Nissan Almera Minorchange 2023 ออฟชั่นที่เหนือกว่า ECO CAR
กลับมาแล้วกับ Nissan Almera Minorchange 2023 เปิดตัวได้ไม่นาน แต่ได้รับกระแสที่ดีเยี่ยม ด้วยการปรับดีไซน์ใหม่ ที่ทำให้ให้ตัวรถดูโดดเด่นขึ้น รวมถึงออฟชั่นที่ให้แบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าคุ้มค่าเกินราคา Eco Car เลยครับ
แต่เหนือสิ่งใดที่ถือเป็นครั้งแรกสำหรับรถขนาดเล็กในกลุ่มนี้ NISSAN ALMERA ได้เห็นความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยโดยมีปุ่ม SOS ระบบโทรฉุกเฉิน ระบบจะติดต่อกับศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เพื่อประสานงานและส่งความช่วยเหลือไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเราเกิดปัญหาใด ๆ ก็ตาม ซึ่งปุ่มนี้เราจะเห็นได้จากรถฝั่งยุโรปเป็นส่วนใหญ่นี้ถือเป็นครั้งแรก
NissanConnect Services การสั่งการทุกอย่างผ่านจากมือถือ เตรียมรถให้พร้อมสำหรับทุกการเดินทาง ด้วยระบบสั่งการระยะไกลต่าง ๆ ได้แก่ ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู สั่งล็อก หรือปลดล็อกรถยนต์ระยะไกล ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล ระบบสั่งกะพริบไฟหน้า และสั่งระบบแตรระยะไกล ที่ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถได้สะดวกแม้ในลานจอดรถที่มีรถแน่นขนัด และ My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยค้นหา และนำทางไปยังรถได้ในทันที เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภคมากด้วยปัจจุบัน เราใช้มือถือเป็นหลักดังนั้นการเชื่อมรถเข้ากับมือถือได้นั้น เพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น
การขับขี่กับเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ 100 แรงม้า ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าไม่แรงเลย แต่ความเป็นจริงต้องบอกว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ถ้าคุณได้ทดลองขับขี่แล้วจะรู้สึกว่านี้คือเครื่อง 1.6 ลิตรหรือเปล่า เพราะรถในการตอบสนองที่ดีทุกย่านความเร็ว ตอนแรกอาจจะรู้สึกว่าทำไม่รถกดคันเร่งแล้วรถไม่วิ่งออกไปทันใจ ALMERA ถูกออกแบบมาเพื่ออัตราการประหยัดน้ำมันซึ่งในเมืองทำตัวเลขประหยัดได้ประมาณ 16-17 km/L ดังนั้น ช่วงกดคันเร่งอาจจะรู้สึกหน่วงเล็กน้อย แต่ถ้าจับจังหวะได้แล้ว จะหมดปัญหานี้ไป เครื่องแรงวิ่งทางไกลได้สบายด้วยเครื่องที่มีกำลังพร้อมกับช่วงล่างที่ให้ความมั่นใจในทุกการขับขี่ไม่ว่าจะในเมือง รับแรงกระแทกได้ดี นอกเมืองขับขี่ด้วยความเร็วตัวรถก็ให้การเกาะถนนที่ดี ส่งผลทำให้การควบคุมพวงมาลัยทำได้ง่ายด้วย การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารก็ทำดี เช่นกัน นี้เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ ALMERA ไม่ได้ปรับเครื่องยนต์หรือช่วงล่างเพราะเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว
