GWM POER SAHAR HEV 2025: ปฏิวัติวงการกระบะไทย ด้วยขุมพลังไฮบริดสุดล้ำ สมรรถนะเหนือระดับ พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะแห่งอนาคต
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถกระบะในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2025 นี้ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่พลิกโฉมหน้าตลาดรถกระบะอย่างที่เราเคยรู้จัก เมื่อ GWM POER SAHAR HEV 2025 ก้าวเข้ามาสู่สมรภูมิ ด้วยสถานะ “รถกระบะพลังงานไฮบริดคันแรกในประเทศไทย” นี่ไม่ใช่แค่การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ แต่คือการประกาศศักราชใหม่ของนวัตกรรมยานยนต์ที่ผสานขุมพลังอันทรงประสิทธิภาพเข้ากับความประหยัดเชื้อเพลิงอย่างชาญฉลาด ความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ทุกเส้นทาง ในยุคที่ผู้บริโภคมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม GWM POER SAHAR HEV 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่ารถกระบะก็สามารถเป็นได้มากกว่ายานพาหนะเพื่อการบรรทุก แต่คือสัญลักษณ์ของความล้ำหน้าและอิสระในการเดินทางอย่างไร้ขีดจำกัด นี่คือรถกระบะที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทั้งการเดินทางในเมือง การผจญภัยออฟโรด และการเป็นยานพาหนะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการทั้งสมรรถนะและความยั่งยืน
GWM POER SAHAR HEV 2025: ขุมพลังไฮบริดแห่งอนาคตที่ไม่เคยมีมาก่อน
หัวใจสำคัญที่ทำให้ GWM POER SAHAR HEV 2025 แตกต่างจากรถกระบะทั่วไปในตลาด คือระบบส่งกำลังไฮบริดอันทรงพลัง ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว เครื่องยนต์เบนซินสามารถผลิตพละกำลังสูงสุดถึง 180 กิโลวัตต์ หรือ 244 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถกระบะในปัจจุบัน เมื่อผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์ หรือ 106 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร การทำงานร่วมกันของทั้งสองแหล่งพลังงานนี้ ทำให้ GWM POER SAHAR HEV 2025 สามารถส่งมอบการตอบสนองที่ฉับไว อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือ “ความประหยัดน้ำมัน” ที่เหนือกว่ารถกระบะดีเซลในพิกัดเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection และปริมาตรกระบอกสูบ 1,998 ซีซี ยังเป็นตัวรับประกันประสิทธิภาพและความทนทานในระยะยาวอีกด้วย นี่คือคำตอบสำหรับผู้ที่กำลังมองหา “รถกระบะประหยัดน้ำมัน” ที่ไม่ทิ้งสมรรถนะการขับขี่ไป
GWM POER SAHAR HEV 2025 มีให้เลือกถึง 2 รุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย:
รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO: มาพร้อม 3 โหมดการขับขี่มาตรฐาน ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดสปอร์ต (Sport) ที่เน้นอัตราเร่งและการตอบสนองของเครื่องยนต์ และโหมดประหยัด (Eco) สำหรับการเดินทางที่ต้องการประสิทธิภาพเชื้อเพลิงสูงสุด
รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD: รุ่นท็อปที่จัดเต็มด้วย 5 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต, โหมดประหยัด และเพิ่มศักยภาพสำหรับการลุยแบบสุดขีดด้วย โหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4L) และโหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4H) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถพิชิตทุกสภาพเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางลาดยางหรือเส้นทางออฟโรดสุดท้าทายได้อย่างมั่นใจ นี่คือ “รถกระบะออฟโรด” ที่ไม่ได้มีแค่กำลัง แต่ยังมีสมองกลที่ช่วยให้การควบคุมเป็นเรื่องง่ายดาย
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9HAT) ที่ทำงานราบรื่นและแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลัง และลดการสูญเสียพลังงาน นอกจากนี้ รุ่น ULTRA ยังโดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน AWD Dual Speed ที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมระบบล็อกเฟืองขับ (Electric Differential Lock) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับ “รถกระบะสมรรถนะสูง” ที่เน้นการยึดเกาะถนนและการตะลุยฝ่าอุปสรรคได้อย่างเหนือชั้น ส่วนรุ่น PRO ก็ไม่น้อยหน้า ด้วยระบบล็อกเฟืองขับเฉพาะด้านหลังที่ช่วยเสริมสมรรถนะการเกาะถนนได้ดีเยี่ยม
มิติใหม่แห่งดีไซน์และความสะดวกสบาย: ที่สุดของรถกระบะยุคใหม่
GWM POER SAHAR HEV 2025 ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องขุมพลัง แต่ยังฉีกกรอบการออกแบบรถกระบะแบบเดิมๆ ด้วยมิติอันน่าประทับใจ ความยาว 5,445 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,991 มิลลิเมตร, ความสูง 1,924 มิลลิเมตร และที่สำคัญที่สุดคือ ระยะฐานล้อที่ยาวถึง 3,350 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่ายาวที่สุดในตลาดรถกระบะในปัจจุบัน มิติที่กว้างขวางนี้ไม่เพียงแต่ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่โออ่าเป็นพิเศษ แต่ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง และความนุ่มนวลในการโดยสารไม่แพ้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล นี่คือ “รถกระบะพรีเมียม” ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของผู้โดยสารเป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มิลลิเมตร ที่เพียงพอสำหรับการลุยเส้นทางสมบุกสมบัน และความสามารถในการลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งนักผจญภัยที่ซ่อนอยู่ในรูปลักษณ์ที่หรูหรา ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 75 ลิตร ยังช่วยให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมันบ่อยครั้ง
สำหรับสีสันภายนอก GWM POER SAHAR HEV 2025 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Hamilton White, สีเทา Ayers Gray และสีดำ Sun Black ซึ่งล้วนแต่เป็นสีที่สะท้อนความแข็งแกร่งและสง่างาม ขณะที่สีภายในห้องโดยสารมีเพียงสีเดียวคือ Jade Black ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและร่วมสมัย
ระบบช่วงล่างและการควบคุม: มั่นใจในทุกเส้นทาง
เพื่อรองรับสมรรถนะและขนาดตัวรถ GWM POER SAHAR HEV 2025 มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ระบบกันสะเทือนหน้าแบบดับเบิลวิชโบน (Double Wishbones) ช่วยให้การควบคุมพวงมาลัยแม่นยำและการยึดเกาะถนนเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังแบบแหนบยังคงประสิทธิภาพในการรองรับน้ำหนักบรรทุกได้อย่างดีเยี่ยม โดยไม่ลดทอนความนุ่มนวลในการขับขี่
ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามความเร็ว (EPS) พร้อมโหมดช่วยผ่อนแรงพวงมาลัยถึง 3 โหมด (เบา, สบาย, สปอร์ต) ทำให้การควบคุมรถเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางบนไฮเวย์ที่ต้องการความมั่นคง การผสานรวมระบบเบรกหน้าและหลังแบบดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน ยังช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัย ตอบสนองได้ดีเยี่ยมในทุกสถานการณ์
อุปกรณ์ภายนอก: ความสมบูรณ์แบบที่มองเห็นได้
GWM POER SAHAR HEV 2025 มาพร้อมการออกแบบภายนอกที่ผสานความล้ำสมัยเข้ากับฟังก์ชันการใช้งานอย่างลงตัว:
ไฟหน้า LED อัจฉริยะ: ไม่เพียงให้ความสว่างสูงสุด แต่ยังมาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Follow Me Home เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายในยามค่ำคืน ร่วมกับไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (DRL) และไฟตัดหมอกหน้า-หลัง LED (เฉพาะรุ่น ULTRA)
ฝาท้ายอัจฉริยะ: สามารถเปิด-ปิดได้ถึง 2 รูปแบบ พร้อมระบบผ่อนแรง (เฉพาะรุ่น ULTRA) ทำให้การขนถ่ายสัมภาระเป็นเรื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว: ดีไซน์พรีเมียม ขนาด 265/60 R18 พร้อมยางอะไหล่ เสริมความแข็งแกร่งและสวยงามให้กับตัวรถ
ฟังก์ชันเสริมความสะดวกสบาย: กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในทุกรุ่นย่อย โดยรุ่น ULTRA ยังเพิ่มระบบจดจำตำแหน่งและปรับระดับอัตโนมัติขณะถอยหลัง ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติ ราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม และบันไดข้าง ซึ่งไม่เพียงช่วยในการขึ้น-ลงรถ แต่ยังปกป้องตัวถังจากเศษหินและโคลน
ห้องโดยสารระดับ First-Class: นิยามใหม่ของความหรูหราและความสะดวกสบาย
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ GWM POER SAHAR HEV 2025 คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เหนือระดับ ราวกับอยู่ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับหรู ด้วยการตกแต่งที่พิถีพิถันและวัสดุคุณภาพสูง:
ไฟตกแต่งห้องโดยสาร (Ambient Light): เฉพาะรุ่น ULTRA สร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ในทุกการเดินทางด้วยสีสันที่หลากหลายและจังหวะคลื่นน้ำ
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน: พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ รวมถึงระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ (Paddle Shift) ช่วยให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างง่ายดายและแม่นยำ
เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold: เพียงกดปุ่ม ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องออกแรง และระบบจะช่วยหน่วงเบรกอัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด
Electronic Shifter: ชุดเกียร์ไฟฟ้าดีไซน์หรูหราบริเวณคอนโซลกลาง
Smart Key และ Push Start System: สตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างง่ายดาย พร้อมเสริมความปลอดภัยและสะดวกสบาย
กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ: (เฉพาะรุ่น ULTRA) ปรับความสว่างจากไฟหน้ารถที่ขับตามหลังในเวลากลางคืนโดยอัตโนมัติ
ที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟแต่งหน้า: สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความแตกต่างด้านความสะดวกสบาย
เบาะนั่งระดับเฟิร์สคลาส: สัมผัสความผ่อนคลายในทุกการเดินทาง
GWM POER SAHAR HEV 2025 ยกระดับประสบการณ์การเดินทางด้วยเบาะนั่งที่ออกแบบมาเพื่อความสบายสูงสุด:
รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO: มาพร้อมเบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ และเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD: จัดเต็มด้วยเบาะหนังแท้คุณภาพสูง เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่ง และ Welcome Seat ควบคู่ไปกับระบบระบายอากาศสำหรับเบาะคู่หน้า เพื่อความเย็นสบายในสภาพอากาศร้อน เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และพิเศษสุดด้วย “ระบบนวดไฟฟ้า” สำหรับเบาะคู่หน้า ซึ่งช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกลได้อย่างดีเยี่ยม
เบาะนั่งแถวที่ 2: ทุกรุ่นมอบความสะดวกสบายไม่แพ้กัน ด้วยเบาะหลังปรับระดับ 2 ทิศทาง และพนักพิงเบาะที่พับได้แบบ 40:20:40 พร้อมที่พักแขนตอนกลางและที่วางแก้วน้ำ ช่วยให้ผู้โดยสารตอนหลังได้สัมผัสความผ่อนคลายอย่างเต็มที่
ระบบเชื่อมต่อและความบันเทิง: ไม่พลาดทุกการติดต่อและความเพลิดเพลิน
เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล GWM POER SAHAR HEV 2025 มาพร้อมเทคโนโลยีเชื่อมต่อและความบันเทิงที่ครบครัน:
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว: พร้อมแสดงระบบนำทาง ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วน
ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command): จดจำเสียงได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการสัมผัสปุ่มและเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่
ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charging): (เฉพาะรุ่น ULTRA) อำนวยความสะดวกในการชาร์จอุปกรณ์
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา: พร้อมระบบกรองอากาศ N95 มั่นใจได้ถึงอากาศที่บริสุทธิ์ภายในห้องโดยสาร
ลำโพงคุณภาพสูง: 6 ตำแหน่งสำหรับรุ่น PRO และระบบเสียง Infinity 10 ตำแหน่ง สำหรับรุ่น ULTRA มอบคุณภาพเสียงระดับสูงและรอบทิศทาง
หน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว: รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Bluetooth, MP5, Online Music และ Online Radio ให้คุณเพลิดเพลินทั้งการรับชมและการรับฟังได้อย่างเต็มรูปแบบ
ช่องต่อ USB และช่องจ่ายไฟ: ครบครันทั้งสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลัง รวมถึงช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V และ 220V (สำหรับรุ่น ULTRA) รองรับการใช้งานอุปกรณ์เสริมต่างๆ ตลอดการเดินทาง
GWM แอปพลิเคชันอัจฉริยะ: ควบคุมรถได้จากระยะไกล
GWM POER SAHAR HEV 2025 ยกระดับความสะดวกสบายและความอุ่นใจไปอีกขั้น ด้วยการเชื่อมต่อและควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชัน GWM บนสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็น “เทคโนโลยีรถกระบะอัจฉริยะ” ที่แท้จริง:
ระบบตรวจสอบสถานะรถ: ไม่ว่าจะเป็นสถานะประตู หน้าต่าง ระบบปรับอากาศ ระยะทางทั้งหมด ระยะทางวิ่งคงเหลือ ปริมาณน้ำมัน สถานะอุณหภูมิ และแรงดันลมยาง
ระบบช่วยเตือน: เมื่อสถานะประตูและหน้าต่างผิดปกติ, แบตเตอรี่ 12V ต่ำ, หรือปริมาณน้ำมันต่ำ
ระบบค้นหาตำแหน่งรถยนต์: ค้นหารถของคุณได้อย่างง่ายดาย
ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ (Geo-fencing): กำหนดขอบเขตการใช้งานรถ และรับการแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนที่ออกนอกพื้นที่
ระบบควบคุมรถจากระยะไกล: ล็อกและปลดล็อกประตู, ปิดกระจก, เปิด-ปิดระบบปรับอากาศ และสำหรับรุ่น ULTRA ยังสามารถตรวจสอบและเปิด-ปิดระบบระบายอากาศเบาะนั่งได้อีกด้วย
FOTA (Firmware Over-The-Air): รองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์แบบไร้สาย เพื่อให้ระบบควบคุมต่างๆ ภายในรถยนต์ทำงานได้อย่างแม่นยำและง่ายดายอยู่เสมอ
ความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะ: มั่นใจทุกการเดินทางด้วย “ความปลอดภัยรถกระบะ” ระดับสูงสุด
GWM POER SAHAR HEV 2025 ไม่เพียงมอบความสะดวกสบายและสมรรถนะ แต่ยังให้ “ความปลอดภัยรถกระบะ” ในระดับสูงสุด ด้วยระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ติดตั้งมาให้มากกว่า 29 รายการ เพื่อปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกเส้นทาง:
ถุงลมนิรภัย: ครบครันทั้งคู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลม
ระบบติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center และเบอร์ฉุกเฉิน: พร้อมให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา: ช่วยให้การจอดและขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่าย
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC): รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA): ช่วยขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินบนทางตรงและทางแยก (AEBI): ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW) และด้านหลัง (RCW): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เพื่อหลีกเลี่ยงการชน
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) และระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK): ช่วยให้รถอยู่ในช่องทางจราจรที่ปลอดภัย
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK): ช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนอย่างกะทันหัน
ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) และระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB): ป้องกันการชนขณะถอยหลัง
ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM): ลดความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่อง
ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) และลงทางลาดชัน (HDC): ควบคุมรถได้ง่ายบนเส้นทางลาดชัน
ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS): ตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อความปลอดภัย
ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW): ป้องกันการเปิดประตูโดยไม่ระมัดระวัง
เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและหลัง: ช่วยในการจอดรถ
ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจร และการแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด: ช่วยให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจร
ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ ขณะเบรกกะทันหัน (ESS): เตือนรถคันหลัง
จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX และระบบล็อกป้องกันเด็ก: เพิ่มความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารตัวน้อย
สำหรับรุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ยังมี 3 ระบบอัจฉริยะพิเศษเพิ่มเติม ได้แก่:
ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP): ช่วยให้การจอดรถเป็นเรื่องง่ายดาย
ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA): นำรถเข้าช่องจอดได้อย่างแม่นยำ
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่ำ (MEB): ป้องกันการชนในสถานการณ์ฉุกเฉินขณะขับขี่ในความเร็วต่ำ
บทสรุป: ก้าวแรกสู่รถกระบะแห่งอนาคต
GWM POER SAHAR HEV 2025 ไม่ใช่แค่รถกระบะ แต่คือตัวแทนของ “นวัตกรรมยานยนต์” ที่ผสานความแข็งแกร่ง, ความหรูหรา, ความประหยัด และ “เทคโนโลยีอัจฉริยะ” เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการรถกระบะที่ตอบโจทย์ได้มากกว่าการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยสุดขีด, การเดินทางในชีวิตประจำวัน, หรือการเป็นรถสำหรับครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ผมเชื่อว่า GWM POER SAHAR HEV 2025 จะเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทำให้ตลาดรถกระบะไทยต้องหันมามองและปรับตัวตาม นี่คือรถกระบะที่ฉีกทุกกรอบที่เราเคยรู้จัก และพร้อมที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าในทุกมิติ
อย่ารอช้าที่จะเป็นเจ้าของประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตนี้! สัมผัสความล้ำหน้าของ GWM POER SAHAR HEV 2025 ได้ด้วยตัวคุณเอง และค้นพบว่าทำไมรถกระบะไฮบริดคันแรกในประเทศไทยคันนี้ ถึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายทดลองขับได้ที่ผู้จำหน่าย GWM ทั่วประเทศวันนี้ เพื่อเปิดประตูสู่การเดินทางครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยพลัง ความประหยัด และความมั่นใจในทุกเส้นทาง.

