5. “Comfort and Confidence” สุนทรียภาพ และความมั่นใจในการเดินทาง
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรระบบไฮบริดใหม่ 250 แรงม้า ผสานกับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสีล้อแบบ E FOUR ทำให้ได้พละกำลังที่ดีขึ้น เร่งแซงได้อย่างมั่นใจ พร้อมความประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม

โครงสร้างตัวถังพัฒนาขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรมโครงสร้าง GA-K ที่แข็งแกร่งขึ้นและใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ให้การตอบสนองที่เฉียบคมและการควบคุมที่ดีเยี่ยมพร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ “Rear Comfort Mode” ที่ให้ความสบายนุ่มนวลอย่างแตกต่างด้วยระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ครั้งแรกของโลก “Frequency-sensitivity Piston Valve” ทำงานคู่กับระบบ “Adaptive Variable Suspension” (AVS) และระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรก “Braking Posture Control” ช่วยป้องกันทั้งการโยนตัวขณะเบรก และป้องกันการโคลงตัวในขณะเข้าโค้ง ลดอาการเวียนศรีษะ ทำให้ผู้โดยสารด้านหลังเดินทางได้อย่างสะดวกสบายสูงสุด

6. “World-Class Safety” ความปลอดภัยขั้นสูง
สัมผัสความปลอดภัยระดับโลกกับระบบ “Lexus Safety System Plus” พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันในทุกเกรด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบตรวจจับระยะด้วยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรและกล้องที่กว้างขึ้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและผู้ร่วมทาง

7. “Ultimate Omotenashi” ประสบการณ์ “Omotenashi”
สัมผัสจิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่นตามปรัชญา “Omotenashi” ด้วยระบบ “Lexus Climate Concierge” ที่จะตรวจจับอุณหภูมิของผู้โดยสารแต่ละท่านเพื่อปรับอุณหภูมิในห้องโดยสารโซนนั้นๆ ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับบรรยากาศห้องโดยสารด้านหลัง โดยปรับระบบไฟในห้องโดยสารรวมถึงฟังก์ชันบังแสงจากภายนอกตามอารมณ์ของผู้โดยสารได้ถึง 5 โหมด คือ Dream, Relax, Focus, Energize และ My Original

ทั้งหมดนี้ ทำให้ The All-new Lexus LM ใหม่ เป็นรถ Flagship จากเลกซัส ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นที่มาของ Tagline เลกซัส LM ใหม่ “Own A World Apart” ที่รังสรรค์ประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษที่ไม่มีใครเทียบเคียง เลือกเป็นเจ้าของยนตรกรรม Luxury Mini Van All-New LEXUS LM ใหม่ ได้ 2 รูปแบบทั้งรุ่น 4ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง พร้อมสีภายนอก และสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์


