Porsche เปิดตัว Taycan Turbo S ‘Celestial Jade’ คันพิเศษหนึ่งเดียวในโลก!
ปอร์เช่ เอเชียแปซิฟิกเปิดบ้านต้อนรับไทคานน์ใหม่! จัดขึ้น ณ Pasir Panjang Power Station สถานีไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์ โดยที่ในรุ่นใหม่นี้มีสมรรถนะและระยะทางการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น อัตราเร่งความเร็วและชาร์จไฟได้เร็วขึ้น พร้อมด้วยดีไซน์ที่เฉียบคม

นอกจากนี้ยังได้มีการปรากฏตัวครั้งแรกของ Taycan Turbo S Celestial Jade รถยนต์พิเศษที่ออกแบบโดย Sonderwunsch ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ปอร์เช่ เอ็กคลูซีฟ เมนูแฟคทัวร์ (Porsche Exclusive Manufaktur) และ ปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิค (Porsche Asia Pacific) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดในการปรับแต่งรถยนต์ Taycan และเพื่อเป็นเกียรติแก่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

The New Porsche Taycan 2024
ปอร์เช่ ไทคานน์ใหม่ เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงอัปเกรดหลากหลายส่วน แต่ยังคงมีการสืบทอดตำนานจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งเป็นรถสปอร์ตซีดานพลังงานไฟฟ้าคันแรกของปอร์เช่ มีการพัฒนาประสิทธิภาพ ความหรูหรา และความสะดวกสบายที่เหนือกว่า

ซึ่งได้มีการเปิดตัว Taycan รุ่นใหม่ถึง 7 รุ่น ด้วยกัน รวมถึงรุ่น Cross Turismo และ World Premiere ครั้งที่ 2 ของ Taycan Turbo S Celestial Jade รถยนต์รุ่นพิเศษคันเดียวในโลก ถือเป็นการปิดฉากปีแห่งความสำเร็จได้อย่างสวยงาม

สำหรับไทคานน์ในรุ่นใหม่นี้ มีให้เลือกถึง 2 ประเภทตัวถังได้แก่ Taycan ทรงสปอร์ตซีดาน และ Taycan Cross Turismo ที่ได้รับการปรับปรุงการออกแบบใหม่ ด้วยการอัพเกรดส่วนหน้าและส่วนท้าย รวมถึงติดตั้งไฟหน้าและไฟท้ายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี HD Matrix ความละเอียดสูง และไฟแสดงกราฟิกเอกลักษณ์ของแบรนด์ในเวลากลางคืน 4 ตำแหน่ง ติดตั้งโลโก้ Porsche บนแถบไฟท้ายมีดีไซน์แบบ 3 มิติเหมือนกระจก นอกจากนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มาพร้อมกับลูกเล่นแพรวพราวด้วยไฟส่องสว่างแบบแอนิเมชั่น สำหรับทั้งการ Welcome และ Goodbye ให้มาเป็นออฟชั่นเสริมอีกด้วย
ทางด้านประสิทธิภาพการขับขี่ ได้รับการติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่บริเวณเพลาหลัง สร้างพละกำลังได้มากกว่ารุ่นก่อนถึง 80 กิโลวัตต์ แต่มีน้ำหนักเบากว่าถึง 10.4 กิโลกรัม ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น หมายความว่าไทคานน์ในรุ่นใหม่นี้ สามารถทำความเร็วได้มากกว่าเดิม ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 4.8 วินาที เร็วกว่ารุ่นก่อน 0.6 วินาที และสำหรับในรุ่นไทคานน์ เทอร์โบ เอส นั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ 2.4 วินาที ซึ่งเร็วกว่าเวอร์ชันก่อนหน้าถึง 0.4 วินาทีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ไทคานน์ในบางรุ่นจะมาพร้อมกับฟังก์ชัน “Push-to-Pass” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจ Sport Chrono โดยฟังก์ชันนี้จะเพิ่มกำลังไฟฟ้าชั่วคราวสูงสุดถึง 70 กิโลวัตต์ ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถยนต์ โดยสามารถกดปุ่มเพื่อใช้งานฟังก์ชัน “Push-to-Pass” ได้นาน 10 วินาที ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสนุกในการขับขี่ และยังช่วงเร่งแซงได้อย่างยอดเยี่ยม
ในส่วนของอุปกรณ์ตกแต่งภายในมาตรฐานยังมีความหลากหลายมากกว่าที่เคยในทุกรุ่นของไทคานน์ เช่น Porsche Intelligent Range Manager (PIRM) เบาะนั่งปรับได้ 14 ทิศทาง สวิตช์โหมดการขับขี่และพวงมาลับพาวเวอร์สเตียริ่งพลัส (Power Steering Plus) ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร ParkAssist รวมถึง ระบบช่วยเหลือการจอดรถแบบแอคทีฟ Surround View with Active Parking Support ระบบควบคุมอุณหภูมิ 4 โซน ระบบเสียง BOSE และล้อขนาด 20 นิ้ว ซึ่งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้งหมด


