ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025: ปลดล็อกประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับที่ผสานขุมพลังมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว
ในโลกยานยนต์ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้งของปี 2025 ความคาดหวังของผู้บริโภคไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ประสิทธิภาพหรือความสะดวกสบายอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงความเป็นเอกลักษณ์ ความเป็นพรีเมียม และสมรรถนะที่เหนือชั้นในทุกมิติ ฟอร์ดในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลก ได้ตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการเปิดตัว “ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025” (Ford Ranger MS-RT 2025) รถกระบะที่มิใช่แค่พาหนะ แต่คือสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ การออกแบบที่พิถีพิถัน และวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม นี่คือบทใหม่ของตำนานเรนเจอร์ที่ผสานจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตเข้ากับขีดความสามารถอันเป็นเลิศของรถกระบะได้อย่างไร้รอยต่อ
การถือกำเนิดของ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คือผลลัพธ์จากความร่วมมืออันทรงพลังระหว่างฟอร์ด, เครือข่ายผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ และ RMA พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้านการดัดแปลงรถยนต์ภายใต้การรับรอง Qualified Vehicle Modifier (QVM) ด้วยวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ไร้ขีดจำกัด MS-RT จึงไม่ใช่เพียงแค่ชุดแต่ง แต่คือการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปสู่อีกขั้น สำหรับผู้ที่ปรารถนาความเหนือกว่าในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน หรือในทุกช่วงเวลาของชีวิต นี่คือรถกระบะแต่งพิเศษ (กระบะแต่งพิเศษ) ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้ที่กล้าคิดต่าง กล้าที่จะเป็นผู้นำ และไม่เคยหยุดนิ่งในการแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดในทุกรายละเอียดของชีวิต
นับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงานมหกรรมยานยนต์มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 41 กระแสตอบรับอันล้นหลามได้ตอกย้ำถึงความต้องการในยนตรกรรมที่ผสมผสานความดุดันจากสนามแข่งเข้ากับความสง่างามของรถพรีเมียม ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นคำตอบสำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่เคยประนีประนอม ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังจากเครื่องยนต์ V6 ดีเซล (เครื่องยนต์ V6 ดีเซล) อันเป็นตำนาน การควบคุมที่เฉียบคมราวกับรถสปอร์ต หรือห้องโดยสารที่เปี่ยมด้วยความหรูหราและเทคโนโลยีสุดล้ำ นี่คือ “รถกระบะสมรรถนะสูง” (รถกระบะสมรรถนะสูง) ที่พร้อมจะ redefined ทุกนิยามของคำว่า “รถกระบะ” และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดในปี 2025
งานดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต: สะท้อนจิตวิญญาณแห่งความเร็วและความหรูหรา
เมื่อสายตาแรกสัมผัสกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คุณจะถูกสะกดด้วยดีไซน์ที่ได้รับอิทธิพลจากมอเตอร์สปอร์ตอย่างชัดเจน เส้นสายที่เฉียบคม ดุดัน และเต็มไปด้วยพลังบ่งบอกถึง DNA แห่งความเร็วที่ไหลเวียนอยู่ในทุกอณู การออกแบบตัวถังใหม่นี้ไม่ใช่เพียงแค่การแต่งเติมความสวยงาม แต่ยังผสานฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น
กันชนหน้าใหม่ พร้อมลิ้นหน้า (Splitter) ในตัว: นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ MS-RT แตกต่างจากเรนเจอร์รุ่นอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง กันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความโดดเด่นและแข็งแกร่ง ผสานรวมกับลิ้นหน้า (Splitter) ในตัวที่ไม่ได้มีเพียงความสวยงาม แต่ยังทำหน้าที่หลักในการเพิ่มแรงกดด้านหน้า (downforce) ช่วยให้การยึดเกาะถนนในความเร็วสูงเป็นไปอย่างมั่นคงและแม่นยำยิ่งขึ้น สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบจากสนามแข่งที่ให้ความสำคัญทั้งรูปแบบ (form) และฟังก์ชัน (function) อย่างสมบูรณ์แบบ
ซุ้มล้อที่กว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด: ซุ้มล้อหน้าและหลังได้รับการขยายให้กว้างขึ้นถึง 82 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับเรนเจอร์รุ่นมาตรฐาน ทำให้ตัวรถดูมีมิติ แข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยพลังมากยิ่งขึ้น การออกแบบนี้ยังรองรับการติดตั้งล้อและยางขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่และสร้างรูปลักษณ์ที่ดุดันไม่เหมือนใคร ความกว้างที่เพิ่มขึ้นนี้ยังสื่อถึงการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมและการทรงตัวที่เหนือชั้นกว่ารถกระบะทั่วไป ส่งผลดีต่อ “ความปลอดภัยรถกระบะ” ในทุกสภาพเส้นทาง
ชุดสเกิร์ตด้านข้างและสปอยเลอร์หลังคา: การออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ ชุดสเกิร์ตด้านข้างที่ลู่ลม สอดรับกับสปอยเลอร์หลังคาที่ช่วยเสริมการไหลเวียนของอากาศเหนือตัวรถ และลดแรงยกที่ท้ายรถ ทำให้ MS-RT มีความเสถียรในทุกความเร็ว ตั้งแต่การขับขี่ในเมืองไปจนถึงการเดินทางไกล
กันชนหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมดิฟฟิวเซอร์สไตล์มอเตอร์สปอร์ต: ด้านหลังของ MS-RT ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับธีมมอเตอร์สปอร์ตอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยกันชนหลังที่ออกแบบใหม่หมดจด พร้อมดิฟฟิวเซอร์หลังที่ช่วยจัดการการไหลเวียนของอากาศใต้ท้องรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยเสริมสมรรถนะในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ
สปอยเลอร์หลังแบบ Ducktail: การเพิ่มสปอยเลอร์หลังทรง Ducktail เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความเอาใจใส่ในการออกแบบ เพื่อให้ได้มาซึ่งรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในแบบฉบับของรถยนต์สมรรถนะสูง
บันไดข้างไฟฟ้าแบบพับเก็บอัตโนมัติ: เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดและความหรูหราในระดับพรีเมียม บันไดข้างไฟฟ้าที่พับเก็บอัตโนมัติจะปรากฏขึ้นอย่างนุ่มนวลเมื่อเปิดประตู และเก็บซ่อนอย่างแนบเนียนใต้ท้องรถเมื่อปิดประตู ช่วยให้การขึ้น-ลงรถเป็นไปอย่างง่ายดายและยังคงความคลีนของดีไซน์เมื่อรถเคลื่อนที่ สะท้อนถึงความหรูหราที่มาพร้อมประโยชน์ใช้สอย
ล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ 21 นิ้ว และ “ช่วงล่างสปอร์ต” (ช่วงล่างสปอร์ต) ที่เหนือชั้น:
สิ่งที่ทำให้ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT โดดเด่นอย่างแท้จริงคือล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว (ล้ออัลลอย 21 นิ้ว) ดีไซน์พิเศษลาย ‘ไดมอนด์ คัท’ สีดำอันเป็นเอกลักษณ์ การออกแบบที่ประณีตนี้ไม่เพียงช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดุดันและทันสมัย แต่ยังสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่เหนือกว่า พร้อมกันนี้ “ช่วงล่างสปอร์ต” ของตัวรถยังถูกปรับลดระดับความสูงลงถึง 40 มิลลิเมตร เพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้การเข้าโค้งมีความเฉียบคมและการควบคุมรถมีความแม่นยำยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่รู้สึกได้ถึงความสปอร์ตและความกระชับ ตอบสนองทุกการสั่งการของพวงมาลัยได้อย่างฉับไว เปลี่ยนทุกเส้นทางให้กลายเป็นสนามแข่งขันส่วนตัวของคุณ
ปลดปล่อยขุมพลังแห่ง “เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6” (เครื่องยนต์ V6 ดีเซล) อันเป็นที่สุด:
ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดุดันและเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ของ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คือหัวใจที่เปี่ยมด้วยพละกำลัง “เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6” ซึ่งเป็นขุมพลังที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาดต่างประเทศถึงความเสถียร ความทนทาน และประสิทธิภาพอันไร้ที่ติ และได้สร้างความตื่นตาตื่นใจในตลาดไทยนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2024 เครื่องยนต์บล็อกนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการแรงม้าและแรงบิดที่เหนือกว่าเรนเจอร์รุ่นปกติ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่น ทรงพลัง และเร้าใจในทุกสถานการณ์
พละกำลังสูงสุด: 250 แรงม้า ที่ 3,250 รอบต่อนาที มอบอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมให้คุณออกตัวได้อย่างรวดเร็วและแซงได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นบนถนนหลวงหรือเส้นทางคดเคี้ยว
แรงบิดสูงสุด: 600 นิวตันเมตร (Best in Class) ที่รอบต่ำ ช่วยให้การลากจูงสัมภาระขนาดใหญ่ หรือการบรรทุกหนักเป็นเรื่องง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมอบอัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมและต่อเนื่องในทุกช่วงความเร็ว
เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด: เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 นี้ใช้ระบบหัวฉีด Bosch Piezo ที่มีความแม่นยำสูง พร้อมแรงดันในรางหัวฉีดสูงถึง 2,000 บาร์ และแรงดันเทอร์โบชาร์จสูงสุด 2.8 บาร์ เพื่อประสิทธิภาพการเผาไหม้สูงสุด ลดมลพิษ และเพิ่มกำลังได้อย่างมีนัยสำคัญ กลไกขับวาล์วแบบเพลาลูกเบี้ยวเหนือฝาสูบคู่ (DOHC) 4 วาล์วต่อกระบอกสูบ พร้อมฝาสูบอะลูมิเนียมและเสื้อสูบรูปตัว V เหล็กหล่อแกรไฟต์ขั้นตอนเดียว ทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งทนทานสูงสุด ระบบเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลและเทอร์โบชาร์จเจอร์แปรผันช่วยให้การตอบสนองของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกรอบความเร็ว ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter ที่ล้ำสมัย มอบการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด
ระบบขับเคลื่อน 4×4 (รถกระบะ 4×4) อัจฉริยะและโหมดการขับขี่ที่ครอบคลุม:
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ 4A 4WD ที่ชาญฉลาดที่สุดในปัจจุบัน สามารถปรับการกระจายกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังได้อย่างอิสระตามสภาพถนน มอบการยึดเกาะและการทรงตัวที่ดีเยี่ยมในทุกเส้นทาง ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับสภาพถนนแบบใด พร้อมตัวเลือกโหมดการขับขี่ 6 โหมดที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัด (Eco), โหมดลากจูง (Tow/Haul), โหมดถนนลื่น (Slippery), โหมดโคลนและหิน (Mud/Ruts) และโหมดทราย (Sand) ทำให้รถคันนี้พร้อมสำหรับทุกการผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนลาดยางเรียบๆ การลากจูงที่ต้องการกำลังพิเศษ หรือการลุยเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย นี่คือ “รถกระบะ 4×4” ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง
ห้องโดยสารระดับ “ภายในพรีเมียม” (ภายในพรีเมียม) ที่ผสานความหรูหราและความสปอร์ตเข้าไว้ด้วยกัน:
ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของ “ภายในพรีเมียม” ที่ผสานความหรูหราและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว การตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์และหนังกลับคุณภาพสูง พร้อมการเดินด้ายสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ทั่วทั้งห้องโดยสาร สะท้อนถึงความประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด ที่ไม่ได้พบเห็นได้ง่ายในรถกระบะทั่วไป
เบาะที่นั่งโอบกระชับสไตล์ MS-RT: เบาะนั่งด้านหน้าได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ให้ความรู้สึกโอบกระชับและมั่นคงแม้ยามขับขี่ด้วยความเร็วสูงหรือเข้าโค้งอย่างดุดัน เบาะนั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายในการค้นหาตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด พร้อมสัญลักษณ์ MS-RT และลายธงเรซซิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
พวงมาลัยสปอร์ตดีไซน์ใหม่: พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น จับกระชับมือ ตกแต่งด้วยแถบสีน้ำเงินที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และสัญลักษณ์ MS-RT อันโดดเด่น มอบการควบคุมที่กระชับมือและตอบสนองได้อย่างแม่นยำ เพิ่มความเร้าใจในทุกการขับขี่
เทคโนโลยีภายในที่เหนือกว่า เพื่อการเชื่อมต่อและสะดวกสบายสูงสุด:
แท่นชาร์จไร้สาย: เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานอุปกรณ์พกพา หมดปัญหาสายระโยงระยาง
กุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ: สตาร์ทรถได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง: สร้างความเย็นสบายให้ทุกคนในห้องโดยสารอย่างทั่วถึง
กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB: เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ในเวลากลางคืน และรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม
ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร: สร้างบรรยากาศที่หรูหราและมีสไตล์ในยามค่ำคืน เปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว: ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและลื่นไหล มอบประสบการณ์การใช้งานที่ทันสมัยและเป็นมิตร
ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A: รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ ที่ได้รับการพัฒนาให้สะดวกรวดเร็วไปอีกขั้น ช่วยให้การเชื่อมต่อและสั่งการเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ทำให้คุณเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้อย่างไร้รอยต่อ
หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 8 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างรวดเร็ว
ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ FordPass Connect: เชื่อมต่อกับโลกภายนอกและควบคุมรถของคุณได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน มอบความสะดวกสบายและความอุ่นใจในทุกสถานการณ์
ช่องต่อ USB 4 จุด: รวมถึงบนกระจกมองหลัง เพื่อรองรับการใช้งานและการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
ลำโพง 6 ตำแหน่ง: มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและสมจริงตลอดการเดินทาง สร้างความบันเทิงในทุกเส้นทาง
ชุด “เทคโนโลยีช่วยขับขี่” (เทคโนโลยีช่วยขับขี่) และ “ความปลอดภัยรถกระบะ” (ความปลอดภัยรถกระบะ) ขั้นสูง:
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่เรื่องสมรรถนะและความหรูหรา แต่ยังมาพร้อมกับชุด “เทคโนโลยีช่วยขับขี่” และ “ความปลอดภัยรถกระบะ” ที่ครบครันและล้ำสมัย มอบความอุ่นใจในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกล
ถุงลมนิรภัย 7 จุด: ประกอบด้วยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า เพื่อการปกป้องสูงสุดในกรณีที่เกิดการชน ลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน: เชื่อมต่ออัตโนมัติกับบริการฉุกเฉินเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ช่วยให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
เบรกมือไฟฟ้า: เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการจอดรถ ป้องกันการลืมปลดเบรกมือ และลดพื้นที่ภายในห้องโดยสาร
ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD: ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจในสถานการณ์เบรกกะทันหัน ป้องกันการลื่นไถล
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System): รักษาการทรงตัวของรถและป้องกันการลื่นไถล เมื่อต้องเจอพื้นผิวถนนที่เปียกหรือลื่น
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation): เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนเส้นทางลาดชัน และป้องกันการพลิกคว่ำของรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control): ช่วยให้การลงเขาเป็นไปอย่างนุ่มนวลและปลอดภัย ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วได้อย่างแม่นยำ
สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง: ช่วยให้การจอดรถในพื้นที่จำกัดเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย ลดความเสี่ยงของการชนสิ่งกีดขวาง
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง: มอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ทางไกล ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ และช่วยรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ: ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่เวลากลางคืน
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB): ช่วยลดความเสี่ยงของการชนและเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนเดินถนน รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System): เตือนผู้ขับขี่เมื่อมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชนกับรถคันหน้า
ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน (Post-Collision Braking System): ช่วยลดความรุนแรงจากการชนซ้ำซ้อนโดยการเบรกอัตโนมัติหลังจากการชนครั้งแรก
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Alert): เตือนผู้ขับขี่เมื่อรถกำลังจะออกจากช่องทางโดยไม่ได้ตั้งใจ
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System – BLIS® with cross-traffic alert): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนและการถอยออกจากช่องจอด ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
กล้องมองรอบคัน 360 องศา: มอบมุมมองที่ครอบคลุมทุกด้านของตัวรถ ช่วยให้การขับขี่และการจอดรถในพื้นที่แคบเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัย
ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง (Reverse Brake Assist): ช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อตรวจพบสิ่งกีดขวางขณะถอยหลัง ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist): ช่วยเสริมการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน
“ราคา Ford Ranger MS-RT” (ราคา Ford Ranger MS-RT) และทางเลือกสีที่สะท้อนสไตล์:
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของใน “ราคา Ford Ranger MS-RT” ที่ 1,749,000 บาท ซึ่งสะท้อนถึงมูลค่าของนวัตกรรม ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และสมรรถนะที่เหนือชั้น มีให้เลือก 2 สีสุดคลาสสิกที่ช่วยขับเน้นความสปอร์ตและความหรูหราของตัวรถได้อย่างลงตัว ได้แก่:
สีเทา คอมมานด์ เกรย์ (Command Grey)
สีดำ แอ็บโซลูท แบล็ก (Absolute Black)
บทสรุป: นิยามใหม่ของ “รถกระบะหรู” (รถกระบะหรู) ที่เหนือกว่าทุกความคาดหมาย
ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 ไม่ได้เป็นเพียงรถกระบะ แต่มันคือปรากฏการณ์ใหม่ที่ฉีกทุกกรอบของยานยนต์ประเภทนี้ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างขุมพลังดิบของเครื่องยนต์ V6, การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์สปอร์ต, ช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน และห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยความหรูหราและเทคโนโลยีสุดล้ำ นี่คือ “รถกระบะหรู” ที่สร้างมาเพื่อผู้ที่ต้องการที่สุดของที่สุดในทุกด้าน ไม่ว่าจะใช้เพื่อการทำงานที่สมบุกสมบัน การผจญภัยที่ท้าทาย หรือเพียงแค่การขับขี่ในชีวิตประจำวัน MS-RT พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายและสร้างความประทับใจในทุกเส้นทาง
สำหรับผู้ที่มองหา “รถกระบะแต่งพิเศษ” ที่ไม่เพียงแค่พาคุณไปถึงจุดหมาย แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจในทุกครั้งที่ก้าวขึ้นไปนั่ง สำหรับผู้ที่ต้องการ “รถกระบะสมรรถนะสูง” ที่ไม่เหมือนใคร ฟอร์ด เรนเจอร์ MS-RT 2025 คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งปี 2025 ที่จะเปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นเรื่องน่าจดจำและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เคยสัมผัสมา

