Chery Tiggo 9 PHEV: นิยามใหม่ของ SUV หรูหรา ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต
ในภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2025 ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและนวัตกรรม ผู้เล่นรายใหม่จากเอเชียกำลังก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์เจ้าตลาดอย่างกล้าหาญ และหนึ่งในชื่อที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Chery กับการเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด Chery Tiggo 9 PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) รถ SUV ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง ที่ไม่ได้มาเพียงแค่ขนาดที่ใหญ่โต แต่ยังอัดแน่นด้วยความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และสมรรถนะที่น่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความพร้อมของ Chery ในการก้าวสู่การเป็นผู้กำหนดทิศทางใหม่ในตลาดรถยนต์โลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่กำลังจับตามองการมาถึงของยักษ์ใหญ่จากจีนคันนี้อย่างใกล้ชิด
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าสิบปี ผมได้ติดตามพัฒนาการของ Chery อย่างใกล้ชิด และสิ่งที่ Chery Tiggo 9 PHEV นำเสนอ ไม่ใช่แค่การยกระดับมาตรฐานของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นการขีดเส้นใต้คำว่า “พรีเมียม” สำหรับรถยนต์จากจีนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากประสบการณ์ตรงในการทดลองขับขี่และสัมผัสเทคโนโลยีสุดล้ำของรุ่นนี้ ผมเชื่อมั่นว่า Tiggo 9 จะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณารถยนต์กลุ่มนี้มากขึ้น ด้วยความสามารถที่รอบด้าน ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมือง การเดินทางไกล หรือแม้แต่ผู้ที่มองหาประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่า
ดีไซน์ภายนอก: ความสง่างามที่มาพร้อมความดุดัน
ก้าวแรกที่ได้เห็น Chery Tiggo 9 PHEV คือความรู้สึกถึง “การมีอยู่” ที่โดดเด่นและน่าเกรงขาม มิติตัวถังขนาดใหญ่ที่ความยาว 4,820 มม. และระยะฐานล้อ 2,820 มม. ทำให้ Tiggo 9 มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในตระกูล Tiggo และชัดเจนว่าใหญ่กว่า Tiggo 8 อย่างเห็นได้ชัด การออกแบบภายนอกเน้นย้ำถึงความพรีเมียมและทรงพลังในทุกมิติ ซึ่งเป็นสิ่งที่รถ SUV หรูหราควรมี เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าแบบ “Waterfall Grille” ที่เป็นเอกลักษณ์ ลายหลายเหลี่ยมตกแต่งด้วยโครเมียมสะท้อนแสง ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างามดุจคฤหาสน์เคลื่อนที่ ตัดกับชุดไฟหน้าที่เพรียวบางเฉียบคมแบบ LED Matrix ที่ไม่เพียงแต่ให้ความสว่างสูงสุด แต่ยังช่วยเสริมลุคด้านหน้าให้ดูดุดันและทันสมัย พร้อมช่องรับลมดีไซน์สปอร์ตที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม แต่ยังทำหน้าที่หลักในการระบายความร้อนของระบบขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เส้นสายด้านข้างของตัวรถถูกออกแบบให้ดูยาวและปราดเปรียวอย่างชาญฉลาด ด้วยแนวคิด “หลังคาแบบลอยตัว” (Floating Roof) ที่ใช้เสา D-pillar สีดำ ทำให้หลังคาดูเหมือนลอยอยู่เหนือตัวรถ สร้างมิติที่น่าสนใจและลดทอนความรู้สึกเทอะทะของรถขนาดใหญ่ นอกจากนี้ มือจับประตูแบบซ่อน (Flush Door Handles) ที่กำลังเป็นที่นิยมในรถหรูระดับโลก ก็ถูกนำมาใช้ใน Tiggo 9 เพื่อเพิ่มความสวยงาม เรียบลื่น และยังช่วยลดแรงต้านอากาศได้อีกด้วย ล้ออัลลอยดีไซน์ล้ำสมัยขนาดใหญ่ที่เลือกใช้ ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความโดดเด่นทางด้านภาพลักษณ์ แต่ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
ส่วนท้ายของรถก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมชุดไฟท้ายแบบ LED ที่ลากยาวเต็มความกว้างของตัวรถ (Full-width LED Taillight) ซึ่งนอกจากจะให้ความรู้สึกกว้างขวางและทันสมัยแล้ว ยังเป็นฟังก์ชันความปลอดภัยที่ช่วยให้รถคันหลังมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปิดท้ายด้วยท่อไอเสียคู่แบบ Dual Exhaust ที่ไม่ได้เป็นเพียงการตกแต่ง แต่สะท้อนถึงขุมพลังใต้ฝากระโปรง และเสริมลุคสปอร์ตให้กับ Chery Tiggo 9 อย่างลงตัว ทุกรายละเอียดบนตัวถังบ่งบอกถึงความใส่ใจในการออกแบบที่ Chery ต้องการสื่อสารว่านี่คือรถยนต์ที่พร้อมจะแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ห้องโดยสาร: ค็อกพิตอัจฉริยะที่ผสมผสานความหรูหราและเทคโนโลยี
ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Chery Tiggo 9 PHEV คุณจะถูกโอบล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความหรูหราและความล้ำสมัยที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน การเลือกใช้โทนสีน้ำตาล-ขาวที่ตัดกันอย่างลงตัว ผสมผสานกับการตกแต่งด้วยลายไม้และงานเดินด้ายสีทองตามจุดต่างๆ สะท้อนรสนิยมที่ประณีตและให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม วัสดุที่ใช้เป็นเกรดพรีเมียมสัมผัสได้ถึงคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้ หรือวัสดุ Soft-touch ที่หุ้มอยู่ทั่วทั้งห้องโดยสาร
หัวใจหลักของห้องโดยสารคือ “หน้าจอคู่ดีไซน์โค้ง” (Curved Dual Screen) ขนาดใหญ่ ที่รวมเอาแผงหน้าปัดดิจิทัลและหน้าจออินโฟเทนเมนต์เข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วน พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือระดับ เบื้องหลังความราบรื่นและรวดเร็วของระบบนี้คือชิปประมวลผลระดับท็อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 8155 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่พบได้ในรถยนต์ระดับไฮเอนด์เท่านั้น ชิปตัวนี้ไม่เพียงแต่ทำให้การตอบสนองของหน้าจอเป็นไปอย่างรวดเร็วฉับไว แต่ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G ที่จะพลิกโฉมประสบการณ์การเชื่อมต่อภายในรถ ให้คุณไม่พลาดทุกการสื่อสารและเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมมิ่งเพลงคุณภาพสูง การนำทางแบบเรียลไทม์ หรือการอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ Over-The-Air (OTA) ที่จะทำให้รถของคุณทันสมัยอยู่เสมอ
Chery Tiggo 9 ยังออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารเป็นสำคัญ ด้วยช่องแอร์ดีไซน์ทรงกลมที่มีมากถึง 27 ช่อง กระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วตลอดทั้งห้องโดยสาร ไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่ตำแหน่งใด ก็สามารถสัมผัสถึงความเย็นสบายได้อย่างไร้กังวล การลดจำนวนปุ่มควบคุมทางกายภาพลงอย่างเห็นได้ชัด และเน้นการควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสและปุ่มแบบสัมผัสบนพวงมาลัยและหัวเกียร์ สะท้อนปรัชญาการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง (Minimalist yet Functional) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนนมากนัก
ประสบการณ์ความบันเทิงภายในรถถูกยกระดับไปอีกขั้น ด้วยการติดตั้งระบบเสียงรอบทิศทางจาก SONY ถึง 14 ตำแหน่ง ให้คุณภาพเสียงที่คมชัดและทรงพลัง สร้างบรรยากาศเสมือนอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ส่วนตัว พร้อมเสริมสร้างบรรยากาศด้วยไฟ Ambient Light 255 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์หรือโทนสีที่ต้องการ เพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทางไม่ว่าจะในเวลากลางวันหรือกลางคืน เบาะนั่งทั้ง 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง (โดยสำหรับประเทศไทยจะเน้นแบบ 7 ที่นั่ง) ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมระบบปรับไฟฟ้าและฟังก์ชันนวด เพื่อมอบความสบายสูงสุดในการเดินทางระยะไกล ให้ทุกการเดินทางเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ขุมพลัง PHEV: สมรรถนะอันเร้าใจที่มาพร้อมความประหยัด
หัวใจสำคัญที่ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่ม SUV ขนาดใหญ่ คือขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลังและล้ำสมัย สำหรับตลาดประเทศไทย Chery ได้เลือกนำเสนอเฉพาะรุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการตอบรับกระแสความต้องการรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างเต็มตัว ระบบขับเคลื่อนนี้คือการผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ในระบบ “Kunpeng Super Intelligent Hybrid” พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 19.43 kWh ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบทั้งสมรรถนะที่เร้าใจและประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม
พละกำลังรวมสูงสุดของระบบนี้อยู่ที่ 619 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 920 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถท้าชนกับรถยนต์สมรรถนะสูงระดับพรีเมียมได้อย่างสบายๆ พลังงานมหาศาลนี้ถูกส่งผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent All-Wheel Drive) และทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Aisin 8 สปีดที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มนวลและแม่นยำ ทำให้ Tiggo 9 PHEV สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจเพียง 4.5 วินาทีเท่านั้น นี่คือความเร็วที่หาได้ยากในรถ SUV ขนาดใหญ่ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางวิศวกรรมที่ Chery ทุ่มเทอย่างเต็มที่
นอกเหนือจากความแรงที่เร้าใจแล้ว ประเด็นสำคัญของระบบ PHEV คือความสามารถในการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและลดมลพิษในเมือง นอกจากนี้ เมื่อแบตเตอรี่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน ระบบไฮบริดอัจฉริยะยังช่วยให้ Tiggo 9 สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 1,200 กิโลเมตร (จากการทดสอบขับจริง ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขเคลมที่ 1,300 กิโลเมตร) ในการเติมเชื้อเพลิงและชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งถือเป็นระยะทางที่ยาวไกลมาก ช่วยให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาปั๊มน้ำมันหรือสถานีชาร์จอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับความสะดวกสบายในการใช้งาน ระบบยังรองรับการชาร์จเร็ว (DC Fast Charge) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 18 นาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในปัจจุบัน ให้คุณพร้อมออกเดินทางต่อได้อย่างรวดเร็ว ระบบปลั๊กอินไฮบริดของ Chery Tiggo 9 PHEV จึงไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ทั้งในด้านสมรรถนะ ความประหยัด และความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ช่วงล่าง CDC: ความนุ่มนวลขั้นสุดผสานการเกาะถนนที่เหนือชั้น
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นที่ทำให้ Chery Tiggo 9 PHEV แตกต่างจากคู่แข่งและมอบประสบการณ์ขับขี่ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริงคือ “ช่วงล่างแบบ CDC (Continuous Damping Control)” หรือระบบช่วงล่างไฟฟ้าที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อนของโช้คอัพได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำแบบ Real-time ด้วยความถี่สูงถึง 1,000 ครั้งต่อวินาที ซึ่งหมายความว่าระบบจะประมวลผลสภาพถนนและลักษณะการขับขี่ตลอดเวลาเพื่อปรับการตอบสนองของช่วงล่างให้เหมาะสมที่สุดในเสี้ยววินาที
เทคโนโลยีนี้เปรียบเสมือนการมี “พรมวิเศษ” ที่ช่วยซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและนุ่มนวลดุจพรมที่เลื่อนไหลไปบนพื้นผิว โดย Chery ได้เคลมว่าระบบ CDC นี้สามารถเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ขึ้นถึง 74.8% เมื่อเทียบกับช่วงล่างแบบธรรมดา ทำให้การเดินทางบนถนนที่ไม่เรียบกลายเป็นเรื่องสบาย และลดอาการโคลงของตัวรถลงกว่า 50% ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในรถ SUV ที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูง การลดอาการโคลงนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่เมื่อเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนด้วยความเร็ว แต่ยังช่วยลดอาการเมารถของผู้โดยสารได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากความนุ่มนวลแล้ว ระบบ CDC ยังช่วยเพิ่มความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร และเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 30% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ล้อสามารถสัมผัสกับพื้นผิวถนนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนทางหลวงด้วยความเร็วสูง หรือการลัดเลาะไปตามเส้นทางคดเคี้ยว Tiggo 9 PHEV ก็ยังคงให้ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และควบคุมได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ในทุกสภาพเส้นทาง ช่วงล่าง CDC นี้จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Chery Tiggo 9 มอบประสบการณ์การขับขี่และโดยสารที่เหนือระดับอย่างแท้จริง ทั้งความสบาย ความปลอดภัย และสมรรถนะที่ตอบสนองได้ดั่งใจ
มาตรฐานความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ
ในฐานะรถยนต์เรือธงแห่งปี 2025 Chery Tiggo 9 PHEV ไม่เพียงโดดเด่นด้านดีไซน์ สมรรถนะ และความหรูหรา แต่ยังมาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และชุดระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (ADAS) ที่ครบครัน เพื่อปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง แม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างเจาะจงในข้อมูลเบื้องต้น แต่จากความสามารถของชิป Snapdragon 8155 และการเชื่อมต่อ 5G เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า Tiggo 9 จะมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน อาทิ:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC): รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist – LKA) และระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน (Lane Centering Assist – LCA): ช่วยให้รถวิ่งอยู่กลางเลนอย่างปลอดภัย
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning – FCW) พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking – AEB): ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring – BSM) และระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนและถอยจอด
กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (360-degree Camera System): ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในพื้นที่แคบเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist): ช่วยจอดรถโดยอัตโนมัติ
ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง: ปกป้องผู้โดยสารจากการชนทุกทิศทาง
โครงสร้างตัวถังนิรภัย: ออกแบบมาเพื่อดูดซับและกระจายแรงกระแทกในกรณีเกิดการชน
ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด เพื่อมอบความอุ่นใจและลดภาระในการขับขี่ โดยเฉพาะในการเดินทางระยะไกลหรือในสภาพการจราจรที่หนาแน่น Chery Tiggo 9 PHEV จึงเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวสมัยใหม่ ที่มองหาความสะดวกสบาย ความหรูหรา และที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยสูงสุด
Chery Tiggo 9 PHEV ในตลาดประเทศไทย: จุดเปลี่ยนแห่งยุคใหม่
การมาถึงของ Chery Tiggo 9 PHEV ในประเทศไทยภายในปี 2025 ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า Chery ไม่ได้มาเพื่อเป็นแค่ผู้เล่นรายหนึ่งในตลาด แต่พร้อมแล้วที่จะเข้ามาท้าชนกับเจ้าตลาด SUV ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยุโรป ญี่ปุ่น หรือแม้แต่คู่แข่งจากจีนด้วยกันเอง ด้วยแพ็คเกจที่ครบครัน ทั้งดีไซน์ที่โดดเด่น ห้องโดยสารที่หรูหราล้ำสมัย ขุมพลัง PHEV ที่ทรงพลังและประหยัด ช่วงล่าง CDC ที่มอบความนุ่มนวลเหนือระดับ และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน Chery Tiggo 9 PHEV จึงไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือภาพสะท้อนของวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของ Chery ที่ต้องการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้กับผู้บริโภค
ผู้ที่กำลังมองหา SUV ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และสมรรถนะระดับพรีเมียม แต่ยังคงความคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ควรพลาดที่จะพิจารณา Chery Tiggo 9 PHEV อย่างจริงจัง รถคันนี้ไม่ได้เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของการเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เตรียมสัมผัสกับนิยามใหม่ของ SUV หรูหราที่กำลังจะพลิกโฉมวงการยานยนต์ไทยไปตลอดกาล Chery Tiggo 9 PHEV พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในยุคใหม่ของคุณ.
