Toyota Hilux TRAVO-e: ปฏิวัติวงการกระบะไฟฟ้า พลิกโฉมอนาคตการขับขี่ปี 2025
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการที่ไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่พลังงานไฟฟ้ากำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีกต่อไป แต่ได้ขยายมาถึงเซกเมนต์ที่แข็งแกร่งและเป็นหัวใจของเศรษฐกิจไทยอย่าง “รถกระบะ” และวันนี้ ผมขอพาไปเจาะลึกกับหนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าจับตาที่สุดแห่งปี 2025 นั่นคือ Toyota Hilux TRAVO-e กระบะไฟฟ้า 100% ที่ไม่ได้แค่ก้าวตามกระแส แต่ตั้งใจมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ ยกระดับสมรรถนะ ความทนทาน และเทคโนโลยีสู่มิติที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกของ กระบะไฟฟ้า
Toyota Hilux TRAVO-e ไม่ใช่แค่การนำ Hilux รุ่นปกติมายัดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไป แต่คือการคิดค้นและออกแบบใหม่ภายใต้แนวคิด Multi-Pathway ของโตโยต้า ที่มุ่งเน้นการส่งมอบทางเลือกที่หลากหลายและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละตลาด การมาของ TRAVO-e สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ยั่งยืน โดยยังคงรักษา DNA ความแกร่ง ดุดัน และความไว้ใจได้ของ Hilux ที่คนไทยคุ้นเคยไว้อย่างเต็มเปี่ยม นี่คือ รถกระบะ EV ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานหนักเพื่อธุรกิจ การผจญภัยในเส้นทางออฟโรด หรือแม้กระทั่งการเดินทางในชีวิตประจำวันอย่างเหนือระดับและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่คืออนาคตของ รถกระบะพลังงานไฟฟ้า ที่กำลังจะมาถึงมือคุณ
พละกำลังไฟฟ้าที่เหนือชั้น: สมรรถนะและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน Toyota Hilux TRAVO-e คือระบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Dual Motor) ที่ทำงานผสานกันอย่างลงตัว มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 196 แรงม้า (PS) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-Wheel Drive เต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ TRAVO-e แตกต่างจาก รถกระบะไฟฟ้า ทั่วไปในตลาด พละกำลังที่ส่งตรงจากมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งหน้าและหลังให้แรงบิดที่ฉับไวและต่อเนื่องทันทีที่คุณสัมผัสคันเร่ง นั่นหมายถึงอัตราเร่งที่โดดเด่นแซงหน้ากระบะเครื่องยนต์สันดาปหลายรุ่นในตลาด แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าอยู่ที่ 205.5 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังที่ 268.6 นิวตัน-เมตร ซึ่งไม่เพียงพอต่อการขับขี่บนถนนลาดยางอย่างราบรื่น แต่ยังทรงพลังอย่างเหลือเฟือสำหรับการลุยในสภาพเส้นทางที่ท้าทาย
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) แบบ All-Wheel Drive พร้อม eAxle นั้นได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ TRAVO-e มีเสถียรภาพและการยึดเกาะถนนสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนเปียก ขรุขระ หรือแม้แต่เส้นทางออฟโรดที่ต้องการแรงบิดและการควบคุมที่แม่นยำ ระบบนี้จะช่วยกระจายกำลังไปยังล้อแต่ละข้างอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และตอบสนองทุกสถานการณ์ได้อย่างไร้กังวล ในฐานะผู้ใช้งานจริง คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในด้านการทรงตัวและ Traction Control ที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า ประเภทกระบะที่ต้องรองรับการบรรทุกและลุยงานหนัก นี่คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างพละกำลังไฟฟ้าและความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux ที่ไม่เคยทิ้งดีเอ็นเอของความแกร่งไปเลย
แบตเตอรี่และการชาร์จ: หัวใจของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งปี 2025
สำหรับ รถกระบะ EV สิ่งที่ผู้ใช้งานให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือระยะทางวิ่งและความสะดวกในการชาร์จ Toyota Hilux TRAVO-e มาพร้อมแบตเตอรี่ชนิด Lithium-ion NMC ความจุ 59.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางเฟรมของตัวรถ การจัดวางเช่นนี้ไม่เพียงช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง เพิ่มความมั่นคงและสมดุลในการขับขี่ แต่ยังช่วยให้การกระจายน้ำหนักเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ แบตเตอรี่ NMC (Nickel Manganese Cobalt) ขึ้นชื่อเรื่องความหนาแน่นของพลังงานสูง ทำให้ได้ระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดนี้ Toyota Hilux TRAVO-e สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 315 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การเดินทางระหว่างจังหวัด หรือการทำงานที่ต้องใช้ระยะทางระดับหนึ่งในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม สำหรับปี 2025 ที่เทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า ก้าวหน้าไปมาก มาตรฐานการวัดแบบ WLTP อาจสะท้อนการใช้งานจริงได้ใกล้เคียงกว่า แต่ 315 กม. ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่น่าพอใจสำหรับกระบะไฟฟ้าในปัจจุบัน
ในด้านการชาร์จ TRAVO-e รองรับการชาร์จทั้งแบบ AC Type 2 กำลังสูงสุด 10 กิโลวัตต์ (kW) สำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จเต็มค่อนข้างนาน แต่สะดวกในเวลากลางคืน และที่สำคัญคือรองรับการชาร์จเร็วแบบ DC CCS2 กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์ (kW) ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการรอคอยได้อย่างมาก การชาร์จเร็ว DC จะทำให้คุณกลับมาใช้งานรถได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเดินทางไกลที่ต้องแวะชาร์จระหว่างทาง หรือในกรณีที่ต้องการใช้รถอย่างเร่งด่วน การขยายตัวของ สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ทั่วประเทศในปี 2025 จะทำให้การใช้ รถกระบะ EV เป็นเรื่องง่ายและไร้กังวลมากขึ้นอย่างแน่นอน
“DIAMOND GUARD”: เกราะป้องกันแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง
หนึ่งในความกังวลหลักของผู้ใช้งาน รถกระบะไฟฟ้า คือความปลอดภัยของแบตเตอรี่ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับสภาพถนนที่สมบุกสมบันหรือการใช้งานเชิงพาณิชย์หนักๆ โตโยต้าได้ตอบโจทย์นี้ด้วยเทคโนโลยี “DIAMOND GUARD” สุดยอดนวัตกรรมการปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความทนทานในแบบฉบับ Hilux
เทคโนโลยีนี้ใช้แผ่นปิดเสริมความปลอดภัยทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ เพื่อปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนจากแรงกระแทกและวัตถุภายนอกที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ที่โดดเด่นคือการยึดแบตเตอรี่เข้ากับเฟรมย่อยในรูปทรง Diamond Shape ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน ทั้งยังเสริมความปลอดภัยจากการกระแทกรอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทกเป็นพิเศษ ทำให้แบตเตอรี่ได้รับการปกป้องสูงสุด ไม่ว่าจะเจอเส้นทางหฤโหดแค่ไหน การลงทุนในเทคโนโลยี แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของโตโยต้าต่อความปลอดภัยและความมั่นใจของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง
“Dynamic Cloud”: มิติใหม่ของการควบคุมและสุนทรียภาพในการขับขี่
ประสบการณ์การขับขี่ รถกระบะไฟฟ้า ไม่ได้มีเพียงแค่พละกำลัง แต่ยังรวมถึงความรู้สึกที่อยู่หลังพวงมาลัย Toyota Hilux TRAVO-e ยกระดับมาตรฐานนี้ด้วยเทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ
เทคโนโลยีนี้ประกอบด้วยการเพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถังเพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ช่วยลดการบิดตัวของโครงสร้าง ทำให้การควบคุมรถแม่นยำขึ้นและลดเสียงรบกวนจากภายนอก ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่ส่งผ่านจากช่วงล่างเข้าสู่ห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเดินทางราบรื่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนขรุขระหรือทางยาวไกล และสุดท้ายคือแกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การควบคุมคมชัด ตอบสนองดีเยี่ยม และลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนที่ส่งมายังมือผู้ขับ
ผลลัพธ์ของ “Dynamic Cloud” คือประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากกระบะทั่วไป คุณจะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในห้องโดยสาร การทรงตัวที่มั่นคงดุจรถยนต์นั่ง และความนุ่มนวลที่ช่วยลดความเมื่อยล้าในการเดินทางไกล นี่คือการยกระดับ “ความนุ่มนวล” และ “การทรงตัว” ของ รถกระบะ EV ให้เทียบเท่ากับรถยนต์นั่งระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคในปี 2025 ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
มิติภายนอกที่ลงตัว: ความสมดุลระหว่างความแกร่งและความคล่องตัว
การออกแบบภายนอกของ Toyota Hilux TRAVO-e ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของ Hilux แต่เพิ่มความทันสมัยและดุดันด้วยรายละเอียดที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรุ่นไฟฟ้า มิติตัวรถภายนอกที่ยาว 5,320 มม. กว้าง 1,855 มม. และสูง 1,800 มม. ทำให้ TRAVO-e ดูใหญ่โต แข็งแกร่ง แต่ก็ยังคงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและบนเส้นทางที่แคบได้ดี ด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 6.4 เมตร
กระบะภายในมีความยาว 1,555 มม. กว้าง 1,540 มม. และสูง 480 มม. ให้พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่เพียงพอสำหรับทั้งการใช้งานเชิงพาณิชย์และการเดินทางท่องเที่ยว ระยะต่ำสุดจากพื้น 215 มม. สะท้อนถึงความสามารถในการลุยที่ยังคงอยู่ พร้อมสำหรับการขับขี่ในทุกสภาพเส้นทางของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมขังเล็กน้อย หรือทางลูกรังขรุขระ TRAVO-e ก็พร้อมลุย
นอกจากนี้ การออกแบบยังเน้นไปที่ความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน ไฟหน้า LED และไฟท้าย LED ดีไซน์ทันสมัย ระบบปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ และระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย กระจังหน้าดีไซน์พิเศษเฉพาะ TRAVO-e สีเดียวกับตัวรถตัดด้วยสีดำและเงิน ให้ความรู้สึกพรีเมียมและแตกต่างจาก Hilux รุ่นอื่น นี่คือรูปลักษณ์ของ รถกระบะ EV ที่พร้อมจะโดดเด่นบนท้องถนนในทุกสถานการณ์
ภายในห้องโดยสาร: ความหรูหราที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง
ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารของ Toyota Hilux TRAVO-e คุณจะพบกับความประณีตและฟังก์ชันการใช้งานที่คิดมาอย่างดี ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำ พร้อมเบาะหนัง Softex คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและทนทาน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถหามุมที่สบายที่สุดในการขับขี่ระยะไกล ลดความเมื่อยล้าได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับธรรมดา 4 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองที่สามารถพับยกแบบ 60:40 เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานพื้นที่บรรทุกภายในห้องโดยสาร
พวงมาลัยหุ้มหนังปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์บนพวงมาลัย ช่วยให้คุณควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน แผงคอนโซลกลางหุ้มหนังสังเคราะห์พร้อมบุนุ่ม ให้สัมผัสที่หรูหราและประณีต รวมถึงการออกแบบที่เก็บของต่างๆ เช่น กล่องเก็บของคอนโซลกลาง ช่องเก็บของข้างประตู และที่เก็บแว่นตา ที่วางแผนมาอย่างดีเพื่อตอบสนองการใช้งานจริง นี่คือ ภายในรถกระบะไฟฟ้า ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย ความหรูหรา และฟังก์ชันการใช้งานครบครัน
ความล้ำหน้าแห่งยุค: มาตรวัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
Toyota Hilux TRAVO-e อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ล้ำสมัย เพื่อให้การเดินทางของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและเชื่อมต่อกับโลกดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ
จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่แบบจอสี ขนาด 12.3 นิ้ว และ เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว มอบข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วน พร้อมความบันเทิงตลอดการเดินทาง
ระบบเชื่อมต่อ ที่ครอบคลุมทั้ง Bluetooth, Apple CarPlay, Android Auto, T-Connect และช่องต่อ USB ทำให้การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องง่าย
ระบบ Smart Entry และ Push Start เพิ่มความสะดวกสบายในการเข้า-ออกรถและการสตาร์ทเครื่องยนต์
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน พร้อมแอร์ด้านหลัง มอบความเย็นสบายที่ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) และระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Brake Hold) ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่ในเมืองและการจราจรหนาแน่น
โหมดการขับขี่ Eco / Normal / Sport พร้อมระบบ MTS (Multi-Terrain Select) ช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนสมรรถนะของรถให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างกัน
ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) และช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบ (USB type-C 5 ตำแหน่ง, 12V 1 ตำแหน่ง, 220V 1 ตำแหน่ง) ทำให้คุณและผู้โดยสารสามารถชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ตลอดเวลา
ฟีเจอร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการพักผ่อน
มั่นใจทุกเส้นทาง: ระบบความปลอดภัยระดับสูงสุด
ความปลอดภัยคือสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ และ Toyota Hilux TRAVO-e มาพร้อมกับชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ครอบคลุม เพื่อปกป้องคุณและผู้โดยสารในทุกเส้นทาง
ถุงลม (SRS) 7 ตำแหน่ง ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้างคู่หน้า ม่านด้านข้าง และหัวเข่าด้านคนขับ มอบการปกป้องรอบด้านในกรณีที่เกิดการชน
ระบบ Toyota Safety Sense ซึ่งรวมถึง:
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS) ช่วยลดความเสี่ยงของการชน
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDA) พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ ช่วยให้รถอยู่ในเลนอย่างปลอดภัย
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่เวลากลางคืน
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LTA)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control) แบบ All-Speed ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) และ ระบบเตือนขณะถอยรถ (RCTA) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนและการถอยจอด
กล้องรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor) ช่วยให้มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวรถได้อย่างชัดเจน
ระบบเบรก ABS, EBD, BA และ ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, TRC, HAC, DAC, TSC ช่วยให้รถมีการควบคุมที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพถนน
ระบบเตือนการโจรกรรม (TDS) และ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer เพิ่มความอุ่นใจในการจอดรถ
ชุดระบบความปลอดภัยที่ครบครันเหล่านี้ ทำให้ Toyota Hilux TRAVO-e ไม่ใช่แค่ รถกระบะไฟฟ้า ที่ทรงพลัง แต่ยังเป็นพาหนะที่มอบความมั่นใจสูงสุดในทุกการเดินทาง นี่คือมาตรฐานใหม่ของ ความปลอดภัยรถกระบะไฟฟ้า ในปี 2025
บทสรุป: อนาคตของรถกระบะที่พร้อมแล้วสำหรับคุณ
Toyota Hilux TRAVO-e ไม่ได้เป็นเพียงแค่ กระบะไฟฟ้า อีกรุ่นหนึ่งในตลาด แต่เป็นการประกาศศักดาของโตโยต้าในฐานะผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานตำนานความแกร่งของ Hilux เข้ากับนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ล้ำสมัย มอบทั้งพละกำลังที่เหนือชั้น ระยะทางวิ่งที่ใช้งานได้จริง ความทนทานที่ไว้วางใจได้ เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่โดดเด่น
สำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถกระบะ EV ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบวงจร ทั้งในเชิงพาณิชย์ การเดินทางส่วนตัว และการผจญภัย Hilux TRAVO-e คือคำตอบที่ใช่ ด้วยแนวโน้มตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2025 การเป็นเจ้าของ Toyota Hilux TRAVO-e คือการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืน และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร
สัมผัสอนาคตของการขับขี่ ที่ผสานความแกร่งและพลังงานสะอาดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของบทใหม่แห่งวงการกระบะไฟฟ้าไปกับ Toyota Hilux TRAVO-e วันนี้!

