวในปี 2025 ในฐานะรถแวนระดับลักชัวรี 6 ที่นั่ง รุ่นนำเข้ามาตรฐานยุโรป คันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการเดินทางแบบครอบครัวและการใช้งานในทางธุรกิจ มอบความสะดวกสบายและความสง่างามในทุกมิติ ด้วยราคา 5,820,000 บาท
V 300 d Exclusive โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยและหรูหรา พร้อมเส้นสายที่คมชัดและกระจังหน้าขนาดใหญ่ ภายในห้องโดยสารคือพื้นที่แห่งความยืดหยุ่นและความผ่อนคลาย เบาะที่นั่งแบบ Executive Seats 6 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางพร้อมครอบครัวใหญ่ การประชุมเคลื่อนที่ หรือการรับรองแขกคนสำคัญ วัสดุตกแต่งภายในล้วนคัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้ ลายไม้ และโลหะ ทำให้ทุกสัมผัสคือความประทับใจ
ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลของ V 300 d Exclusive มอบสมรรถนะรถยนต์ที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการเดินทางไกลและการบรรทุกสัมภาระจำนวนมาก พร้อมช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่ ระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ประตูบานเลื่อนไฟฟ้า ระบบ MBUX และระบบช่วยขับขี่ที่ทันสมัย V 300 d Exclusive จึงเป็นรถแวนอเนกประสงค์ที่ผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย และการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างลงตัวที่สุด
วิสัยทัศน์แห่งความหรูหราและอนาคตที่ยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์
มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวเน้นย้ำว่า การเปิดตัวยนตรกรรมทั้ง 6 รุ่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในทุกด้านของเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างแท้จริง การผสมผสานระหว่างการออกแบบที่ประณีต เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม คือหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนแบรนด์ให้ก้าวไปข้างหน้า
แบรนด์ Mercedes-Maybach และรถยนต์กลุ่ม S-Class ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความหรูหราแบบร่วมสมัย ด้วยการตกแต่งภายในสุดประณีตที่ไม่อาจหาใครเทียบได้ เทคโนโลยีล้ำสมัยที่มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยสูงสุด และการออกแบบที่เหนือกาลเวลาที่ยังคงเป็นที่ต้องการเสมอมา ยนตรกรรมเหล่านี้คือสิ่งที่กำหนดมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ระดับท็อปเอนด์
ในส่วนของรถยนต์กลุ่ม G-Class นั้น เป็นตัวแทนด้านขุมพลังและมรดกอันยิ่งใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมตอกย้ำถึงความสง่างามที่มาพร้อมความแข็งแกร่งและสมรรถนะขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบเครื่องยนต์สันดาปที่ได้รับความนิยม หรือก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า G-Class ก็ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายและการผจญภัย
และสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่กว้างขวางในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวขนาดใหญ่หรือนักธุรกิจที่ต้องการยานพาหนะอเนกประสงค์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ได้นำเสนอรถแวนหรูในกลุ่ม V-Class ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัวที่สุด
การเปิดตัวยนตรกรรมเหล่านี้ในปี 2025 ไม่ใช่เพียงแค่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่เป็นการประกาศถึงความพร้อมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในการนำพาลูกค้าเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการเดินทางที่หรูหรา ยั่งยืน และเต็มไปด้วยนวัตกรรม ผู้ที่สนใจและปรารถนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์พิเศษนี้ ไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสยนตรกรรมเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศ

