• Sample Page
filmthai.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
filmthai.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

G0612017 ตสาม ภรรยาต างก ความกดด นของต วเอง เพราะคำว าครอบคร part2

admin79 by admin79
December 6, 2025
in Uncategorized
0
G0612017 ตสาม ภรรยาต างก ความกดด นของต วเอง เพราะคำว าครอบคร part2

มิตซูบิชิ 2025-2026: ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ ด้วยไฮบริดอเนกประสงค์ และปิกอัพสายสปอร์ต

ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของตลาดรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้มข้นขึ้น การก้าวเข้าสู่ปี 2025-2026 นี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาสำหรับผู้บริโภคชาวไทยที่กำลังมองหายานยนต์คู่ใจ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ชีวิตเมืองแบบครอบครัว หรือรถกระบะที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะและความคล่องตัว

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คน วันนี้ ผมจะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงไฮไลต์สำคัญของสองไลน์อัพเรือธงที่เตรียมจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด นั่นคือ Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV รุ่นปี 2026 ที่มาพร้อมกับขุมพลังไฮบริด และ Mitsubishi Triton Street 2026 รถกระบะสายพันธุ์สปอร์ตที่ฉีกทุกกรอบเดิมๆ

ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันกำลังให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่อง ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง และ การลดการปล่อยมลพิษ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รถยนต์ไฮบริดจึงไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการยานพาหนะที่ครบครัน มิตซูบิชิเองก็เล็งเห็นถึงเทรนด์นี้ และได้นำเสนอ Xpander HEV และ Xpander Cross HEV ที่ไม่ใช่แค่การเติมเต็มตลาด แต่เป็นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ให้เหนือชั้นยิ่งกว่าเดิม

ขณะเดียวกัน กลุ่มรถกระบะซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของตลาดไทย ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคไม่ได้มองหากระบะเพื่อการบรรทุกอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องการรถที่สะท้อนบุคลิกภาพ พร้อมใช้งานได้หลากหลาย ทั้งวันทำงานและวันพักผ่อน Triton Street 2026 จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหารถกระบะที่มีสไตล์ โฉบเฉี่ยว แต่ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ ไทรทัน

ในบทความนี้ เราจะลงลึกถึงรายละเอียดของแต่ละรุ่น ทั้งราคาจำหน่าย ฟีเจอร์เด่น เทคโนโลยีความปลอดภัย และนวัตกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมรถยนต์เหล่านี้ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับปี 2025-2026 ที่กำลังจะมาถึงนี้

Mitsubishi Xpander HEV และ Xpander Cross HEV 2026: นิยามใหม่ของรถยนต์อเนกประสงค์ไฮบริด 7 ที่นั่ง

นับเป็นก้าวสำคัญของมิตซูบิชิในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฮบริด 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีการแข่งขันสูง แต่ก็มีความต้องการของผู้บริโภคที่มองหารถครอบครัวอเนกประสงค์ที่ประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง Mitsubishi Xpander HEV 2026 และ Xpander Cross HEV 2026 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำเทคโนโลยีไฮบริดมาใส่เท่านั้น แต่เป็นการออกแบบและพัฒนาใหม่หมด เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ทั้งในด้านสมรรถนะ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่ครบครัน

ขุมพลังไฮบริดที่ฉลาดล้ำ เพื่อการขับขี่ที่ประหยัดและเร้าใจ

หัวใจสำคัญของ Xpander HEV และ Xpander Cross HEV คือระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ ที่ได้รับการปรับจูนมาเป็นอย่างดี ระบบนี้จะผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างไร้รอยต่อ ให้การตอบสนองที่รวดเร็วฉับไวในการออกตัว และมอบ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องหยุดและออกตัวบ่อยครั้ง หรือการเดินทางไกลนอกเมืองที่ต้องการพละกำลังที่ต่อเนื่อง การใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้ายังช่วยลด มลพิษทางอากาศ ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เทคโนโลยีไฮบริดของมิตซูบิชิยังโดดเด่นเรื่องความทนทานและการบำรุงรักษาที่ง่ายดาย มั่นใจได้ถึง ความคุ้มค่า ในระยะยาว

ดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว สะท้อนความแข็งแกร่งและทันสมัย

การเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ภายนอกของ Xpander HEV และ Xpander Cross HEV 2026 นั้นน่าประทับใจยิ่งขึ้น เริ่มต้นด้วยกระจังหน้าและกันชนดีไซน์ใหม่ที่ผสานปรัชญา Dynamic Shield เข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะรุ่น HEV ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าสีดำเงา พร้อมกรอบตกแต่งไฟหน้ารมดำ เพิ่มลุคเท่และดุดัน ไฟตัดหมอก LED และไฟท้าย LED สี Smoke ไม่เพียงแค่ให้ความสว่างที่ชัดเจน แต่ยังเติมเต็มความหรูหราทันสมัย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ก็ยิ่งช่วยเสริมให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยวและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สำหรับรุ่น Xpander Cross HEV นั้น จะมีการตกแต่งที่เน้นความบึกบึนสไตล์ครอสโอเวอร์มากยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่งรอบคันที่ดุดัน พร้อมการออกแบบที่สะท้อนถึง DNA ของรถ SUV ระดับพรีเมียม

ภายในห้องโดยสารที่หรูหรา กว้างขวาง และคำนึงถึงทุกการเดินทาง

เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสาร คุณจะสัมผัสได้ถึงความประณีตและการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด Xpander HEV มาพร้อมกับการตกแต่งภายในโทนสีดำที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัย ขณะที่ Xpander Cross HEV ใหม่ ได้รับการตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล-ดำ ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมียมยิ่งขึ้น เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังมาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ Heat Guard ที่ช่วยสะท้อนความร้อน ทำให้ห้องโดยสารเย็นสบายแม้จอดตากแดดเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์สภาพอากาศร้อนในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ความโดดเด่นของรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นนี้คือ พื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง ไม่ว่าจะเป็นการขนสัมภาระชิ้นใหญ่ หรือการเดินทางพร้อมผู้โดยสารเต็มคัน ก็ยังคงให้ความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่ เบาะแถวสามสามารถพับราบเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของได้อย่างมหาศาล ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Xpander เป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ การใช้งานแบบครอบครัว ได้อย่างแท้จริง

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Diamond Sense 360 องศา

มิตซูบิชิให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยในการขับขี่ เป็นอันดับแรก ด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับที่ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ Diamond Sense ซึ่งครอบคลุมการตรวจจับรอบคัน 360 องศา ระบบถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความรุนแรงจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เด่นอื่นๆ เช่น:

ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert – RCTA): ช่วยเตือนเมื่อมีรถยนต์หรือวัตถุเคลื่อนที่ผ่านด้านหลังในขณะถอยรถออกจากช่องจอด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในพื้นที่แคบหรือลานจอดรถที่มีทัศนวิสัยจำกัด
ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist – BSW with LCA): ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นรถที่อยู่ในจุดอับสายตา และเตือนเมื่อเปลี่ยนเลนในขณะที่มีรถอยู่ในเลนข้างเคียง ทำให้การเปลี่ยนเลนปลอดภัยยิ่งขึ้น
ระบบเตือนการออกนอกเลน (Lane Departure Warning – LDW): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถกำลังเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนทางหลวง
กล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor): เฉพาะในรุ่น Xpander Cross HEV 2026 เท่านั้น ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพรอบคันแบบ 360 องศา ทำให้การจอดรถและการขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย

ในด้านความบันเทิงและการเชื่อมต่อ ห้องโดยสารมาพร้อมกับ เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ให้คุณสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันนำทาง เพลงโปรด และการสื่อสารได้อย่างสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ไม่ต้องวุ่นวายกับสายเคเบิลอีกต่อไป ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อในรถยนต์ให้เป็นไปอย่างราบรื่น

ราคาและสีสันที่ลงตัว

Mitsubishi XPANDER HEV 2026
ราคาจำหน่าย: 939,000 บาท
สีที่มีให้เลือก 3 สี:
สีเงิน (Blade Silver)
สีเทา (Graphite Grey)
สีขาวหลังคาดำ (White Diamond with Black Roof) (ราคาเพิ่ม 15,000 บาท)

Mitsubishi XPANDER CROSS HEV 2026
ราคาจำหน่าย: 969,000 บาท
สีที่มีให้เลือก 4 สี:
สีเทา (Graphite Grey)
สีดำ (Jet Black Mica)
สีขาวหลังคาดำ (White Diamond with Black Roof)
สีเขียวหลังคาดำ (Green Bronze with Black Roof) (โดยรุ่นหลังคาดำ ราคาเพิ่ม 15,000 บาท)

สำหรับราคาจำหน่ายของ รถยนต์ไฮบริด 7 ที่นั่ง ทั้งสองรุ่นนี้ ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเทคโนโลยีไฮบริดที่ได้รับ การออกแบบที่สวยงาม ฟีเจอร์ภายในที่ครบครัน และระบบความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งทำให้ Xpander HEV และ Xpander Cross HEV เป็น รถยนต์ประหยัดพลังงาน ที่เป็นมากกว่าแค่พาหนะ แต่เป็นพาร์ทเนอร์ที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตสมัยใหม่

Mitsubishi Triton Street 2026: รถกระบะสายสปอร์ต คู่ใจคนเมืองตัวจริง

ตลาดรถกระบะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้งานเชิงพาณิชย์อีกต่อไป แต่ยังเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่แข็งแกร่ง ทนทาน และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย Mitsubishi Triton Street 2026 (เมกะ แค็บ ตัวเตี้ย) คือคำตอบที่มิตซูบิชิส่งมาเพื่อเอาใจกลุ่มคนเมืองและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มองหารถกระบะที่มีสไตล์จัดจ้าน สมรรถนะที่ไว้ใจได้ และความคล่องตัวที่เหนือกว่า

ดีไซน์สปอร์ตดุดัน สะกดทุกสายตา

Triton Street 2026 มาพร้อมกับความโดดเด่นด้านดีไซน์ที่แตกต่างจากรถกระบะทั่วไป การตกแต่งกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตที่รับกับชุดแต่งรอบคัน ทำให้ตัวรถดูดุดันและทันสมัย ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมภาพลักษณ์สปอร์ต แต่ยังให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม การออกแบบทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการเป็น รถกระบะสำหรับคนเมือง ที่ต้องการความแตกต่างและไม่ต้องการเป็นแค่รถกระบะขนของธรรมดา

โครงสร้างแข็งแกร่ง MEGA FRAME ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Mitsubishi Triton เป็นที่ยอมรับในเรื่องความทนทานคือ แชสซีส์ MEGA FRAME ขนาดใหญ่ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษ แต่กลับมีน้ำหนักเบา ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมที่แม่นยำ การทรงตัวที่ดีเยี่ยมบนทุกสภาพถนน และความสามารถในการบรรทุกที่ไว้ใจได้ โครงสร้างนี้ยังช่วยเพิ่ม ความปลอดภัยในการเดินทาง ให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้วยการดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ในทุกการเดินทาง

เครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน และตอบสนองทันใจ

Triton Street 2026 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นที่ยอมรับในเรื่องของความทนทานและ ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางออกนอกเมืองที่ต้องการพละกำลังในการเร่งแซง เครื่องยนต์นี้ได้รับการปรับจูนมาเป็นอย่างดี เพื่อให้การตอบสนองที่ทันใจและราบรื่นในทุกรอบความเร็ว ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับ รถกระบะอเนกประสงค์ ที่ต้องใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

ภายในห้องโดยสารที่ทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ

ภายในห้องโดยสารของ Triton Street 2026 ตกแต่งด้วยโทนสีดำที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัย หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10 นิ้ว เป็นศูนย์กลางของการควบคุมความบันเทิงและการเชื่อมต่อ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ให้คุณสามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ ของสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ฟังเพลง หรือการสื่อสาร ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สะดวกสบายและเพลิดเพลินยิ่งขึ้น

ยกระดับความปลอดภัยด้วยระบบ FCM พร้อมตรวจจับคนเดินถนน

มิตซูบิชิยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มระบบความปลอดภัยเชิงรุกเข้ามาใน Triton Street 2026 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation System – FCM) ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ ระบบตรวจจับคนเดินถนน (Pedestrian Detection) อีกด้วย ระบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยจะเตือนผู้ขับขี่เมื่อตรวจพบว่ามีโอกาสที่จะเกิดการชนกับรถคันหน้าหรือคนเดินเท้า และจะช่วยชะลอความเร็วของรถโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองทันเวลา ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับ การขับขี่ในเมือง ที่มีผู้คนและยานพาหนะหนาแน่น

ราคาและสีสันที่เข้าถึงได้

Mitsubishi Triton Street 2026 (เมกะ แค็บ ตัวเตี้ย)
ราคาจำหน่าย: 649,000 บาท
สีที่มีให้เลือก 3 สี:
สีขาว (Solid White)
สีเงิน (Blade Silver)
สีเทา (Graphite Grey) (สีเงิน และสีเทา ราคาเพิ่ม 7,000 บาท)

ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ และฟีเจอร์ที่ครบครัน ทั้งดีไซน์ สมรรถนะ และความปลอดภัย ทำให้ Triton Street 2026 เป็น รถกระบะที่คุ้มค่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะคู่ใจที่สามารถตอบโจทย์ทั้งการใช้งานส่วนตัวและการทำงานได้อย่างลงตัว

บทสรุปและมุมมองในอนาคต: มิตซูบิชิกับการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด

การเปิดตัว Mitsubishi Xpander HEV, Xpander Cross HEV 2026 และ Triton Street 2026 ในช่วงปลายปี 2025 และวางจำหน่ายสำหรับปีโมเดล 2026 นี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของมิตซูบิชิในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ตอบโจทย์ตลาดและเทรนด์ในอนาคตได้อย่างแท้จริง ในยุคที่ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายและมองหา นวัตกรรมยานยนต์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง มิตซูบิชิได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขามีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำในตลาดเหล่านี้

Xpander HEV และ Xpander Cross HEV คือการตอบรับต่อกระแส รถยนต์ไฮบริดอเนกประสงค์ ที่กำลังมาแรง ด้วยการผสานประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยีที่ทันสมัย และความปลอดภัยระดับพรีเมียม เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับ รถครอบครัวยุคใหม่ ที่มองหาความคุ้มค่าและความยั่งยืน

ในขณะเดียวกัน Triton Street ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่ารถกระบะไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้งานแบบเดิมๆ อีกต่อไป แต่สามารถเป็น รถกระบะไลฟ์สไตล์ ที่สะท้อนตัวตนของผู้ขับขี่ได้อย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ที่สปอร์ต สมรรถนะที่เชื่อถือได้ และความปลอดภัยที่เหนือชั้น ทำให้เป็นรถที่โดดเด่นและพร้อมสำหรับการเดินทางในทุกเส้นทาง

ในฐานะนักวิเคราะห์อุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าทั้งสามรุ่นนี้จะเข้ามาเติมเต็มและสร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน ด้วยความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยอย่างลึกซึ้ง มิตซูบิชิได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นโซลูชั่นที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานในทุกๆ ด้าน

สัมผัสประสบการณ์จริงได้แล้ววันนี้!

อย่ารอช้าที่จะเป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตจากมิตซูบิชิ! หากคุณกำลังมองหา รถยนต์ไฮบริด 7 ที่นั่ง ที่คุ้มค่า หรือ รถกระบะสายพันธุ์สปอร์ตที่ตอบโจทย์คนเมือง นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสยนตรกรรมทั้งสองโมเดลใหม่และรุ่นอื่นๆ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย!

เชิญสัมผัสและทดลองขับได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิทั่วประเทศ หรือเยี่ยมชมบูธมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (A17) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 (Thailand International Motor Expo 2025) ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี แล้วคุณจะพบว่าอนาคตของการขับขี่อยู่ตรงหน้าคุณแล้ว!

Previous Post

G0612013 กล บมาเจอแฟนเก าอ กคร งท ตามหามาโดยตลอด part2

Next Post

G0612001 มรดกช นจากแม part2

Next Post
G0612001 มรดกช นจากแม part2

G0612001 มรดกช นจากแม part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • G0912015 กค ณหน ไม ยอมแต งงาน เลยต องกลายเป นคนงาน part2
  • G0912004 อจนๆ กท กคนก งเก ยจ part2
  • G0912007 แม าผ หวานใจเศรษฐ part2
  • G0912014 เม อประธานสาวต องย ายไปอย บคนท วเองตบหน part2
  • G0912013 กชายเจ าของปลอมต วมาด พน กงาน แต กล บถ กผ ดการด part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.