การจัดพื้นที่แม้จะมีขนาดใกล้เคียงจากเดิม แต่พื้นที่กว้างขวางเพิ่มขึ้นอีก 5 มม. ในแถวที่ 2 และ 10 มม. ในแถวที่สาม ในขณะที่แถวที่ 2 จะรองรับเก้าอี้แบบ Captain Seat ที่เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งมีที่วางเท้าแบบปรับเอนได้ โต๊ะพับได้ ระบบควบคุมหน้าจอสัมผัส ระบบทำความร้อนเย็น ตลอดจนฟังก์ชันการนวดเพื่อความหรูหราและความสะดวกสบายเป็นพิเศษ




Alphard และ Vellfire ยังมาพร้อมกับ “บันไดอเนกประสงค์” แบบ Universal Steps ซึ่งหดกลับโดยอัตโนมัติทั้ง 2 ด้าน ทำให้เด็กและผู้สูงอายุเข้าถึงห้องโดยสารได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่องบานประตูคู่หลังถูกออกแบบให้กว้างขึ้นเป็น 820 มิลลิเมตร พร้อมติดตั้งมือจับบริเวณเสา B-Pillar ความยาว 620 มิลลิเมตร มือจับบริเวณเพดานหลังคา ความยาว 315 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวก
เครื่องยนต์ Alphard / Vellfire ใหม่ มีให้เลือก 3 รูปแบบ ในรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับ
เฉพาะ Alphard เบนซิน 2.5 ลิตร
เครื่องยนต์รหัส 2AR-FE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.5 ลิตร 2,493 ซีซี กำลังสูงสุด 182 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ความจุถังนำ้มัน 75 ลิตร
เฉพาะ Vellfire เบนซิน 2.4 ลิตร Turbo
เครื่องยนต์รหัส T24A-FTS เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.4 ลิตร 2,393 ซีซี ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection D4-ST พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 279 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 3,600 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ Direct-shift 8 จังหวะ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Direct-shift 8 จังหวะ มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ความจุถังนำ้มัน 75 ลิตร
เครื่องยนต์ที่เหมือนกัน Alphard และ Vellfire จะมีรุ่นไฮบริด ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว (รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า) หรือ 2 ตัว (ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four) ให้กำลังรวม 250 แรงม้า และในอนาคต Toyota กำลังวางแผนที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมด้วยการเพิ่มตัวเลือกเครื่องยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด




ทั้งหมดนี้กับ Toyota Alphard และ Vellfire พร้อมให้สั่งซื้อในญี่ปุ่นแล้ว Toyota จะผลิต Alphard และ Vellfire จำนวน 8,500 คันต่อเดือนที่โรงงาน Inabe ในญี่ปุ่น โดยมีอัตราส่วนการผลิตอยู่ที่ Alphards 70% และ Vellfires 30% คาดว่าบริษัทรถนำเข้าในประเทศไทย สั่งรอกันไวอยู่แล้วรอเพียงการเดินทางมาถึงประเทศไทยและใครจะเป็นเจ้าแรกส่งให้ใครเป็นคนแรก เชื่อว่าทุกคนพร้อมซื้อ

