Lamborghini Temerario
น้องใหม่จากค่ายกระทิงของ Lamborghini อย่าง Temerario นั้น ถูกส่งมาเพื่อแทนที่ Huracan โดย Temerario เป็นซูเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว เพื่อมอบกำลังรวมมากกว่ารุ่นก่อนหน้านถึง 45%


การเผยโฉมของTemerario ในครั้งนี้ Mr. Stephan Winkelmann ประธานและ CEO ของ Automobili Lamborghini กล่าวว่า “Lamborghini รุ่นใหม่ทุกคันจะต้องเหนือกว่ารุ่นก่อนในแง่ของประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังต้องมีการปล่อยมลพิษที่ต่ำลงด้วย” นั่นทำให้เราได้เห็นเครื่องยนต์สันดาปพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้ามาปรากฎอยู่ใน Lamborghini Temerarrio เช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง Revuelto
การที่ผลิตรถยนต์ที่ให้ทั้งพละกำลังที่แล้วยังจะต้องลดการปล่อยมลพิษไปพร้อมๆกัน นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ V10 ขนาด 5.2 ลิตรของ Huracan ต้องถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็นเครื่องยนต์ที่พ่วงเทอร์โบชาร์จ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับที่ Ferrari ทำแบบเดียวกันกับเครื่องยนต์ V8 ในช่วงกลางทศวรรษที่แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังและแรงบิดมากขึ้น

Temerario มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 (Hot V 90 องศา) 4.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Bi-Turbo กำลังสูงสุด 800 แรงม้า (PS) ที่ 9,000-9,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตร ที่ 4,000-7,000 รอบ/นาที
ผสานการทำงานเข้ากับระบบ Hybrid อันประกอบไปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว กำลังสูงสุด 300 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาที กักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 3.8 kWh รองรับการอัดประจุด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7 kW (ชาร์จาก 0-10% ใน 30 นาที)
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุด 920 แรงม้า (PS) ที่ 9,000-9,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 730 นิวตันเมตร ที่ 4,000-7,000 รอบ/นาที ส่งกำลังลงสู่ล้อด้วยเกียร์อัตโนมัติ AMT Dual Clutch 8 จังหวะ
Temerario มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร แบบเฉพาะของ Lamborghini ในรหัส L411 ที่มีกระบอกสูบขนาด 90 มม. และช่วงชัก 78.5 มม. ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์นี้สามารถลากรอบได้สูงถึง 10,000 รอบต่อนาที
เครื่องยนต์ V8 รหัส L411 นี้ มีวัสดุและเทคโนโลยีพิเศษมากมายที่ออกแบบมาเพื่อทนต่อแรงหมุนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น ข้อเหวี่ยงอะลูมิเนียมเกรดมอเตอร์สปอร์ต ก้านสูบไททาเนียมและวาล์วที่เคลือบด้วยสารที่เรียกว่า DLC (Diamond Like Carbon)
การใช้งานในโหมด EV (Citta) นั้น ทาง Lamborghini ไม่ได้บอกระยะทางที่สามารถใช้งานได้สูงสุด แต่บอกว่าแบตเตอรี่มีความจุเพียง 3.8 kWh ซึ่งน่าจะช่วยให้วิ่งได้เพียง 3.5 กม. ก่อนที่เครื่องยนต์ V8 จะเข้ามาเสริม
Temerario สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลา 30 นาที โดยใช้แหล่งจ่ายไฟ 7 kW หรือเครื่องยนต์ V8 ก็สามารถทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่ได้เมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนจากโหมด Hybrid เป็นโหมด Recharge แต่ในการเปิดโหมด Recharge จะทำให้กำลังลดลงเหลือ 725 แรงม้า



