• Sample Page
filmthai.vansonnguyen.com
No Result
View All Result
No Result
View All Result
filmthai.vansonnguyen.com
No Result
View All Result

G0312022 เร องน ไม เก ยวก บบ ญค part2

admin79 by admin79
December 3, 2025
in Uncategorized
0
G0312022 เร องน ไม เก ยวก บบ ญค part2

อีซูซุ 2025: ปฏิวัติขุมพลังดีเซลแห่งอนาคต ด้วย MAXFORCE ใหม่ ทั้ง D-MAX และ MU-X

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนมามากมาย แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่กล้าหาญและก้าวกระโดดอย่างที่อีซูซุได้เผยโฉมในไลน์อัพปี 2025 นี้ อีซูซุไม่ได้เพียงแค่ “ปรับปรุง” แต่พวกเขากำลัง “ปฏิวัติ” นิยามของสมรรถนะ ความประหยัด และความยั่งยืนในเครื่องยนต์ดีเซล ด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ตระกูล MAXFORCE เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเป็นครั้งแรก นี่คือการประกาศศักดาของอีซูซุที่พร้อมกำหนดทิศทางอนาคตของรถกระบะและรถยนต์อเนกประสงค์ (PPV) ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างแท้จริง

ตลาดรถยนต์ปี 2025 มีความท้าทายที่หลากหลาย ทั้งเรื่องของมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น ราคาพลังงานที่ผันผวน และความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมควบคู่ไปกับความประหยัดเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีล้ำสมัย อีซูซุได้ตอบรับทุกโจทย์เหล่านี้ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่เหนือกว่าคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการที่ต้องการรถกระบะสำหรับงานบรรทุกหนัก ครอบครัวที่มองหารถ PPV ที่สะดวกสบายและปลอดภัย หรือนักผจญภัยที่ต้องการรถ 4×4 ที่พร้อมลุยทุกเส้นทาง อีซูซุ 2025 มีคำตอบให้คุณอย่างครบวงจร นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขแรงม้าหรือแรงบิดเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุด และเตรียมพร้อมสำหรับโลกอนาคตที่กำลังเปลี่ยนไป

หัวใจแห่งอนาคต: เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE “The FORCE of FUTURE”

การเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่อีซูซุได้สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของยุคสมัยอย่างแท้จริง ด้วยแนวคิด “The FORCE of FUTURE” สะท้อนถึงขุมพลังที่ไม่ได้มีแค่ความเร็วหรือความแรง แต่ยังแฝงไว้ด้วยความชาญฉลาดและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นี่คือเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ที่ได้รับการพัฒนาใหม่หมดจด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดมหาศาล 400 นิวตัน-เมตร ที่ช่วงรอบกว้าง 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด จนกว่าคุณจะได้สัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

สิ่งที่เป็นไฮไลต์และเป็นหัวใจของสมรรถนะอันก้าวกระโดดนี้คือการเพิ่มแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้นถึง 56% ซึ่งหมายถึงการออกตัวที่กระฉับกระเฉง แม้บรรทุกหนัก หรือการขับขี่ในเมืองที่มีการเร่งและหยุดบ่อยครั้ง ก็จะสัมผัสได้ถึงความคล่องตัวที่เหนือกว่า นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันถึงความประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่าเดิม สูงสุดถึง 10.7% ในรุ่น Hi-Lander 2 ประตู เกรด L ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค ยิ่งไปกว่านั้น ค่าการปล่อย CO2 ยังต่ำที่สุดในรถระดับเดียวกัน ซึ่งเป็นผลมาจากความมุ่งมั่นของอีซูซุในการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

เบื้องหลังตัวเลขและประสิทธิภาพอันโดดเด่นนี้ คือชุดเทคโนโลยีขั้นสูงที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว:

หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. ใหม่: หัวฉีดแรงดันสูงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มตัวเลข แต่เป็นการยกระดับการเผาไหม้ให้สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยแรงดันที่สูงกว่า ทำให้สามารถฉีดละอองน้ำมันได้ละเอียดเป็นพิเศษ ผสมกับอากาศได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงสุด ลดมลภาวะ และเพิ่มพลังงานให้เครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่
ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูง ใหม่: หน่วยควบคุมเครื่องยนต์ (Engine Control Module) คือสมองของเครื่องยนต์ และในเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE นี้ ได้รับการติดตั้ง ECM แบบ Multi-Core ที่มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ส่งผลให้การทำงานของเครื่องยนต์เป็นไปอย่างราบรื่น ตอบสนองได้ฉับไว และคงไว้ซึ่งความประหยัดสูงสุดในทุกสภาวะการขับขี่
E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ใหม่: เทอร์โบแปรผันรุ่นใหม่นี้ถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้สามารถปรับการทำงานได้อย่างละเอียดและรวดเร็วกว่าเดิมมาก ส่งผลให้ลดอาการ “เทอร์โบแล็ก” หรือการรอรอบของเครื่องยนต์ได้อย่างเห็นได้ชัด พลังจะมาทันทีที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว หรือการเร่งแซง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นใจและสนุกยิ่งขึ้น
ห้องเผาไหม้แบบ HIGH SWIRL พร้อมลูกสูบ ULTRA-LOW FRICTION ใหม่: การออกแบบห้องเผาไหม้แบบ “HIGH SWIRL” ช่วยเพิ่มการหมุนวนของอากาศในห้องเผาไหม้ ทำให้การผสมของเชื้อเพลิงและอากาศเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ ส่งผลให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงสุด เสริมด้วยลูกสูบแบบ “ULTRA-LOW FRICTION” ที่ลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเชิงกล ลดการสึกหรอ และส่งผลต่อความประหยัดน้ำมันโดยตรง
เสื้อสูบ EXTREME STRENGTH พร้อมระบบหล่อลื่น HI-FLOW และชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยว TIMING GEAR & CHAIN ใหม่: ความแข็งแกร่งและทนทานคือเอกลักษณ์ของอีซูซุ และเครื่องยนต์ใหม่นี้ก็ไม่ทิ้งหลักการดังกล่าว เสื้อสูบ “EXTREME STRENGTH” ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแรงเค้นที่เพิ่มขึ้น พร้อมระบบหล่อลื่น “HI-FLOW” ที่จ่ายน้ำมันหล่อลื่นได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ช่วยรักษาอุณหภูมิและยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ชุดขับเคลื่อนเพลาลูกเบี้ยวด้วยเฟืองและโซ่เหล็กกล้า (TIMING GEAR & CHAIN) ยังให้ความมั่นใจในเรื่องความทนทานและความเที่ยงตรงตลอดอายุการใช้งาน

เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE นี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องยนต์ใหม่ แต่เป็นการรวบรวมสุดยอดเทคโนโลยีดีเซลที่อีซูซุสั่งสมมาตลอดหลายทศวรรษ เพื่อส่งมอบขุมพลังที่สมดุลทั้งในด้านสมรรถนะ ความประหยัด และความยั่งยืน เป็นการตอกย้ำว่า “ดีเซล” ยังคงเป็นพลังงานที่มีบทบาทสำคัญ และสามารถพัฒนาไปสู่จุดที่เหนือกว่าได้อย่างไม่หยุดยั้ง

ขุมพลังสูงสุด: เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE “พลังใหม่…กำหนดโลก”

สำหรับผู้ที่ต้องการพละกำลังขั้นสุดยอด อีซูซุยังคงนำเสนอเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ภายใต้สโลแกน “พลังใหม่…กำหนดโลก” ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในสมรรถนะที่จะพาคุณไปได้ทุกที่ เครื่องยนต์นี้ให้พลังแรงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที ตัวเลขเหล่านี้บอกได้อย่างชัดเจนว่านี่คือเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานหนัก การบรรทุกหนัก หรือการเดินทางในเส้นทางที่ท้าทาย

เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ยังคงใช้ E-VGS TURBO ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้การตอบสนองดีเยี่ยมในทุกช่วงความเร็ว ไม่ว่าจะออกตัว เร่งแซง หรือขับขี่บนทางชัน คุณจะสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่พร้อมให้ใช้งานอยู่เสมอ โดยไม่รู้สึกขาดช่วง ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมรรถนะอันแข็งแกร่งเข้ากับเทคโนโลยีการควบคุมที่ทันสมัย เพื่อให้ได้มาซึ่งขุมพลังดีเซลที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุด มีให้เลือกทั้งในรถอีซูซุ ดีแมคซ์ และ มิว-เอ็กซ์ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในทุกมิติ

ระบบส่งกำลังใหม่: ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ

หัวใจสำคัญของประสบการณ์การขับขี่ไม่ได้อยู่ที่เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว แต่ระบบส่งกำลังมีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน และในปี 2025 นี้ อีซูซุได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถในกลุ่มนี้ด้วยระบบส่งกำลังที่ล้ำสมัย:

เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด REV TRONIC ใหม่: นี่คือครั้งแรกของอีซูซุที่นำเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดมาใช้ในไลน์อัพ ส่งผลให้มีอัตราทดเกียร์ที่ต่อเนื่องและครอบคลุมทุกช่วงความเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ไร้รอยต่อ ลดแรงกระชาก ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและสบายยิ่งขึ้น การที่มีอัตราทดเกียร์ที่ละเอียดขึ้นยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบต่ำลงเมื่อใช้ความเร็วสูง ส่งผลโดยตรงต่อความประหยัดน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังช่วยลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร ทำให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลายและเพลิดเพลิน เกียร์ REV TRONIC นี้ยังมาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่ตอบสนองต่อสไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างหลากหลาย ทำให้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเน้นความนุ่มนวล หรือความกระฉับกระเฉงในการขับขี่
เกียร์ธรรมดา 6 สปีด GENIUS SPORT SHIFT ใหม่: สำหรับผู้ที่ยังคงชื่นชอบการควบคุมรถด้วยตนเอง อีซูซุได้พัฒนาระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด GENIUS SPORT SHIFT พร้อมอัตราทดใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อการออกตัวที่ดีขึ้นแม้บรรทุกหนัก และยังคงให้ความประหยัดน้ำมันที่ความเร็วสูง การปรับปรุงอัตราทดเกียร์นี้ช่วยให้การส่งถ่ายกำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกช่วงรอบเครื่องยนต์ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำและมั่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการออกเดินทางไกลบนถนนหลวง

การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ MAXFORCE ใหม่ และระบบส่งกำลังใหม่นี้ สร้างความสมดุลที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความประหยัด และความสะดวกสบาย ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งกว่าที่เคย

NEW! MU-X The Next Peak 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: กำหนดจุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่า

สำหรับตลาดรถยนต์ PPV หรือรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ได้รับการปรับโฉมใหม่ภายใต้ชื่อ “The Next Peak” เพื่อสื่อถึงการยกระดับสู่จุดสูงสุดใหม่ที่เหนือกว่าทุกข้อจำกัด

เพิ่มไลน์อัพใหม่! NEW! MU-X The Next Peak รุ่น RS เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE: การมาถึงของรุ่น RS คือการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของอีซูซุในการนำเสนอสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมควบคู่ไปกับความหรูหราและสปอร์ต รุ่น RS ไม่ได้เป็นเพียงการตกแต่งที่โดดเด่น แต่ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ใหม่ ที่พร้อมพุ่งทะยานสู่จุดพีคที่สุดของสมรรถนะ ให้คุณฝ่าทุกอุปสรรคอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมพามุ่งสู่จุดสูงสุดของการเดินทาง ด้วยขุมพลังที่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ คุณจะสัมผัสได้ถึงการขับขี่ที่เร้าใจ ตอบสนองได้ดั่งใจ พร้อมความสะดวกสบายและปลอดภัยระดับพรีเมียมที่เป็นเอกลักษณ์ของ MU-X

NEW! MU-X The Next Peak มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ในหลากหลายรุ่นย่อย เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการ ตั้งแต่รุ่น Active ที่เน้นความคุ้มค่า ไปจนถึงรุ่น Ultimate และ RS ที่มอบความหรูหราและเทคโนโลยีขั้นสุด

ราคาจำหน่าย MU-X ในแต่ละรุ่น (โดยประมาณ ณ วันเปิดตัว):
NEW! MU-X RS 4×4 ราคาตั้งแต่ 1,759,000 – 1,771,000 บาท
NEW! MU-X RS ราคาตั้งแต่ 1,624,000 – 1,671,000 บาท
NEW! MU-X Ultimate ราคาตั้งแต่ 1,554,000 – 1,601,000 บาท
NEW! MU-X Elegant ราคาตั้งแต่ 1,429,000 – 1,476,000 บาท
NEW! MU-X Active ราคาตั้งแต่ 1,194,000 – 1,206,000 บาท

รถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ 2.2 & 3.0 Ddi MAXFORCE: พลังใหม่…กำหนดโลก

สำหรับราชากระบะอย่างอีซูซุ ดีแมคซ์ การเปลี่ยนแปลงในปี 2025 ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ด้วยสโลแกน “พลังใหม่…กำหนดโลก” ที่ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในทุกตลาด

เพิ่มไลน์อัพใหม่! ISUZU V-CROSS 4×4 เกรด ZP เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: สำหรับสายลุยตัวจริง V-CROSS 4×4 ได้รับการเสริมทัพด้วยรุ่น ZP เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE ที่ทรงพลัง ทำให้การลุยเส้นทางออฟโรดเป็นไปอย่างง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยระบบขับเคลื่อน 4×4 ที่ไว้ใจได้ และขุมพลังที่พร้อมตอบสนองทุกการท้าทาย
เพิ่มไลน์อัพใหม่! ISUZU D-MAX Spark 4×4 เกรด S เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE: อีซูซุ สปาร์ค ซึ่งเป็นกระบะตอนเดียวสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ ได้รับการยกระดับอย่างก้าวกระโดด ด้วยรุ่น 4×4 เกรด S เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเครื่องยนต์ 3.0 Ddi MAXFORCE นี่คือการผสมผสานระหว่างความแกร่ง ประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกสบายในการขับขี่ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการรถกระบะที่ทนทาน พร้อมลุยงานหนัก และยังมอบความผ่อนคลายในการขับขี่
สีใหม่! สีเทา Elbrus Grey Opaque (เทา เอลบรุส โอเพค): เสริมนิยามหรูหรา กำหนดโลก ในรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ สีใหม่นี้มอบความรู้สึกพรีเมียมและทันสมัยให้กับรถกระบะคู่ใจ ทำให้ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นสะดุดตามากยิ่งขึ้น

อีซูซุ ดีแมคซ์ 2025 ยังคงมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งรุ่น 4 ประตู, 2 ประตู, Cab4, Spacecab และ Spark เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้งานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัว หรือเชิงพาณิชย์

ราคาจำหน่ายอีซูซุ ดีแมคซ์ ในแต่ละรุ่น (โดยประมาณ ณ วันเปิดตัว):
NEW! ISUZU V-Cross 4×4 รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 937,000 – 1,284,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Hi-Lander รุ่น 4 ประตู และ 2 ประตู ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 778,000 – 1,171,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Cab4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 749,000 – 902,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spacecab ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 668,000 – 784,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark 4×4 ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 740,000 – 787,000 บาท
NEW! ISUZU D-MAX Spark ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 558,000 – 655,000 บาท

ประสบการณ์จริงจากสนามทดสอบ: สัมผัสพลังแห่งอนาคต

ในฐานะผู้ที่ได้มีโอกาสสัมผัสและทดสอบสมรรถนะของอีซูซุ 2025 ผมยืนยันได้เลยว่า นวัตกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขบนแผ่นกระดาษ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้และน่าประทับใจอย่างยิ่ง

ISUZU D-Max Hi-lander 2.2 Ddi MAXFORCE:
ผมเริ่มต้นการทดสอบที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งเป็นสนามแข่งระดับโลก การออกตัวของ D-Max Hi-lander คันนี้เหนือความคาดหมายตั้งแต่แรกสัมผัส จุดเด่นของเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE คือการมีกำลังตั้งแต่รอบต่ำ แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร มาตั้งแต่ 1,600 รอบ/นาที ทำให้ผมแทบไม่ต้องกดคันเร่งลึก ก็สามารถพารถทะยานออกไปได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ การเร่งแซงเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอาการรอรอบใดๆ เลย ต้องยกเครดิตให้กับ E-VGS TURBO ลูกใหม่ ที่ตอบสนองได้ทันท่วงที

สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างคือระดับเสียงของเครื่องยนต์ ซึ่งเงียบลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรรุ่นก่อนหน้า ตั้งแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ ไปจนถึงการขับขี่ในความเร็วต่างๆ หรือแม้กระทั่งการเร่งแซง ก็ยังคงความเงียบและความราบเรียบไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้การเดินทางมีความสะดวกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น ความราบเรียบของเครื่องยนต์นี้ยังรู้สึกได้แม้กระทั่งตอนจอดอยู่กับที่และกดคันเร่ง รอบเครื่องยนต์ตอบสนองได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน

พระเอกอีกหนึ่งอย่างคือเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด REV TRONIC ใหม่ การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่องจนแทบไม่รู้สึกถึงรอยต่อ ทำให้การส่งกำลังเป็นไปอย่างไหลลื่น การตอบสนองในช่วงเร่งแซงก็ทำได้ดีเยี่ยม เมื่อใช้ Paddle Shift เพื่อลดเกียร์ ระบบก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างไร้ที่ติ และหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันได้อย่างแท้จริงคือจำนวนเกียร์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 8 สปีด เมื่อผมลองวิ่งด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ในเกียร์ 8 รอบเครื่องยนต์ขึ้นไปเพียง 1,900-1,950 รอบ/นาที เท่านั้น ซึ่งอัตราทดนี้จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างแน่นอนในการขับขี่ระยะยาว

MU-X The Next Peak 2.2 Ddi MAXFORCE:
เมื่อเปลี่ยนมาขับ MU-X The Next Peak ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE เช่นเดียวกัน แม้ว่าน้ำหนักตัวรถจะมากกว่า D-Max ทำให้การอัตราเร่งอาจจะไม่ได้กระฉับกระเฉงเท่า แต่ความไหลลื่นของการเปลี่ยนเกียร์จากเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดนั้น สร้างความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเมื่อมาอยู่ใน MU-X ด้วยธรรมชาติของรถยนต์อเนกประสงค์ที่ต้องการความสบายในการเดินทาง เกียร์ใหม่นี้ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว การเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลาย ไม่มีอาการกระตุกหรือกระชาก ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตลอดเส้นทาง

Slope Station Test:
อีกหนึ่งการทดสอบที่เน้นการใช้งานจริงคือการขับรถขึ้นและลงเนินชัน 18 องศา พร้อมโหลดน้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม ด้วยรถปิกอัพ NEW! ISUZU D-MAX Spacecab M/T และ NEW! ISUZU D-MAX Spark A/T ผลลัพธ์ที่ได้คือความมั่นใจเต็มเปี่ยม เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE และ 3.0 Ddi MAXFORCE ใหม่นี้สามารถพารถที่บรรทุกหนักปีนป่ายเนินชันได้อย่างสบายๆ ด้วยแรงบิดที่มีมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเร่งเครื่องยนต์สูง หรือต้องเค้นกำลังใดๆ ในขณะที่ระบบเกียร์ก็ช่วยส่งกำลังได้อย่างเหมาะสม ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างง่ายดายทั้งการขึ้นและลงเนิน แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่แท้จริงในการใช้งานเชิงพาณิชย์ หรือการบรรทุกสัมภาระจำนวนมากสำหรับการเดินทาง

บทสรุปและก้าวต่อไป

อีซูซุ 2025 คือการประกาศความพร้อมในการก้าวสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ ด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์ดีเซล MAXFORCE เจเนอเรชันใหม่และระบบส่งกำลังอันทันสมัย อีซูซุได้ยกระดับมาตรฐานของรถกระบะและ PPV ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ไม่ใช่แค่เพียงการตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน แต่เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมรรถนะที่ทรงพลัง ความประหยัดน้ำมันที่เป็นเลิศ ค่า CO2 ที่ต่ำที่สุดในระดับเดียวกัน และความพร้อมรองรับเทคโนโลยีและพลังงานที่หลากหลายในอนาคต

นี่คือโอกาสที่คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนไปข้างหน้า สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าในทุกเส้นทาง ด้วยรถอีซูซุ ดีแมคซ์ และ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 2025 ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสขุมพลังแห่งอนาคต! เชิญมาทดลองขับและเป็นเจ้าของ Isuzu D-MAX 2025 และ Isuzu MU-X 2025 ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมอีซูซุถึงกล้าที่จะ “กำหนดโลก” ด้วยพลังใหม่ที่ไร้ขีดจำกัด!

Previous Post

G0312014 นต นคน (มอาย) part2

Next Post

G0312021 การแต งงานไม ใช แค ความร part2

Next Post
G0312021 การแต งงานไม ใช แค ความร part2

G0312021 การแต งงานไม ใช แค ความร part2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • G0912015 กค ณหน ไม ยอมแต งงาน เลยต องกลายเป นคนงาน part2
  • G0912004 อจนๆ กท กคนก งเก ยจ part2
  • G0912007 แม าผ หวานใจเศรษฐ part2
  • G0912014 เม อประธานสาวต องย ายไปอย บคนท วเองตบหน part2
  • G0912013 กชายเจ าของปลอมต วมาด พน กงาน แต กล บถ กผ ดการด part2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.