NEW MG MAXUS 9 เริ่มต้นที่ 2.499 ล้าน พร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือน พฤษภาคม นี้
ราคาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี่ MPV ไฟฟ้า100% แบบ 7 ที่นั่งตัวล่าสุด ของ เอ็มจี พร้อมเปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่2.499 ล้านบาท รุ่น X และ รุ่น V ในราคา 2.699 ล้านบาท เริ่มส่งมอบรถ NEW MG MAXUS 9 ภายในเดือน พฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป
อุปกรณ์เพิ่มใน MG Maxus 9 รุ่น V เพิ่มเงิน 200,000 บาท
– ยาง RunFlat Tyres
– เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบนวด Massage Seat
– เบาะนั่งคนขับ พร้อมระบบอุ่น และ ระบายอากาศ Heated – Ventilated Seat
– เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมระบบนวด Massage Seat
– เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า พร้อมระบบอุ่น และ ระบายอากาศ Heated – Ventilated Seat
– เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ VIP Captain Seat
– เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมระบบนวด Massage Seat
– ระบบกล้องแสดงภาพบนกระจกมองหลัง Streaming Media Rearview Mirror
– ช่องเชื่อมต่อ USB 9 ตำแหน่ง (รุ่น X USB 7 ตำแหน่ง)
– ลำโพง 12 ตำแหน่ง (รุ่น X ลำโพง 8 ตำแหน่ง)
ขุมพลัง MG MAXUS 9
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่ Lithium-ion แบบ Cell To Pack ขนาดความจุ 90 kWh วิ่งไกล 540 km. ต่อชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) ขับเคลื่อนล้อหน้า
Charging การชาร์จไฟ
หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo
– รองรับการชาร์จ กระแสสลับ สูงสุด AC 11 kW จาก 5-100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที
– รองรับการชาร์จ กระแสตรง DC 120 kW จาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ระบบความปลอดภัย MG MAXUS 9
– ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame)
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
– ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto -Vehicle Hold)
– ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
– ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
– ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
– ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
– ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
– ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
– ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
– ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
– ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
– ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
– ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
– ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
– ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา (LCA/ BSD/ RCTA/ DOW)
– จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 และ 3
– เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
– ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
– กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา
– สัญญาณเตือนระยะเดินหน้า และ ถอยหลัง



สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 3 สี
รุ่น X – LUXURY ที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท และ
รุ่น V – SUPER LUXURY ที่มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์ เพิ่ม อีก 30,000 บาท