GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล 2025: ยกระดับประสบการณ์กระบะพรีเมียม สู่ยุคใหม่แห่งการขับขี่อัจฉริยะ
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของรถยนต์ประเภทต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถกระบะ ที่วันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็น “รถใช้งาน” อีกต่อไป แต่ได้ก้าวข้ามขีดจำกัด สู่การเป็น “ไลฟ์สไตล์พาร์ทเนอร์” ที่เติมเต็มทั้งด้านการทำงาน การเดินทาง และการผจญภัย GWM ในฐานะผู้บุกเบิกด้านนวัตกรรม ได้นำเสนอ GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล ปี 2025 ออกมาเขย่าตลาด ด้วยแนวคิดที่แตกต่าง และการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับสมรรถนะอันทรงพลัง นี่ไม่ใช่แค่รถกระบะคันใหม่ แต่คือวิสัยทัศน์ของอนาคตการขับขี่ที่พร้อมให้สัมผัสแล้วในวันนี้
ตลาดรถกระบะในปี 2025 กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่ความแข็งแกร่งหรือความจุในการบรรทุกเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังต้องการความสะดวกสบายระดับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ความหรูหราที่สะท้อนตัวตน และที่สำคัญที่สุดคือ “เทคโนโลยีความปลอดภัย” และ “การเชื่อมต่อ” ที่ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและอุ่นใจ GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการนี้อย่างแท้จริง ด้วยการนำเสนอทางเลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.4T PRO 2WD, 2.4T ULTRA 2WD และ 2.4T ULTRA 4WD ซึ่งแต่ละรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการขับขี่ในเมือง การเดินทางไกล หรือแม้แต่การผจญภัยในเส้นทางออฟโรดที่ท้าทาย
ขุมพลังดีเซล 2.4T: หัวใจที่ขับเคลื่อนทุกเส้นทางอย่างเหนือชั้น
หัวใจสำคัญที่ทำให้ GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล โดดเด่นเหนือใครในตลาดรถกระบะพรีเมียม คือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด พร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน (VGT) ที่ถูกปรับจูนมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุดและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่เหนือกว่า ในยุคที่พลังงานมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเลือกรถที่มีความประหยัดน้ำมันเป็นปัจจัยสำคัญ และ POER SAHAR ก็ตอบโจทย์ได้อย่างยอดเยี่ยม เครื่องยนต์บล็อกนี้ให้พละกำลังสูงสุดถึง 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที ซึ่งเพียงพอต่อการเร่งแซงและการใช้งานหนักทุกรูปแบบ แต่สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือแรงบิดมหาศาลถึง 480 นิวตันเมตร ที่มาในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,500 – 2,500 รอบต่อนาที นี่หมายความว่าคุณจะสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่ตอบสนองในทันทีตั้งแต่เริ่มออกตัว ให้การขับขี่ที่คล่องตัวและมั่นใจ ไม่ว่าจะต้องบรรทุกสัมภาระเต็มพิกัด หรือเผชิญหน้ากับทางชัน
ระบบหัวฉีดแรงดันสูงถึง 2,000 บาร์ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และลดมลพิษ ทำให้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4T ของ POER SAHAR เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่สะอาดและประหยัดที่สุดในเซกเมนต์เดียวกัน นอกจากนี้ ด้วยถังน้ำมันขนาด 78 ลิตร ทำให้ POER SAHAR สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อการเติมน้ำมันหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลบ่อยครั้ง หรือผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยที่ไม่ต้องการหยุดแวะเติมน้ำมันบ่อยๆ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่เคลมมาตาม Eco Sticker อยู่ที่เฉลี่ย 14 กม./ลิตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 13.5 กม./ลิตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถกระบะขนาดใหญ่ระดับนี้
ส่งกำลังไร้รอยต่อ: เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT)
การทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9AT) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พบได้ในรถยนต์พรีเมียมระดับโลกเท่านั้น ยิ่งเสริมให้ GWM POER SAHAR มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์นี้ได้รับการออกแบบมาให้มีช่วงอัตราทดเกียร์ที่กว้างถึง 8.843 ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกช่วงความเร็วและทุกสภาพการขับขี่ ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ขอชื่นชมในการเลือกใช้เกียร์ 9 สปีดนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยลดรอบเครื่องยนต์ในขณะเดินทางด้วยความเร็วสูง ทำให้ประหยัดน้ำมันและลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารเท่านั้น แต่ยังมอบการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลและต่อเนื่อง ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด จุดเด่นอีกประการคือความสามารถในการเปลี่ยนเป็นเกียร์ 9 ได้ที่ความเร็วเพียง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่ใช้ในการเดินทางบนทางหลวงทั่วไปบ่อยครั้ง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบเพื่อการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของผู้ขับขี่
ระบบพวงมาลัยไฟฟ้ายังมาพร้อม 3 โหมดช่วยผ่อนแรง ได้แก่ โหมดเบา, โหมดสบาย และโหมดสปอร์ต ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับความรู้สึกของพวงมาลัยให้เข้ากับสไตล์การขับขี่และความต้องการในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางบนถนนไฮเวย์ที่ต้องการความมั่นคง
สมรรถนะการขับขี่: ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
GWM POER SAHAR ดีเซล มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย เพื่อรองรับทุกสภาพเส้นทางและสไตล์การขับขี่ของผู้ใช้งาน ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) เช่น 2.4T PRO 2WD และ 2.4T ULTRA 2WD มีโหมดปกติ, โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด ที่ช่วยให้คุณเลือกได้ว่าจะเน้นความนุ่มนวล ประหยัดเชื้อเพลิง หรือเร่งอัตราเร่งได้อย่างเต็มที่ สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA 4WD ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสำหรับผู้ที่ต้องการความสามารถในการลุยที่เหนือกว่า ก็มีโหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) สำหรับการขับขี่ปกติบนถนนลาดยาง เพื่อความประหยัดเชื้อเพลิง, โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) สำหรับสภาพถนนที่ต้องการการยึดเกาะเป็นพิเศษ เช่น ถนนเปียก หรือทางลูกรังที่ไม่สมบุกสมบันมากนัก และที่ขาดไม่ได้คือ โหมดขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตราทดเกียร์ต่ำ (4L) ที่ให้แรงบิดสูงสุดสำหรับการปีนป่ายทางชัน หรือการผ่านพ้นอุปสรรคที่ต้องใช้กำลังในการขับเคลื่อนสูง ผนวกกับระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้า (Electric Rear Diff Lock) ในรุ่น 4WD ที่ช่วยให้ล้อทั้งสองฝั่งหมุนด้วยความเร็วเท่ากัน เพิ่มแรงฉุดลากเมื่อรถติดหล่มหรืออยู่บนพื้นผิวที่ลื่น ทำให้ POER SAHAR เป็นรถกระบะออฟโรดที่ไว้ใจได้ในทุกสถานการณ์
ดีไซน์ภายนอก: แกร่ง สง่างาม ดึงดูดทุกสายตา
GWM POER SAHAR ดีเซล ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Robust Luxury” ที่ผสานความแข็งแกร่งของรถกระบะเข้ากับความสง่างามของรถยนต์พรีเมียมอย่างลงตัว มิติตัวถังที่ใหญ่โต ยาว 5,445 มิลลิเมตร กว้าง 1,991 มิลลิเมตร และสูง 1,924 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 3,350 มิลลิเมตร ทำให้รถมีบุคลิกที่โดดเด่นบนท้องถนน ไม่เพียงแค่มองดูใหญ่โต แต่สัดส่วนเหล่านี้ยังส่งผลต่อความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร และเสถียรภาพในการขับขี่อีกด้วย ระยะห่างใต้ท้องรถ 224 มิลลิเมตร และความสามารถในการลุยน้ำลึกถึง 800 มิลลิเมตร ตอกย้ำถึงสมรรถนะที่พร้อมลุยในทุกสภาพเส้นทางในเมืองไทย ที่มักจะมีปัญหาน้ำท่วมขังในบางฤดู
องค์ประกอบภายนอกถูกคัดสรรมาอย่างดีเพื่อเสริมลุคพรีเมียมและสปอร์ต ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ารมดำแบบ LED อัจฉริยะ ที่มาพร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ และระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD) ฟังก์ชันหน่วงเวลาไฟส่องทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home) เพิ่มความปลอดภัยในยามค่ำคืน ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED (Daytime Running Light) และไฟท้ายรมดำแบบ LED สร้างความโดดเด่นและทันสมัย กระจังหน้าสีดำ, ราวหลังคาสีดำ และกรอบหน้าต่างสีดำ ล้วนเป็นรายละเอียดที่ช่วยเสริมความดุดันและพรีเมียมให้กับตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีดำ พร้อมยาง 265/60 R18 ไม่เพียงแต่ให้ความสวยงาม แต่ยังรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งบนถนนปกติและเส้นทางสมบุกสมบัน กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว และกระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD) คืออุปกรณ์มาตรฐานที่สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้ขับขี่ ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าอัตโนมัติ และเสาอากาศแบบครีบฉลาม ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่เสริมความล้ำสมัยให้กับ GWM POER SAHAR อย่างสมบูรณ์แบบ
ห้องโดยสาร: นิยามใหม่ของความหรูหราและความสะดวกสบาย
ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารของ GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล คุณจะพบกับงานดีไซน์ที่ประณีตและวัสดุเกรดพรีเมียมที่หุ้มเบาะหนังสังเคราะห์ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อม Auto Brake Hold เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัด และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกด้วย
ความพิเศษที่สำคัญคือเบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับเอนได้ 2 ระดับ (ประมาณ 33 องศา) ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่หาได้ยากในรถกระบะทั่วไป นี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ POER SAHAR เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกลเป็นอย่างยิ่ง ผู้โดยสารด้านหลังจะได้รับความสบายสูงสุด ลดความเมื่อยล้าได้อย่างชัดเจน เบาะพับได้แบบ 40:20:40 พร้อมที่พักแขนตอนกลางและที่วางแก้วน้ำ สะท้อนถึงความอเนกประสงค์ที่แท้จริง ไม่ว่าจะบรรทุกคน สัมภาระขนาดใหญ่ หรือแม้แต่นั่งพักผ่อนในรถ ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบ Electronic Shifter ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลและประหยัดพื้นที่ในคอนโซลกลาง กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start System มอบความสะดวกสบายในการเข้า-ออก และสตาร์ทรถ
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว มอบข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วนและอ่านง่าย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าสามารถตั้งอุณหภูมิที่แตกต่างกันได้ตามความต้องการ นี่คือความหรูหราที่ยกระดับประสบการณ์การเดินทาง
สำหรับรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ได้รับการยกระดับไปอีกขั้นด้วยที่บังแดดพร้อมกระจกและไฟแต่งหน้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เพิ่มความสะดวกสบายในการปรับท่านั่งที่ลงตัว ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารทั้งด้านหน้าและหลัง (ในรุ่น PRO มีเฉพาะด้านหน้า) ช่องต่อ USB สำหรับกล้องบันทึกภาพ และช่องจ่ายไฟสำรอง 220V ยิ่งเพิ่มความอเนกประสงค์สำหรับการเดินทางยุคดิจิทัล ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่ไม่ต้องการพกพาสายชาร์จให้ยุ่งยาก
ระบบความบันเทิงและเชื่อมต่ออัจฉริยะ: ทุกการเดินทางคือความเพลิดเพลิน
GWM POER SAHAR 2025 ไม่ได้เป็นเพียงรถกระบะที่แข็งแกร่ง แต่ยังเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการเชื่อมต่อที่ทันสมัย ด้วยลำโพง 6 ตำแหน่งที่มอบเสียงคมชัด และหน้าจอมัลติมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วในรุ่น 2.4T PRO และขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้วในรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD ซึ่งเป็นขนาดหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดรถกระบะ ช่วยให้การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดายและมองเห็นได้ชัดเจน รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันต้องการอย่างยิ่ง ไม่ต้องพึ่งพาสายเคเบิลให้เกะกะ นอกจากนี้ยังรองรับ Bluetooth และเล่นไฟล์ MP5 ได้อีกด้วย สำหรับรุ่น ULTRA และ ULTRA 4WD ยังมี Online Music และ Online Radio ที่ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกความบันเทิงที่ชื่นชอบ
นอกจากนี้ GWM แอปพลิเคชันอัจฉริยะ ยังเป็นส่วนสำคัญที่เชื่อมโยงคุณเข้ากับรถ POER SAHAR ได้จากระยะไกล (เฉพาะรุ่น 2.4T ULTRA และ 2.4T ULTRA 4WD) ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะประตูและหน้าต่าง, ระบบปรับอากาศ, ระยะทางคงเหลือของเชื้อเพลิง, แรงดันลมยาง หรือแม้กระทั่งค้นหาตำแหน่งรถยนต์ ระบบแจ้งเตือนเมื่อสถานะผิดปกติ เช่น ประตูไม่ได้ปิด หรือแบตเตอรี่ 12V ต่ำ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจและลดความกังวลในการเป็นเจ้าของรถ ฟังก์ชันอย่างการล็อก/ปลดล็อกประตู หรือการเปิด/ปิดระบบปรับอากาศจากระยะไกล เป็นความสะดวกสบายที่ยกระดับประสบการณ์การใช้งานรถกระบะไปอีกขั้น สมกับเป็นรถกระบะแห่งอนาคต
ความปลอดภัยสูงสุด: ขับขี่มั่นใจทุกเส้นทาง
ในยุค 2025 ที่เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล ได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริยะมาอย่างครบครัน เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักเดินทางได้อย่างอุ่นใจสูงสุด ด้วยถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง พร้อมด้วยระบบติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ Call Center และระบบติดต่อเบอร์ฉุกเฉิน ที่พร้อมช่วยเหลือคุณในทุกสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
หัวใจสำคัญของระบบความปลอดภัยเชิงรุกคือ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ที่ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ถูกติดตั้งมาอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการเข้าโค้งอัจฉริยะ (ACC): ไม่ใช่แค่รักษาความเร็ว แต่ยังปรับความเร็วตามรถคันหน้าและลดความเร็วในโค้งได้อย่างชาญฉลาด
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA): ช่วยให้การขับขี่ในสภาพการจราจรติดขัดเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB): ตรวจจับและเบรกรถโดยอัตโนมัติเพื่อลดความเสี่ยงการชนด้านหน้า
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW): แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อพบความเสี่ยง
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) และ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA): ช่วยให้รถอยู่ในช่องจราจรอย่างปลอดภัย
ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK): เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนทางหลวง
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK): เสริมความปลอดภัยในสถานการณ์คับขัน
ระบบช่วยเลี่ยงการชนทางด้านข้าง (WDS) และ ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (LCA): ป้องกันอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนเลน
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) พร้อมระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB): เพิ่มความปลอดภัยในการถอยจอดและออกจากที่จอด
ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่ 2 (SCM): ลดความเสียหายหลังจากการชนครั้งแรก
ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) และ ระบบลงทางลาดชัน (HDC): อำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนเส้นทางลาดชัน
ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS): ตรวจสอบแรงดันลมยางแบบเรียลไทม์ เพื่อความปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน
ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตู (DOW): ป้องกันการเปิดประตูชนรถหรือคนเดินเท้า
เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง: ช่วยในการจอดรถ
ระบบช่วยเตือนสัญลักษณ์จราจร และการแจ้งเตือนการขับรถเร็วเกินกำหนด: ช่วยให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจร
นอกจากระบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว โครงสร้างตัวถังของ GWM POER SAHAR ยังถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ด้วยการใช้เหล็กกล้าความแข็งแรงสูงมากกว่า 64.3% ของโครงสร้างทั้งหมด พร้อมคานเหล็กกันกระแทกที่ติดตั้งครบทั้ง 4 ประตู พื้นรถ และหลังคา ซึ่งทนต่อแรงบิดสูงถึง 61,118 นิวตันเมตร/องศา และแรงดัดที่ 26,163 นิวตัน/มิลลิเมตร ที่น่าทึ่งคือหลังคาสามารถรับแรงกดได้มากถึง 4.88 เท่าของน้ำหนักตัวรถ หรือเทียบเท่ากับแรงกดจากน้ำหนักกว่า 10 ตัน นี่คือการลงทุนในความปลอดภัยที่แท้จริง มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการปกป้องสูงสุดในทุกการเดินทาง
บทสรุป: รถกระบะพรีเมียมที่ยกระดับทุกมิติ
GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่านี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรด แต่เป็นการ “ปฏิวัติ” วงการรถกระบะในประเทศไทย ด้วยการผสมผสานสมรรถนะอันทรงพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เข้ากับระบบส่งกำลัง 9 สปีดที่นุ่มนวล พร้อมดีไซน์ที่แกร่งแต่หรูหรา ภายในห้องโดยสารที่มอบความสะดวกสบายระดับพรีเมียม และที่สำคัญที่สุดคือชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ที่ครบครันที่สุดในตลาด ทำให้ GWM POER SAHAR เป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจที่ต้องการรถคู่ใจสำหรับทั้งการทำงานและการเดินทางกับครอบครัว หรือนักผจญภัยที่โหยหาความท้าทายในเส้นทางใหม่ๆ POER SAHAR พร้อมที่จะเป็น “เพื่อนร่วมทาง” ที่จะพาคุณไปสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจและมีสไตล์
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมกล้าพูดได้เลยว่า GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตลาดรถกระบะปี 2025 ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้ และคุณสมบัติที่อัดแน่นมาอย่างเต็มที่ นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ที่ไม่เพียงแต่จะให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า แต่ยังมอบความอุ่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกและบริการหลังการขายที่พร้อมดูแลคุณ
อนาคตของการเดินทางรอคุณอยู่แล้ว!
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับกับ GWM POER SAHAR 2.4 ดีเซล 2025 ด้วยตัวคุณเอง เชิญมาทดลองขับและเป็นเจ้าของรถกระบะพรีเมียมแห่งอนาคตนี้ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม GWM ทั่วประเทศ สัมผัสถึงพลัง นวัตกรรม และความหรูหราที่จะเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อรถกระบะไปตลอดกาล!
