มาถึงในด้านระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ต่างๆ มีการติดตั้งเรดาร์คลื่น 5 มิลลิเมตร ที่มาพร้อมกับกล้องหน้าและกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา 4 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว กล้องระบบติดตามผู้ขับขี่ รวมถึงติดตั้งฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงของ Neta AD ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยจอดรถ, ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ และระบบช่วยรถอยู่ในเลน เป็นต้น
ขุมพลังการขับขี่ NETA L
สำหรับโครงสร้างตัวถังของ NETA L ใช้ แพลตฟอร์มเดียวกับ NETA S รวมถึงคุณลักษณะด้านความแข็งแกร่งของเหล็กที่เทียบได้กับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ แข็งแกร่งขึ้น น้ำหนักเบาลงเหลือเพียง 8,400 กิโลกรัม นอกจากนี้ได้มีการวิ่งทดสอบคุณภาพด้วยระยะทางหลายล้านกิโลเมตร เทียบเท่ากับการโคจรรอบโลกถึง 30 รอบ
ได้รับขุมพลัง EREV ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นเองใหม่ล่าสุด ช่วยให้เครื่องเงียบกว่า และประหยัดพลังงานมากขึ้น ผลิตพละกำลัง 91 แรงม้า มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 231 แรงม้า และชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตของทาง CATL ขนาดความจุ 2 ทางเลือกได้แก่ 30 kWh และ 40 kWh ซึ่งหากใช้โหมดการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 220 กิโลเมตร และ 310 กิโลเมตร ตามลำดับ ในมาตรฐาน CLTC และยังสามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,300 กิโลเมตร เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังและชาร์จแบตเตอรี่เต็ม
มาทางด้านขุมพลังไฟฟ้า 100% มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ Rear-Wheel Drive Standard Range ที่มี มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ผลิตพละกำลัง 231 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง Rear-Wheel Drive แบตเตอรี่ขนาด 64 kWh วิ่งไกล 550 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC ทำ Top Speed ความเร็วสูงสุดได้ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และอีกรุ่นคือ Rear-Wheel Drive Long Range ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ผลิตพละกำลังเท่ากัน 231 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง Rear-Wheel Drive แบตเตอรี่ขนาด 74 kWh วิ่งไกล 660 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC ทำ Top Speed ความเร็วสูงสุดได้ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง
NETA L มีสีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน ได้แก่ สีดำ Magic Night Black, สีขาว Comet White, สีน้ำเงิน Particle Blue, สีบรอนซ์ Juechen Silver ส่วนสีทูโทนจะเป็นสีขาวหลังคาดำ Comet White และ Magic Night Black มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 129,900 – 159,900 หยวน หรือประมาณ 677,XXX – 833,XXX บาท คาดว่าจะมีลุ้นเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอย่างแน่นอน
