BMW M5 ใหม่ 2025: สืบสานตำนาน 40 ปี สู่มิติใหม่แห่งสมรรถนะไฮบริดเหนือชั้น
ในโลกแห่งยนตรกรรมสมรรถนะสูง ชื่อของ BMW M5 ได้ถูกจารึกไว้ในฐานะสปอร์ตซีดานผู้บุกเบิกและผู้สร้างมาตรฐานมาตลอดสี่ทศวรรษ ตั้งแต่การปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1985 ในฐานะ “รถแข่งสำหรับชีวิตประจำวัน” M5 ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์ที่ผสานความเร้าใจในสนามแข่งเข้ากับความหรูหราและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างลงตัว และในปี 2025 นี้ BMW M5 เจเนอเรชันที่ 7 (G90) ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการนำเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง M HYBRID มาใช้เป็นครั้งแรก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่เป็นการยกระดับพละกำลังและประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของรถยนต์สมรรถนะสูงจาก BMW M ที่พร้อมจะพาผู้ขับขี่ทะยานสู่ประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน
วิวัฒนาการแห่งพลัง: ขุมพลัง M HYBRID ที่ผสานโลกสองใบ
หัวใจสำคัญของ BMW M5 2025 ใหม่ คือระบบส่งกำลัง M HYBRID ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรุ่นนี้ เพื่อมอบสมรรถนะในระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ระบบนี้เป็นการผสานพลังอันดุดันของเครื่องยนต์สันดาปเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันชาญฉลาดได้อย่างไร้รอยต่อ
ภายใต้ฝากระโปรง คือเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.4 ลิตร เทคโนโลยี M TwinPower Turbo อันเป็นเอกลักษณ์ของ BMW M ที่ได้รับการปรับจูนและพัฒนาให้ทรงพลังยิ่งขึ้น โดยสามารถส่งกำลังสูงสุดถึง 430 กิโลวัตต์ หรือ 585 แรงม้า ด้วยแรงบิดมหาศาลที่พร้อมให้คุณพุ่งทะยานได้อย่างรวดเร็วในทุกช่วงความเร็ว เครื่องยนต์ V8 บล็อกนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือผลลัพธ์ของการสั่งสมประสบการณ์และวิศวกรรมขั้นสูงจาก BMW M ที่พิสูจน์ตัวเองแล้วทั้งในสนามแข่งและบนท้องถนน
และนี่คือจุดเปลี่ยนที่แท้จริง: การจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 145 กิโลวัตต์ หรือ 197 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าตัวนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมพละกำลัง แต่ยังมอบแรงบิดในทันทีที่ตอบสนองต่อการกดคันเร่งได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวลอย่างน่าทึ่ง เมื่อรวมกันแล้ว ระบบ M HYBRID มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 535 กิโลวัตต์ หรือ 727 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 1,000 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของรถยนต์สปอร์ตซีดานคันนี้
การส่งถ่ายพละกำลังมหาศาลนี้ลงสู่พื้นถนนเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อรองรับแรงบิดอันมหาศาลและการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว ฉับไว และแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่แบบสบายๆ ในเมือง หรือการทะยานออกตัวอย่างรวดเร็วบนทางหลวง การทำงานของเกียร์ M Steptronic ก็ราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลลัพธ์ที่ได้คืออัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 3.5 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับรถซีดานขนาดใหญ่ และความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดไว้ที่ 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เมื่อติดตั้ง M Driver’s Package) ซึ่งสามารถปลดล็อกได้ที่ศูนย์บริการบีเอ็มดับเบิลยูหลังจากการขับขี่ตามเงื่อนไขที่กำหนด
เทคโนโลยี M HYBRID ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาเสริม แต่ยังเป็นการนำเทคโนโลยีสุดล้ำจากรถแข่งแบบ endurance ของ BMW มาปรับใช้ เพื่อให้ตัวรถตอบสนองต่อทุกสัมผัสคันเร่งได้อย่างทันท่วงที มอบการควบคุมที่เฉียบคมและแม่นยำในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตยังได้รับการปรับแต่งมาอย่างประณีต เพื่อมอบเสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ทรงพลังและดุดัน สมกับสมรรถนะของ BMW M5 พร้อมด้วยปลายท่อไอเสียในสี Black Chrome ขนาด 100 มิลลิเมตร ที่สะดุดตาและเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตได้อย่างลงตัว
ในโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน (ELECTRIC mode) BMW M5 ใหม่ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องการความเงียบสงบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ระบบ BMW IconicSounds Electric ยังสามารถสร้างเสียงเครื่องยนต์ที่เพลินหู ตอบสนองต่อทุกการควบคุม แม้ในขณะที่ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า ทำให้ประสบการณ์การขับขี่ยังคงเต็มไปด้วยอารมณ์และสัมผัสแห่งความเป็น BMW M ไม่ว่าจะในโหมดใดก็ตาม
วิศวกรรมช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน: รากฐานแห่งความเหนือชั้น
พละกำลังมหาศาลจะไร้ความหมายหากขาดการควบคุมที่แม่นยำ BMW M5 2025 ใหม่ จึงมาพร้อมเทคโนโลยีแชสซีขั้นสูงที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถันให้เข้ากับสมรรถนะของตัวรถโดยเฉพาะ ทำให้รถคันนี้เร็ว แรง และนิ่งกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกันอย่างเห็นได้ชัด
หัวใจหลักของระบบขับเคลื่อนคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ซึ่งได้รับการปรับแต่งให้เน้นการส่งกำลังไปยังล้อหลังเป็นหลัก เพื่อคงเอกลักษณ์การขับขี่แบบสปอร์ตของ BMW M ไว้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกเปิดใช้งานโหมด 2WD เพื่อส่งกำลังไปยังล้อหลังเท่านั้น พร้อมปิดระบบ DSC (Dynamic Stability Control) เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ฉับไวและเร้าใจที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยศักยภาพของรถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้ในสนามแข่งหรือบนถนนที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ระบบพวงมาลัยแบบ M Servotronic ยังให้การตอบสนองที่คมชัดและแม่นยำ ควบคุมง่ายในทุกย่านความเร็ว ในขณะที่ระบบบังคับเลี้ยวแบบสี่ล้อ Integral Active Steering ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ และเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง ทำให้การเข้าโค้งเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจยิ่งขึ้น
ช่วงล่าง Adaptive M ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับสมรรถนะระดับ M ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถกำหนดลักษณะการขับขี่ของ BMW M5 ใหม่ ได้ในทุกมิติ โดยสามารถเลือกได้ระหว่างการเสริมความสะดวกสบายสำหรับการเดินทางไกล หรือเน้นสมรรถนะสูงสุดสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต มอบความยืดหยุ่นที่ตอบสนองทุกความต้องการในแต่ละทริปได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การออกแบบภายนอก: ความสง่างามที่แฝงด้วยความดุดัน
BMW M5 2025 ใหม่ ยังคงรักษาปรัชญาการออกแบบของ BMW M ที่ผสานความสง่างามเข้ากับความดุดันของรถสปอร์ตสมรรถนะสูงได้อย่างลงตัว ทุกเส้นสายบนตัวถังไม่ได้มีเพียงความสวยงาม แต่ยังเปี่ยมด้วยฟังก์ชันการทำงานด้านอากาศพลศาสตร์
ด้านหน้าของรถโดดเด่นด้วยกันชนหน้าที่มีเส้นสายบึกบึน ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ BMW ก็ได้รับการปรับโฉมให้เข้ากับบุคลิกของ M5 เจเนอเรชันใหม่ สะท้อนถึงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ภายใน
ด้านข้างของรถเผยให้เห็นซุ้มล้อที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสเกิร์ตข้างที่โดดเด่นสะดุดตา ไม่เพียงเพื่อความสวยงาม แต่ยังรองรับล้ออัลลอยน้ำหนักเบาแบบ M ดีไซน์ Double spoke สีดำ ขนาด 20 นิ้วที่คู่หน้า และ 21 นิ้วที่คู่หลัง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความดุดันและสมรรถนะสูงของรถยนต์คันนี้ โลโก้ “M5” ที่ประทับนูนอยู่บนส่วน Hofmeister kink ที่เสา C ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงสายเลือด M ที่แท้จริง
ด้านท้ายของรถได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยกันชนหลังที่แข็งแกร่ง ดิฟฟิวเซอร์ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ และปลายท่อไอเสีย Black Chrome ขนาดใหญ่ทั้งสี่ตำแหน่ง ตอกย้ำถึงความสปอร์ตที่แท้จริง ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ยังช่วยเพิ่มความทันสมัยและโดดเด่นให้กับ BMW M5 ใหม่ คันนี้
ห้องโดยสารภายใน: ผสานความหรูหราเข้ากับเทคโนโลยี M ที่ล้ำสมัย
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ BMW M5 2025 ใหม่ คุณจะพบกับการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ทุกองค์ประกอบได้รับการคัดสรรและออกแบบมาสำหรับรถยนต์ตระกูล M โดยเฉพาะ เพื่อเน้นย้ำถึงบุคลิกหลากมิติที่ผสานความหรูหราและแรงเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
พวงมาลัยหนัง M ดีไซน์ใหม่ในรูปทรงตัดขอบล่าง พร้อมปุ่ม M แบบมีไฟส่องสว่าง ไม่เพียงแต่ให้การจับกระชับมือ แต่ยังเป็นศูนย์กลางการควบคุมที่สำคัญ ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงการตั้งค่าสมรรถนะต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส เบาะนั่ง M multifunction ที่หุ้มด้วยหนัง Merino มาเป็นมาตรฐาน มอบการรองรับที่ยอดเยี่ยมและสบายในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะในการขับขี่ทางไกลหรือการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
จอแสดงผลโค้ง BMW Curved Display ขนาดใหญ่ รองรับการแสดงข้อมูลเฉพาะสำหรับรถยนต์ตระกูล M ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ M-specific, เกจวัดแรงบูสต์, อุณหภูมิยาง, หรือข้อมูลประสิทธิภาพอื่นๆ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ข้อมูลที่สำคัญได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน ระบบควบคุม BMW iDrive เวอร์ชันอัปเกรด เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถโต้ตอบกับระบบต่างๆ ของรถผ่านการสัมผัสและการสั่งด้วยเสียงได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ
บรรยากาศภายในห้องโดยสารยังโอ่อ่าและหรูหราด้วยระบบควบคุม BMW Interaction Bar ซึ่งเป็นพื้นผิวคริสตัลที่มีไฟส่องสว่าง ตอบสนองต่อการสัมผัส และเพิ่มความพรีเมียมให้กับห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศแบบ 4 โซน ช่วยให้ผู้โดยสารแต่ละคนสามารถตั้งอุณหภูมิที่ต้องการได้ ชุดไฟห้องโดยสารที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับรถยนต์ตระกูล M ช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์และปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์
ด้านความสะดวกสบายและความบันเทิง BMW M5 ใหม่ ยังมาพร้อมระบบเสียง Bowers & Wilkins Surround Sound คุณภาพสตูดิโอ ที่มอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงและเต็มอิ่ม แท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน ระบบ Comfort Access ที่ช่วยให้การเข้า-ออกรถเป็นไปอย่างง่ายดาย และระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความหรูหราและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
แผงควบคุมบนคอนโซลกลางของ BMW M5 ใหม่ ประกอบด้วยปุ่มควบคุมฟังก์ชันเฉพาะรุ่นมากมายที่พร้อมให้ผู้ขับขี่ใช้ปรับแต่งการทำงานของตัวรถในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโหมดทำงานของเครื่องยนต์, ระบบ Drivelogic (การตอบสนองของเกียร์), ช่วงล่าง, พวงมาลัย, เบรก, หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive รวมถึงระดับการทำงานของระบบสร้างพลังงานคืนจากเบรก (brake energy regeneration) ผู้ขับขี่ยังสามารถเซฟการตั้งค่าที่ชอบเป็นพรีเซ็ตได้ถึงสองแบบ เพื่อเรียกใช้งานได้ทันทีผ่านปุ่ม M บนพวงมาลัย เพิ่มความสะดวกสบายและปรับแต่งการขับขี่ให้เข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่จากโหมด ROAD ซึ่งเป็นโหมดมาตรฐาน เป็น SPORT ระบบจะจำกัดการทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้เหลือเฉพาะระบบที่จำเป็น เพื่อรีดเอาความสปอร์ตขั้นสุดออกมา รวมถึงการปรับรูปแบบการแสดงผลบนหน้าจอให้เน้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่สมรรถนะสูงโดยเฉพาะ
เทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่: อัจฉริยะเพื่อการปกป้อง
BMW M5 ใหม่ ยกระดับความมั่นใจและความสะดวกสบายในการขับขี่ประจำวันขึ้นไปอีกขั้น ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบช่วยจอดอัตโนมัติที่หลากหลายและครบครัน พร้อมระบบมาตรฐานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยี
ระบบ Driving Assistance Professional: ชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ครอบคลุมการทำงานหลากหลายด้าน อาทิ:
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Front Collision Warning): ช่วยลดความเสี่ยงของการชนด้วยการแจ้งเตือนและเตรียมความพร้อมของระบบเบรก
ระบบเตือนการออกนอกเลน (Lane Departure Warning): สามารถพารถกลับเข้าเลนด้วยการช่วยบังคับพวงมาลัย ทำให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น
ระบบช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง (Evasion Assistant): ช่วยในการบังคับเลี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกับสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดขึ้น
ระบบตรวจจับความตื่นตัวของผู้ขับขี่ (Driver Attentiveness Assistant): คอยตรวจสอบความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่และแนะนำให้หยุดพัก
ระบบแสดงความเร็วจำกัด (Speed Limit Info): แสดงข้อมูลจำกัดความเร็วบนหน้าจอ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจร
ฟังก์ชัน Parking Assistant Professional และ Reversing Assistant: จะช่วยให้ผู้ขับขี่จัดการกับทุกพื้นที่จอดรถได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าจอดในพื้นที่คับแคบ หรือการถอยออกจากพื้นที่จำกัด ระบบเหล่านี้จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ
ปุ่ม M Hybrid ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรุ่นนี้ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดการทำงานของระบบไฮบริดได้อย่างอิสระ:
โหมด HYBRID: ผสมผสานพละกำลังจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด เพื่อเสริมทั้งความประหยัดพลังงานและสมรรถนะให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในแต่ละขณะ
โหมด ELECTRIC: จะใช้งานเครื่องยนต์สันดาปเฉพาะเมื่อผู้ขับเหยียบคันเร่งจนสุด หรือใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์เท่านั้น เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องการความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยมลพิษ
โหมด eCONTROL: เน้นการดึงพลังงานคืนจากระบบเบรก (brake energy regeneration) เพื่อรักษาระดับแบตเตอรี่ให้คงที่สำหรับการใช้งานพลังงานไฟฟ้าในภายหลัง
เมื่อกดปุ่ม DSC ตัวรถจะเปิดใช้งาน M Dynamic Mode ซึ่งระบบ DSC จะช่วยควบคุมระบบเบรกและลดกำลังเครื่องยนต์ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างเต็มที่ในขณะที่ยังคงมีระบบความปลอดภัยคอยช่วยเหลือ หรืออาจเลือกปิดการทำงาน DSC โดยสมบูรณ์ก็ได้เช่นกัน สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่บริสุทธิ์และท้าทายที่สุด
นอกจากนี้ ระบบ M Drive Professional ยังเปิดให้ผู้ขับขี่เลือกโหมด TRACK ซึ่งเป็นโหมดที่ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งโดยเฉพาะ พร้อมใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมที่เน้นการขับขี่ที่ระดับสมรรถนะสูงสุดอย่าง M Laptimer สำหรับบันทึกเวลาต่อรอบ และ Boost Control ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวและเร่งแซง
ราคาและความคุ้มค่า: นิยามใหม่ของรถยนต์สปอร์ตซีดานหรู
BMW M5 2025 ใหม่ พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์แห่งสุดยอดสมรรถนะและเทคโนโลยีในราคาเริ่มต้น 12,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard) และสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับประสิทธิภาพการเบรกไปอีกขั้น ก็มีตัวเลือกในราคา 13,699,000 บาท ซึ่งมาพร้อมกับระบบเบรกเซรามิกสมรรถนะสูง ที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถ แต่ยังลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานในการใช้งานหนักอีกด้วย
การเป็นเจ้าของ BMW M5 2025 ไม่ใช่เพียงแค่การได้ครอบครองรถยนต์สปอร์ตซีดานที่เร็วและแรงที่สุดคันหนึ่งในตลาด แต่เป็นการลงทุนในวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุด ที่ผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีแห่งอนาคตเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นและน่าจดจำในทุกเส้นทาง
ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง BMW M5 2025 ใหม่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ารถยนต์สมรรถนะสูงยังคงสามารถวิวัฒนาการต่อไปได้ ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยไม่ลดทอน DNA แห่งความเร้าใจและความเป็นที่สุดของ BMW M เลยแม้แต่น้อย นี่คือรถยนต์ที่จะเข้ามาสร้างตำนานบทใหม่ และเป็นนิยามของคำว่า “Ultimate Driving Machine” ที่แท้จริงในทศวรรษหน้า.
