DENZA D9: ยกระดับ MPV ไฟฟ้าหรู สู่ที่สุดแห่งประสบการณ์ 7 ที่นั่งแห่งปี 2025
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานับทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของตลาดนี้อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ MPV หรู ที่วันนี้ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะสำหรับการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือน “พื้นที่ส่วนตัวเคลื่อนที่” ที่ผสานความล้ำสมัย ความสะดวกสบาย และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 ชื่อของ DENZA D9 (เดนซ่า D9) ก็ยังคงยืนหนึ่งในฐานะ MPV ไฟฟ้าสุดหรู 7 ที่นั่ง ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า และความมุ่งมั่นในการรังสรรค์ยานยนต์ที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ได้อย่างไร้ที่ติ
DENZA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร BYD แบรนด์ที่พิสูจน์แล้วในเวทีโลก ได้ก้าวเข้ามาเขย่าตลาด MPV พรีเมียมในประเทศไทยอย่างเต็มภาคภูมิ DENZA D9 ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าธรรมดา แต่คือวิสัยทัศน์ที่กลายมาเป็นจริง เป็นผลลัพธ์ของการหลอมรวมนวัตกรรมอันชาญฉลาดเข้ากับความประณีตระดับงานศิลป์ เพื่อมอบนิยามใหม่ของ “ความหรูหราที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า” สำหรับครอบครัวยุคใหม่และผู้บริหารที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดในทุกมิติ
DENZA D9: บทสรุปแห่งราคาและสเปค ที่เป็นมาตรฐานในตลาดปี 2025
ย้อนกลับไปเมื่อการเปิดตัวครั้งแรก DENZA D9 ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ และในวันนี้ ปี 2025 DENZA D9 ได้ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในตลาด MPV ไฟฟ้าหรู ด้วยราคาที่สะท้อนถึงมูลค่าและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า พร้อมทางเลือก 2 รุ่นย่อยที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว ได้แก่ รุ่น Performance AWD และ Premium ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการยอมรับและครองใจผู้ใช้งานมาอย่างต่อเนื่อง
DENZA D9 Performance AWD พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของในราคา 2,699,900 บาท
DENZA D9 Premium ทางเลือกที่เข้าถึงง่ายขึ้นแต่ยังคงความหรูหราในราคา 1,999,900 บาท
จากประสบการณ์ของผม ราคาเหล่านี้ไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่คือการลงทุนในอนาคตแห่งการเดินทาง ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ปลอดภัยและทนทาน ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 8-in-1 อันทรงประสิทธิภาพ และแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วทั่วโลก DENZA D9 จึงไม่ใช่แค่รถ แต่คือคำสัญญาแห่งความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่เหนือระดับในระยะยาว
DENZA ได้รับการพัฒนาและขับเคลื่อนภายใต้ BYD 100% มาตั้งแต่ปี 2023 โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการสร้างสรรค์ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและความหรูหราเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น DENZA N7 ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยสไตล์, DENZA N8 รถสปอร์ตอเนกประสงค์, DENZA Z9 GT แฮทช์แบ็กทรงสปอร์ตระดับพรีเมียม หรือหัวใจหลักของเราวันนี้อย่าง DENZA D9 MPV ไฟฟ้าที่ได้รับการการันตีด้วยยอดขายอันดับหนึ่งในตลาด MPV ของประเทศจีนในปี 2023 ด้วยยอดจองและยอดขายสะสมกว่า 250,000 คัน นี่คือข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงคุณภาพและศักยภาพของ D9 ที่ครองใจผู้ใช้มาแล้วทั่วโลก
DENZA D9: MPV ไฟฟ้าหรู ที่สะกดทุกสายตาด้วยการออกแบบและมิติที่ลงตัว
ในตลาด MPV หรูของปี 2025 การออกแบบคือสิ่งแรกที่สร้างความประทับใจ และ DENZA D9 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยปรัชญาการออกแบบ “DENZA π-Motion” ที่ถ่ายทอดความสง่างามและความล้ำสมัยได้อย่างไร้ที่ติ ไฟหน้า Meteor Arrow ที่เฉียบคม ผสานกับไฟท้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ฝนดาวตกแห่งกาลเวลา สร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นยามกลางวันหรือยามค่ำคืน
มิติตัวถังของ DENZA D9 คือองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนถึงความหรูหราและความกว้างขวาง ด้วยความยาว 5,250 มม., กว้าง 1,960 มม., และสูง 1,920 มม. พร้อมระยะฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษถึง 3,110 มม. ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงข้อมูลทางเทคนิค แต่คือการรับประกันพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่โอ่โถง โปร่งสบาย มอบความรู้สึกอิสระและเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสารทุกคน
ความยาว: 5,250 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,960 มิลลิเมตร
ความสูง: 1,920 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ: 3,110 มิลลิเมตร
ระยะห่างของล้อ คู่หน้า/คู่หลัง: 1,675/1,675 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด: 5.95 เมตร (คล่องตัวเกินคาดสำหรับ MPV ขนาดนี้)
ความสูงใต้ท้องรถ (ไม่รวม/รวมน้ำหนักบรรทุกสูงสุด): 155 มม. / 140 มม.
ความจุสัมภาระด้านท้าย: 410 ลิตร (เพียงพอสำหรับการเดินทางทั่วไป)
ความจุสัมภาระด้านท้ายสูงสุด: 2,310 ลิตร (เมื่อพับเบาะ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน)
ประตูไฟฟ้าคู่สำหรับผู้โดยสารด้านหลังคือหนึ่งในฟังก์ชันที่เสริมความสะดวกสบายและยกระดับความหรูหราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น การเข้า-ออกรถทำได้อย่างง่ายดายและสง่างาม ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกใช้ยางเก็บเสียงคุณภาพสูงและการออกแบบที่พิถีพิถัน ยังส่งผลให้ห้องโดยสารมีความเงียบสงบเป็นพิเศษ มอบความเป็นส่วนตัวอันแท้จริงในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะในเมืองที่จอแจหรือบนเส้นทางต่างจังหวัด
ระบบไฟส่องสว่างรอบคันของ DENZA D9 ก็ได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาดและทันสมัย:
ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED
ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม
ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHBC) เพื่อความปลอดภัยสูงสุดยามค่ำคืน
ฟังก์ชันหน่วงเวลาการปิดไฟหน้า Follow-Me-Home อำนวยความสะดวกเมื่อจอดรถ
ระบบไฟส่องมุมอับสายตา LED เมื่อเปิดไฟเลี้ยวหรือหมุนพวงมาลัยที่ความเร็วต่ำ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย
แสงไฟตกแต่งช่องชาร์จไฟแบบมัลติคัลเลอร์ เพิ่มลูกเล่นและความทันสมัย
สมรรถนะและการขับเคลื่อน: ผสานพลังงานไฟฟ้ากับความเหนือชั้นของ DiSus-C
หัวใจสำคัญที่ทำให้ DENZA D9 เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดรถ MPV ไฟฟ้าปี 2025 คือขุมพลังและแพลตฟอร์มการขับเคลื่อนที่ล้ำสมัย BYD Blade Battery ขนาด 103.36 kWh คือหัวใจหลักที่ให้พลังงานอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC สำหรับรุ่น Performance AWD และ 600 กิโลเมตรสำหรับรุ่น Premium มอบความมั่นใจในการเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ
รุ่น Premium: ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 230 กิโลวัตต์ (ประมาณ 313 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 9.5 วินาที
รุ่น Performance AWD: ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา (All-Wheel Drive) กำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์ (ประมาณ 374 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที ตัวเลขนี้ถือว่าน่าประทับใจอย่างยิ่งสำหรับ MPV ขนาดใหญ่ สะท้อนถึงการตอบสนองที่ฉับไวและคล่องตัวในทุกสถานการณ์
จุดเด่นที่แท้จริงซึ่งผมต้องเน้นย้ำคือ “e-Platform 3.0” ของ BYD ที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ 8-in-1 ที่รวมมอเตอร์, อินเวอร์เตอร์, เกียร์, ตัวควบคุมแบตเตอรี่, และอุปกรณ์อื่นๆ เข้าไว้ในชุดเดียว ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดการพลังงาน ประหยัดพื้นที่ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ
แต่สิ่งที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของ DENZA D9 Performance AWD ให้เหนือชั้นไปอีกขั้นคือ ระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C เทคโนโลยีช่วงล่างแบบไฟฟ้าเอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD ที่ได้ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก DiSus-C ไม่ได้เป็นเพียงระบบกันสะเทือนทั่วไป แต่คือวิศวกรรมขั้นสูงที่เข้ามาปฏิวัติความสบายในการเดินทาง โดยสามารถปรับแต่งความกระด้างและความนุ่มนวลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ตามสภาพถนนและความต้องการของผู้ขับขี่
DiSus-C ทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวของตัวรถทั้งคันอย่างละเอียดอ่อน เพื่อควบคุมโซลินอยด์วาล์วในโช้คอัพด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดการยุบตัวของตัวรถ การพลิกคว่ำ การเกิดแรงกระชากเมื่อเบรกหรือเหยียบคันเร่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ที่ได้คือการทรงตัวที่มั่นคง การควบคุมรถที่แม่นยำ และที่สำคัญที่สุดคือ “ความสบาย” ในการโดยสารที่เหนือระดับ ไม่ว่าจะเจอถนนขรุขระ ทางโค้ง หรือแม้แต่การเปลี่ยนเลนกะทันหัน ผู้โดยสารจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลและราบรื่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังแบบมัลติลิงก์ ยังช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก พร้อมดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายอากาศทั้งหน้าและหลัง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
ด้านการชาร์จพลังงาน DENZA D9 รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 กิโลวัตต์ (3 เฟส) ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือสถานีชาร์จสาธารณะทั่วไป และที่สำคัญ รองรับการชาร์จกระแสตรง DC แบบ CCS2 สูงสุดถึง 166 กิโลวัตต์ ทำให้การชาร์จจาก 30% ไป 80% ใช้เวลาเพียงไม่นาน ผู้ใช้งานสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างไร้กังวล
ที่สุดแห่งความสะดวกสบายในห้องโดยสาร: Sanctuary ส่วนตัวบนท้องถนน
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ DENZA D9 แล้วคุณจะเข้าใจทันทีว่า “ความหรูหรา” และ “ความสะดวกสบาย” ไม่ใช่เพียงแค่คำนิยาม แต่คือประสบการณ์ที่สัมผัสได้จริง ห้องโดยสารออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ละที่นั่งได้รับการปรนนิบัติราวกับที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน
Panoramic Glass Roof ขนาด 1.1 ตารางเมตร: ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง กว้างขวางเป็นพิเศษ พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้าที่ช่วยควบคุมแสงและความเป็นส่วนตัว
เบาะนั่งหุ้มหนังแท้ Nappa: สัมผัสที่นุ่มนวล หรูหรา และระบายอากาศได้ดี
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง และหมอนรองศีรษะที่ปรับตามสรีระได้ มอบการรองรับที่สมบูรณ์แบบ
ระบบนวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศสำหรับเบาะแถวที่สอง ยกระดับความผ่อนคลายในทุกการเดินทาง
ระบบจดจำตำแหน่งที่นั่งสำหรับเบาะคนขับและผู้โดยสารแถวที่สอง พร้อมฟังก์ชัน Welcome Seat และปุ่ม Reset เพื่อความสะดวกในการเข้า-ออก
ระบบมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง:
หน้าจอมัลติมีเดียส่วนกลางขนาด 15.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay® และ Android Auto™ แบบไร้สาย เชื่อมต่อทุกโลกออนไลน์ได้ง่ายดาย
ระบบเครื่องเสียง Dynaudio Hi-Fi Class ลำโพง 14 ตำแหน่ง มอบคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ
ที่พักแขนเบาะนั่งโดยสารแถวที่สองพร้อมหน้าจอ LCD มัลติฟังก์ชัน ให้ผู้โดยสารควบคุมความบันเทิงและฟังก์ชันต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง
ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือไร้สาย 3 ตำแหน่ง (ห้องโดยสารตอนหน้า 1 ตำแหน่ง, แถวสอง 2 ตำแหน่ง) กำลังสูงสุด 50W มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ของคุณจะไม่ขาดพลังงาน
ระบบตู้เย็นภายในรถยนต์ความจุ 7.5 ลิตร ที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -6 ถึง 50 องศาเซลเซียส พร้อมที่วางแก้ว 12 ตำแหน่งรอบคัน
สัญญาณอินเทอร์เน็ต 4G ในตัว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ
การออกแบบภายในเพิ่มเติม:
เพดานห้องโดยสารบุด้วยหนังกลับแบบพรีเมียมในรุ่น Performance AWD หรือผ้าคุณภาพสูงในรุ่น Premium
ประตูผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้าแบบผ่อนแรงปิด (Soft Close Door)
ระบบแสงไฟสร้างบรรยากาศแบบมัลติคัลเลอร์ ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายโหมด
หน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว แบบ 3 มิติ แสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างคมชัด
สำหรับรุ่น Performance AWD เสริมด้วยระบบแสดงผลบนกระจกหน้า (W-HUD) ขนาด 12 นิ้ว เพื่อข้อมูลสำคัญตรงหน้า เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบาย
กระจกกันเสียง 2 ชั้นรอบคัน ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสาร
ระบบปรับอากาศอัจฉริยะ: แบบอิสระ 3 โซน (ผู้ขับขี่, ผู้โดยสารตอนหน้า, ห้องโดยสารตอนหลัง) พร้อมระบบกรองอากาศ IONIZER และระบบกรองฝุ่น PM2.5 ประสิทธิภาพสูง (CN95) เพื่ออากาศบริสุทธิ์ภายในห้องโดยสาร
ระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัย: อุ่นใจในทุกเส้นทาง
DENZA D9 ไม่เพียงแต่มอบความสะดวกสบายและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม แต่ยังให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยในทุกการเดินทาง ด้วยชุดระบบช่วยเหลือการขับขี่และความปลอดภัยที่ครบครันตามมาตรฐานสูงสุดของปี 2025:
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) และระบบป้องกันการลื่นไถล (TCS)
ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และช่วยเบรก (RCTB)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านจุดอับสายตาด้านหน้า (FCTA) และช่วยเบรก (FCTB)
ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
ระบบช่วยกระจายแรงเบรกอัจฉริยะ (HBA)
ระบบช่วยควบคุมและป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
ถุงลมนิรภัยรอบคัน: คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ด้านข้างสำหรับผู้โดยสารแถวที่สอง, และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้างครอบคลุมทั้ง 3 แถว
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) และแบบแปรผันอัจฉริยะ (ICC)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) และช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
ระบบช่วยแจ้งเตือนอันตรายจากพฤติกรรมผู้ขับขี่ (DMS)
ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC) และช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
เซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุรอบคัน 8 จุด และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD) และช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW) และด้านหลัง (RCW)
ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง มอบความอุ่นใจและความปลอดภัยสูงสุดให้กับทุกคนในรถ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือการผจญภัยในวันหยุด DENZA D9 คือเพื่อนร่วมทางที่คุณวางใจได้
อุปกรณ์และฟังก์ชันอัจฉริยะ: เชื่อมต่อชีวิตในยุคดิจิทัล
DENZA D9 ไม่เพียงแต่ล้ำสมัยในด้านการขับขี่และภายในห้องโดยสารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์และฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน:
กระจกเปิดปิดอัตโนมัติแบบสัมผัสสวิตช์ครั้งเดียวพร้อมระบบป้องกันการหนีบ
กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติและปรับองศาไฟฟ้า พร้อมระบบทำความร้อนไล่ฝ้า และระบบจดจำองศากระจกมองหลัง
ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบตั้งค่าการจดจำตำแหน่ง
ระบบตอบสนองคำสั่งเสียงอิสระ 4 โซน ที่ให้คุณควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้ด้วยเสียง
ระบบ Keyless Entry และ Keyless Start พร้อมระบบควบคุมการสตาร์ทรถยนต์และเปิดแอร์ล่วงหน้าระยะไกล
รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4G ตลอดเวลา
รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต (OTA) ทำให้รถของคุณทันสมัยอยู่เสมอ
DENZA กุญแจดิจิทัล NFC ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้เป็นกุญแจอัจฉริยะได้อย่างง่ายดาย รวมถึงระบบกุญแจแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ NFC เพื่อความสะดวกสูงสุด
บริการหลังการขายระดับพรีเมียม พร้อมเครือข่ายที่เข้าถึงง่าย
ประสบการณ์การเป็นเจ้าของ DENZA D9 ไม่ได้จบลงที่การซื้อรถ แต่ยังต่อเนื่องด้วยบริการหลังการขายระดับพรีเมียม ทีมงานฝ่ายขายและช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลรักษารถของคุณอย่างดีที่สุด เพื่อให้ทุกการใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น
ในปี 2025 DENZA ได้ขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการครอบคลุมทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ทั่วประเทศไทย รวม 10 แห่ง เพื่อความสะดวกสบายในการเข้าถึงสำหรับลูกค้าในหลากหลายพื้นที่:
กรุงเทพมหานคร: สาธุประดิษฐ์, เพชรบุรีตัดใหม่, ศรีนครินทร์
ต่างจังหวัด: ระยอง, ชลบุรี, เชียงใหม่, ขอนแก่น, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, และภูเก็ต
คุณสามารถเยี่ยมชมและสั่งจอง DENZA D9 ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการ DENZA ทุกสาขา
บทสรุป: DENZA D9 นิยามใหม่แห่ง MPV ไฟฟ้าหรูในยุค 2025
DENZA D9 คือมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า MPV 7 ที่นั่ง แต่คือสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้า วิสัยทัศน์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันและอนาคต ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่หรูหรา เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สมรรถนะที่เร้าใจ ความปลอดภัยสูงสุด และความสะดวกสบายที่เหนือระดับ DENZA D9 ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ MPV พรีเมียม และยังคงเป็นผู้นำที่ไม่อาจมองข้ามได้ในปี 2025
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ MPV ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัว ผู้บริหาร หรือใครก็ตามที่ต้องการประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ความหรูหรา ความปลอดภัย หรือความยั่งยืน DENZA D9 คือคำตอบที่คุณกำลังตามหา
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์แห่งอนาคตของการเดินทางที่ DENZA D9 มอบให้ เยี่ยมชมโชว์รูมและทดลองขับได้แล้ววันนี้ เพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่ง MPV ไฟฟ้าหรูระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง!

