ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025: ปิกอัพสปอร์ตพรีเมียมตัวจริง แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง สู่ท้องถนนที่เหนือกว่า
ในโลกยานยนต์ปี 2025 ที่ความต้องการรถกระบะไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องของสมรรถนะการบรรทุกหรือลุยงานหนัก แต่ยังก้าวเข้าสู่มิติของสไตล์ ความหรูหรา และประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 (Ford Ranger MS-RT 2025) ปิกอัพแต่งพิเศษที่ผสมผสานดีเอ็นเอของมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับความแกร่งอันเป็นเอกลักษณ์ของเรนเจอร์ได้อย่างลงตัว นี่ไม่ใช่แค่รถกระบะที่ได้รับการอัปเกรด แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของรถกระบะพรีเมียมสมรรถนะสูง ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้ที่มองหาความแตกต่างและความเหนือกว่าในทุกมิติ
การร่วมมือระหว่างฟอร์ด ผู้จำหน่ายฟอร์ด และอาร์เอ็มเอ (RMA) ในฐานะพันธมิตรผู้ดัดแปลงรถยนต์ภายใต้การรับรอง Qualified Vehicle Modifier (QVM) ได้ก่อกำเนิดผลงานชิ้นเอกที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เหนือชั้น ควบคู่ไปกับรูปลักษณ์ที่ดุดันและทันสมัย แรงบันดาลใจจากรถแข่งแรลลี่ระดับโลก ทำให้ทุกองค์ประกอบของรถคันนี้สะท้อนถึงความเร็ว ความคล่องตัว และความพิเศษที่หาไม่ได้ในรถกระบะทั่วไป การปรากฏตัวครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41 ได้สร้างความฮือฮาและเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 200 คันในช่วงแนะนำ ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 กลายเป็นที่จับตามองของนักเลงรถกระบะและผู้ที่หลงใหลในความแรงและสไตล์
ดีไซน์ภายนอก: ความดุดันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง
สิ่งที่ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 แตกต่างจากเรนเจอร์รุ่นอื่นๆ คือการออกแบบตัวถังที่ได้รับอิทธิพลจากมอเตอร์สปอร์ตอย่างชัดเจน ตั้งแต่แรกเห็น คุณจะสัมผัสได้ถึงความสปอร์ตที่แฝงด้วยความพรีเมียมที่ลงตัว กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่น พร้อมลิ้นหน้า (Splitter) ในตัว ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความหล่อเหลา แต่ยังอาจมีส่วนช่วยในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์เล็กน้อย ยกระดับภาพลักษณ์ให้ดูเตี้ยและกว้างขึ้น เสริมบุคลิกของรถสปอร์ตอย่างแท้จริง
ซุ้มล้อที่ขยายกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งด้านหน้าและหลัง ทำให้ความกว้างโดยรวมของตัวรถเพิ่มขึ้นถึง 82 มิลลิเมตร ซึ่งไม่ได้มีผลแค่เรื่องของความสวยงามที่ดูแข็งแกร่งและดุดันขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยรองรับการขยายฐานล้อที่กว้างขึ้นเพื่อเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็ว ชุดสเกิร์ตด้านข้างออกแบบให้รับกับส่วนขยายซุ้มล้อได้อย่างลงตัว ดูลื่นไหลและเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ สปอยเลอร์หลังคาและกันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์หลังสไตล์มอเตอร์สปอร์ต ช่วยเพิ่มความโฉบเฉี่ยวจากด้านท้ายได้อย่างไร้ที่ติ และไม่ลืมที่จะเสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังแบบ Ducktail ที่นอกจากจะให้ความรู้สึกเหมือนรถแข่งแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ MS-RT
เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราที่เหนือกว่า บันไดข้างไฟฟ้าแบบพับเก็บอัตโนมัติก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าประทับใจ เมื่อเปิดประตู บันไดจะกางออกต้อนรับ และจะพับเก็บอย่างแนบเนียนไปกับตัวถังเมื่อปิดประตู ซึ่งนอกจากจะสวยงามแล้ว ยังช่วยรักษาความสะอาดและป้องกันความเสียหายเมื่อขับขี่ในเส้นทางทุรกันดารอีกด้วย
หัวใจสำคัญที่ทำให้รูปลักษณ์ของ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 สมบูรณ์แบบคือล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษลาย ‘ไดมอนด์ คัท’ สีดำ ขนาด 21 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่และโดดเด่นอย่างมากบนรถกระบะทั่วไป การเลือกใช้ล้อขนาดนี้ไม่เพียงแต่เสริมความสวยงามให้รถดูเต็มและสปอร์ต แต่ยังส่งผลต่อสมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นอีกด้วย กระจกมองข้างและมือจับประตูสีอะเกต แบล็ก (Agate Black) เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มความหรูหราและกลมกลืนกับดีไซน์สปอร์ตของรถโดยรวม
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มีบุคลิกเฉพาะตัวคือการปรับลดความสูงของตัวรถลง 40 มิลลิเมตร การลดความสูงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนท้องถนน ให้การควบคุมที่เฉียบคมขึ้น ลดอาการโคลงเคลง และเสริมความมั่นใจในการเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งแตกต่างจากรถกระบะทั่วไปที่เน้นความสูงเพื่อการลุย นี่คือปิกอัพที่จูนมาเพื่อถนน เพื่อความเร็ว และเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างอย่างแท้จริง
สำหรับตัวเลือกสีนั้น ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มีให้เลือกสองสีสุดคลาสสิกที่ขับเน้นความสปอร์ตและความดุดันได้อย่างลงตัว ได้แก่ สีเทา คอมมานด์ เกรย์ (Command Grey) ที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง ทันสมัย และสีดำ แอ็บโซลูท แบล็ก (Absolute Black) ที่สะท้อนถึงความลึกลับ พรีเมียม และความดุดันอย่างมีสไตล์ ซึ่งทั้งสองสีนี้ต่างเสริมให้องค์ประกอบการออกแบบของ MS-RT ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ขุมพลังดีเซล V6: แรงบิดมหาศาล เพื่อการขับขี่ที่เหนือกว่า
ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดุดัน ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ซ่อนขุมพลังที่แท้จริงเอาไว้ ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร วี 6 (V6 Diesel Engine) ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมมายาวนานในตลาดต่างประเทศ และได้เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ในตลาดประเทศไทยตั้งแต่ต้นปี 2024 เครื่องยนต์ V6 ดีเซลรุ่นนี้ได้รับการยอมรับในเรื่องของความเสถียร ทนทาน และการให้พละกำลังที่โดดเด่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแรงบิดและกำลังที่เหนือกว่ารุ่นปกติอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องยนต์นี้มอบพละกำลังสูงสุดถึง 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดมหาศาลถึง 600 นิวตันเมตร ซึ่งถือเป็น Best in Class ในกลุ่มรถกระบะดีเซล และเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มีสมรรถนะการออกตัวที่ยอดเยี่ยม การเร่งแซงที่ฉับไว และความสามารถในการลากจูงที่ทรงพลัง ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังที่ทันสมัยและได้รับการปรับจูนมาเป็นอย่างดี เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว และเหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง การเดินทางไกล หรือการใช้สมรรถนะสูงสุด
เจาะลึกรายละเอียดทางวิศวกรรม เครื่องยนต์ V6 ดีเซลรุ่นนี้มีกระบอกสูบ/ระยะชักที่ 84 มม. / 90 มม. ให้ปริมาตรความจุรวม 2993 ลูกบาศก์เซนติเมตร ด้วยอัตราส่วนการอัด 16.0:1 และลำดับการจุดระเบิด 1-4-2-5-3-6 ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างสมดุลและนุ่มนวล ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection ด้วยหัวฉีด Bosch Piezo แรงดันในรางหัวฉีดสูงถึง 2,000 บาร์ พร้อมแรงดันเทอร์โบชาร์จสูงสุด 2.8 บาร์ ซึ่งบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการเผาไหม้ที่สมบูรณ์และพละกำลังที่สูง
กลไกขับวาล์วแบบเพลาลูกเบี้ยวเหนือฝาสูบคู่ (DOHC) และ 4 วาล์วต่อกระบอกสูบ ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศและไอเสียมีประสิทธิภาพสูงสุด ฝาสูบอะลูมิเนียมและเสื้อสูบรูปตัว V เหล็กหล่อแกรไฟต์ขั้นตอนเดียว พร้อมการจัดวางกระบอกสูบ 2 แถวเข้าหากันที่มุม 60 องศา สะท้อนถึงการออกแบบที่เน้นความแข็งแรง ทนทาน และลดแรงสั่นสะเทือน อ่างน้ำมันเครื่องแบบชิ้นเดียวที่หล่อด้วยแรงดันสูงจากอะลูมิเนียม และระบบเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรล ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของเครื่องยนต์
นอกจากนี้ การใช้สายพานไทม์มิ่งขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยว และเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบแปรผัน (Variable Geometry Turbocharger) ยังช่วยให้เครื่องยนต์สามารถตอบสนองต่อการขับขี่ในรอบเครื่องยนต์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและทรงพลังในทุกสถานการณ์
ระบบขับเคลื่อนและช่วงล่าง: มั่นใจทุกสภาพพื้นผิว
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องของเครื่องยนต์ แต่ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนและช่วงล่างที่ได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษ เพื่อรองรับสมรรถนะที่เหนือกว่าและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นคงและเร้าใจ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A 4WD อันชาญฉลาด สามารถปรับการส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างอิสระและต่อเนื่องตามสภาพพื้นผิวถนน ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลกับการเลือกโหมดขับเคลื่อนบ่อยๆ และยังคงรักษาการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทาง
นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกโหมดการขับขี่ถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัด (Eco), โหมดลากจูง (Tow/Haul), โหมดถนนลื่น (Slippery), โหมดโคลนและหิน (Mud/Ruts) และโหมดทราย (Sand) ซึ่งแต่ละโหมดได้รับการปรับจูนการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่นั้นๆ อย่างสมบูรณ์แบบ มอบสมรรถนะสูงสุดและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางบนทุกสภาพพื้นผิวได้อย่างแท้จริง
ด้วยช่วงล่างที่ลดความสูงลง 40 มิลลิเมตร และการปรับแต่งเฉพาะของ MS-RT ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ส่งผลให้การเข้าโค้งมีความมั่นคง การควบคุมรถเฉียบคม และการทรงตัวในความเร็วสูงทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในรถกระบะที่ยังคงความแกร่งและสมบุกสมบันอยู่
ห้องโดยสาร: หรูหรา สปอร์ต และเต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี
ภายในห้องโดยสารของ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถัน สะท้อนถึงความพรีเมียมและความสปอร์ตในทุกรายละเอียด เบาะที่นั่งโอบกระชับออกแบบมาเฉพาะในสไตล์ MS-RT ทำจากหนังสังเคราะห์และหนังกลับคุณภาพสูง พร้อมการเดินด้ายสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ตกแต่งรอบห้องโดยสาร ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ยังให้การรองรับสรีระที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือต้องเข้าโค้ง เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดในการหาตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสม พร้อมสัญลักษณ์ MS-RT บนเบาะคู่หน้าและเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงลายธงเรซซิ่งบนเบาะ ที่ตอกย้ำถึงความพิเศษของรุ่นนี้
พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตใหม่ พร้อมตกแต่งด้วยสัญลักษณ์ MS-RT และแถบสีน้ำเงินที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เพิ่มความรู้สึกสปอร์ตและจับกระชับมือ ผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงการควบคุมที่แม่นยำและตอบสนองได้ดั่งใจ
ด้านเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวก ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 จัดเต็มเพื่อความสบายและความปลอดภัยสูงสุด แท่นชาร์จไร้สายช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องวุ่นวายกับสายชาร์จ กุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ (Push Start) มอบความสะดวกสบายในการเข้าถึงและสตาร์ทรถ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ช่วยให้มั่นใจว่าทุกคนในรถจะได้รับความเย็นสบายตลอดการเดินทาง
กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติพร้อมช่องต่อ USB เป็นฟีเจอร์เล็กๆ ที่ชาญฉลาด ช่วยลดแสงสะท้อนและยังเป็นแหล่งพลังงานสำหรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น กล้องบันทึกหน้ารถ ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสารสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและหรูหราในยามค่ำคืน
ศูนย์กลางความบันเทิงและการเชื่อมต่อคือหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว ที่ใหญ่และคมชัด ทำงานร่วมกับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A ที่ได้รับการพัฒนาให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ ช่วยให้การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนไร้สายเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้เข้าถึงแอปพลิเคชัน แผนที่ และความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างชัดเจน ระบบเชื่อมต่อบลูทูธและระบบ FordPass Connect ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับรถได้จากระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการสตาร์ทรถ การตรวจสอบสถานะ หรือการค้นหาตำแหน่งรถ ช่องต่อ USB ถึง 4 จุด รวมถึงบนกระจกมองหลัง และลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่วยให้ทุกคนในรถสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงคุณภาพสูงและเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ตลอดเวลา
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ: มั่นใจในทุกเส้นทาง
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครันและล้ำสมัย เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจในทุกการเดินทาง ตั้งแต่ความปลอดภัยพื้นฐานไปจนถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง:
ถุงลมนิรภัย 7 จุด: ครอบคลุมทั้งคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า เพื่อปกป้องในกรณีเกิดการชน
ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน: เชื่อมต่อกับหน่วยบริการฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เบรกมือไฟฟ้า: เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการจอด
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD: ควบคุมการเบรกให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System): ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีในสภาพถนนที่ลื่นหรือเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็ว
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation): เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนทางลาดชันและป้องกันการพลิกคว่ำ
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control): ควบคุมความเร็วในการลงทางลาดชันให้เป็นไปอย่างปลอดภัย
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง: ช่วยในการจอดรถในพื้นที่จำกัด
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System): ช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ทางไกล และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam): ปรับไฟสูง-ต่ำโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาผู้ร่วมทาง
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) และระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System): ช่วยป้องกันและลดความรุนแรงของการชน
ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน (Post-Collision Braking System): ช่วยลดความเสียหายเพิ่มเติมหลังเกิดอุบัติเหตุ
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Alert): เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนและถอยออกจากช่องจอด
กล้องมองรอบคัน 360 องศา: มอบมุมมองที่ครอบคลุมรอบคัน ช่วยให้การจอดและขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่าย
ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง (Reverse Brake Assist): ช่วยเบรกอัตโนมัติเพื่อป้องกันการชนขณะถอยหลัง
ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist): ช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ที่ให้คุณควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟส่องพื้นจากกระจกข้างรถ ไฟในกระบะท้าย และไฟส่องแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งสามารถเลือกเปิดปิดเฉพาะบางโซนหรือทุกโซนพร้อมกันผ่านหน้าจอ SYNC อำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืนได้อย่างดีเยี่ยม
ราคาและข้อเสนอสุดพิเศษ
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 เปิดราคาในช่วงแนะนำอยู่ที่ 1,749,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าสำหรับรถกระบะแต่งพิเศษระดับพรีเมียมที่มาพร้อมสมรรถนะ ดีไซน์ และเทคโนโลยีที่เหนือกว่าอย่างครบครัน ฟอร์ดพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของความพิเศษนี้ก่อนใคร ด้วยการเปิดรับจองภายในงานมหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41 และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดที่ร่วมโครงการ โดยจะเริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป
อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การขับขี่ระดับมอเตอร์สปอร์ต ที่ผสานความหรูหรา ความแรง และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะไว้ในหนึ่งเดียว ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ใช่แค่รถกระบะ แต่คือไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ ที่กล้าแตกต่าง และพร้อมทะยานสู่ทุกเส้นทางอย่างมีสไตล์ เยี่ยมชมและสัมผัสตัวจริงได้ที่งาน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการฟอร์ดทั่วประเทศ และติดตามโปรโมชั่นรถฟอร์ดที่น่าสนใจได้เลย.
