Leapmotor B10 เตรียมสั่นสะเทือนตลาด B-SUV ไฟฟ้าไทย: น้องเล็กพิกัดยอดนิยมพร้อมเปิดตัว ตุลาคม 2025
Leapmotor B10 (2025) จะเป็นอย่างไร?
Leapmotor (ลีพมอเตอร์) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนภายใต้การดูแลของ PNA Group (พระนครยนตรการ) ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย และยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Stellantis กำลังจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเมืองไทยอีกครั้ง ด้วยการเตรียมเปิดตัว Leapmotor B10 รถยนต์ไฟฟ้าพิกัด B-SUV รุ่นใหม่ล่าสุด ที่คาดว่าจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในเดือนตุลาคม 2568 นี้ หลังจากที่รุ่นพี่อย่าง Leapmotor C10 ได้เข้ามาสร้างความประทับใจด้วยเทคโนโลยีช่วงล่างที่ได้รับการปรับจูนจากทีมวิศวกร Maserati มาแล้ว การมาของ B10 ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ จึงถูกจับตามองว่าจะสามารถจุดประกายยอดขายและสร้างกระแสในตลาด B-SUV ไฟฟ้า ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในปัจจุบันได้อย่างไร
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่า Leapmotor B10 ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั่วไป แต่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของ Leapmotor ในการขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์ B-SUV ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีผู้เล่นมากหน้าหลายตา บทความนี้จะเจาะลึกทุกรายละเอียดของ Leapmotor B10 เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าทำไมรถยนต์คันนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับปี 2025
เจาะลึกดีไซน์และมิติตัวถัง: B-SUV ที่ลงตัวสำหรับการใช้งานในเมืองและชีวิตประจำวัน
Leapmotor B10 มาพร้อมมิติตัวถังที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในเมืองที่มีความคล่องตัวสูง ในขณะเดียวกันก็ยังคงความกว้างขวางและสะดวกสบายในสไตล์ SUV ได้อย่างลงตัว ด้วยความยาว 4,515 มิลลิเมตร, กว้าง 1,885 มิลลิเมตร และสูง 1,655 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,735 มิลลิเมตร และระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 170 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดที่กำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่น หรือการหาที่จอดรถในพื้นที่จำกัดเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับรุ่นพี่อย่าง Leapmotor C10 (ยาว 4,739 มม. | กว้าง 1,900 มม. | สูง 1,680 มม. | ฐานล้อ 2,825 มม.) จะเห็นได้ว่า B10 มีขนาดที่กะทัดรัดกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับพิกัด B-SUV ที่เน้นความคล่องตัวเป็นหลัก แต่ถึงแม้จะ “เล็กกว่า” ในด้านขนาดภายนอก แต่การออกแบบภายในของ B10 ได้รับการจัดวางอย่างชาญฉลาด เพื่อมอบพื้นที่ใช้สอยที่คุ้มค่าสูงสุดแก่ผู้โดยสารและสัมภาระ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวัน หรือการออกทริปพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ ก็สามารถรองรับได้อย่างสบาย ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานที่เป็นคนโสด คู่รัก หรือครอบครัวขนาดเล็กที่กำลังมองหารถยนต์ EV ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว
ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต: แรง ประหยัด และวิ่งได้ไกล
หัวใจสำคัญของ Leapmotor B10 คือขุมพลังไฟฟ้าที่ได้รับการพัฒนามาอย่างโดดเด่น มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ขับขี่
รุ่น LIFE 56.2 kWh:
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมือง ให้การเร่งแซงที่มั่นใจ
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (LFP) จาก CATL ขนาดความจุ 56.2 kWh แบตเตอรี่ LFP มีจุดเด่นด้านความปลอดภัย อายุการใช้งานที่ยาวนาน และความเสถียร
สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 470 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นระยะทางที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8 วินาที และความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง มอบสมรรถนะที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ EV ในพิกัดนี้
รุ่น STYLE / DESIGN 67.1 kWh:
ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) เช่นกัน ให้พละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร เท่ากับรุ่น LIFE
อัพเกรดแบตเตอรี่เป็น Lithium-ion (LFP) จาก CATL ขนาดความจุ 67.1 kWh ซึ่งให้ระยะทางที่ไกลยิ่งขึ้น
วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 516 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางไกลได้มากยิ่งขึ้น เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทางข้ามจังหวัด
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8 วินาที และความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยังคงให้สมรรถนะการขับขี่ที่สนุกและตอบสนองได้ดี
การเลือกใช้แบตเตอรี่ LFP จาก CATL ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าของโลก ยิ่งตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Leapmotor ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ให้กับผู้บริโภคชาวไทย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับผู้ใช้งานรถ EV
ช่วงล่างและระบบควบคุม: มั่นใจทุกการเดินทาง
Leapmotor B10 ไม่ได้มีดีแค่พลังงานไฟฟ้า แต่ยังให้ความสำคัญกับช่วงล่างและระบบควบคุม เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า
ล้ออัลลอย Star Sports ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R18 ไม่เพียงแค่เสริมความสปอร์ตให้กับรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ MacPherson Strut และ ช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบ 4-Links เป็นการผสมผสานที่ลงตัว ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม และให้ความมั่นคงในการเข้าโค้ง มั่นใจได้ในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องเจอทางขรุขระ หรือการเดินทางบนไฮเวย์ที่ต้องการความนิ่งและเสถียรภาพ
การชาร์จไฟฟ้าที่รวดเร็วและสะดวกสบาย: ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
ในยุคที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องการความสะดวกสบายสูงสุดในการชาร์จไฟ Leapmotor B10 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
การชาร์จกระแสสลับ AC: รองรับสูงสุด 11 kW ทำให้การชาร์จไฟที่บ้านเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น สามารถชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืนและพร้อมใช้งานเต็มที่ในตอนเช้า
การชาร์จกระแสตรง DC Fast Charging: เป็นจุดเด่นที่สำคัญ
รุ่น LIFE 56.2 kWh รองรับสูงสุด 140 kW
รุ่น STYLE / DESIGN 67.1 kWh รองรับสูงสุด 168 kW
ด้วยกำลังการชาร์จที่สูงนี้ ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80% ได้ภายในเวลาเพียง 18-20 นาทีเท่านั้น ซึ่งช่วยลดเวลาการรอคอยที่สถานีชาร์จสาธารณะได้อย่างมาก ทำให้การเดินทางไกลด้วยรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอีกต่อไป
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L (Vehicle-to-Load): สูงสุด 3.3 kW เป็นฟังก์ชันที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ Leapmotor B10 ได้อย่างมาก ช่วยให้คุณสามารถใช้พลังงานจากรถยนต์เพื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นการไปตั้งแคมป์ การจัดปาร์ตี้นอกสถานที่ หรือแม้แต่เป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉินในบ้าน ฟังก์ชันนี้จะเข้ามาเปลี่ยนประสบการณ์การใช้รถยนต์ EV ให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
ห้องโดยสารอัจฉริยะ: หรูหรา สะดวกสบาย และเชื่อมต่อได้ทุกมิติ
ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Leapmotor B10 คุณจะสัมผัสได้ถึงความพรีเมียมและความล้ำสมัยที่ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว
หลังคากระจก Panoramic Roof แบบ Fixed พร้อมม่านบังแดดที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย และรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์และดีต่อสุขภาพของผู้โดยสาร
ระบบกุญแจ Bluetooth และ NFC Card มอบความสะดวกสบายในการเข้า-ออกรถได้อย่างไร้รอยต่อ
เบาะนั่งโครงสร้าง 7 ชั้นที่ได้รับการรับรอง OEKO-TEX Certification เบาะนั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อความสบายสูงสุด ผิวสัมผัสที่นุ่มนวล และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า แต่ในรุ่นท็อปจะได้เบาะหนัง ECO Leather ที่ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ (Ventilation Seats) และระบบอุ่น (Heated Seats) ช่วยให้การเดินทางไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบใดก็สบาย
เบาะนั่งด้านหลัง สามารถแยกพับอิสระ 60:40 และพับได้เรียบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้อย่างมหาศาล รองรับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขนของชิ้นใหญ่ หรือการเดินทางพร้อมอุปกรณ์กีฬา
ดีไซน์ภายในที่ทันสมัย: แผงประตูบุนุ่ม พร้อมช่องแอร์ตกแต่งด้วยโครเมียม พวงมาลัยแบบสปอร์ตสีทูโทนพร้อมสวิตช์ควบคุมบนพวงมาลัย
หน้าจอแสดงข้อมูลและการควบคุม:
จอมาตรวัด Full Digital LCD แบบสี ขนาด 8.8 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างชัดเจน
หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touchscreen ขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว ความละเอียด 2.5K มอบภาพที่คมชัดและสีสันสดใส รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (Wireless) ที่จะเริ่มใช้งานได้ในเดือนธันวาคม 2025 เป็นการยืนยันว่า Leapmotor B10 จะเป็นรถยนต์ที่พร้อมสำหรับการเชื่อมต่อในทุกมิติ
ระบบแผนที่นำทาง Here Map ที่มีความแม่นยำสูง
ลำโพง 6 ตำแหน่ง (รุ่นท็อปได้ 12 ตำแหน่ง) มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัด
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ: ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) 15W และช่องชาร์จ USB Type C 60W มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณจะพร้อมใช้งานเสมอ
รุ่นย่อยที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ:
Leapmotor B10 เวอร์ชั่นไทย (นำเข้า CBU จากจีน) มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน:
B10 Life 56.2 kWh (ราคาประมาณ 688,000 บาท):
เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยแบตเตอรี่ 56.2 kWh วิ่งได้ 470 กม. (NEDC)
มาพร้อมฟังก์ชันพื้นฐานที่ครบครันสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
B10 Style 67.1 kWh (ราคาประมาณ 748,000 บาท):
อัพเกรดแบตเตอรี่เป็น 67.1 kWh วิ่งได้ไกล 516 กม. (NEDC)
เพิ่มความสามารถในการชาร์จ DC สูงสุด 168 kW
กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า เพิ่มทัศนวิสัยที่ดีขึ้น
B10 Design 67.1 kWh (ราคาประมาณ 788,000 บาท):
รุ่นท็อปสุดที่อัดแน่นด้วยฟังก์ชันและดีไซน์พรีเมียม
ได้ฟังก์ชันทั้งหมดของรุ่น Style และเพิ่มกระจกหน้าต่างด้านหลังแบบ Privacy Glass
กระจกมองข้างพับด้วยไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light ปรับได้ 64 สี สร้างบรรยากาศที่หรูหรา
ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ (Rain Sensor) และฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบาย
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ECO Leather พร้อมเบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง ระบบระบายอากาศและระบบอุ่นเบาะ
ที่วางแขนเบาะนั่งด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว และลำโพง 12 ตำแหน่ง เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือกว่า
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS): มั่นใจในทุกเส้นทาง
Leapmotor B10 ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอันดับแรก ด้วยระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็มทั้งเชิงรับและเชิงรุก
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน: ABS / EBD / BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC, ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HHC, ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาด BOS, ระบบสัญญาณเตือนหยุดรถฉุกเฉิน ESS, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมฟังก์ชัน AVH Auto Vehicle Hold
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ระดับ L2:
ใช้เรดาร์ Ultrasonic 4 ตัว และเซนเซอร์ MMW 2 ตัว เพื่อการตรวจจับสภาพแวดล้อมที่แม่นยำ
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LCC (Lane Centering Control) และระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keeping Assist): ช่วยให้รถวิ่งอยู่ในเลนอย่างปลอดภัย
ระบบควบคุมรถฉุกเฉินให้อยู่ในเลน ELKA (Emergency Lane Keeping Assist): เพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning): แจ้งเตือนเมื่อรถเปลี่ยนเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW (Front Collision Warning) และระบบเบรกอัตโนมัติ AEB (Advanced Emergency Braking): ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนด้านหน้า
ระบบเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning) และระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติด้านหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Braking): มั่นใจได้ในการถอยจอดและออกจากที่จอด
ระบบเตือนเมื่อเปิดประตูรถ DOW (Doors Open Warning): ป้องกันการชนเมื่อเปิดประตู
ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลน
ระบบตรวจจับการปล่อยมือบนพวงมาลัย HOD (Hands Off Detection): เพื่อความปลอดภัยในการใช้ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ
ระบบช่วยควบคุมความเร็ว ISA (Intelligent Speed Assist): ช่วยจำกัดความเร็วให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระบบตรวจจับเมื่อคนขับเหนื่อยล้า DDAW (Driver Drowsiness Attention Warning) และระบบเตือนเมื่อคนขับเหนื่อยล้า ADDW (Advanced Driver Distraction Warning): ช่วยป้องกันการหลับในและเพิ่มสมาธิในการขับขี่
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง: (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-กลางเบาะคู่หน้า) มอบการปกป้องที่ครอบคลุม
กล้องรอบคัน 360 องศา และเซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง: เพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการจอดรถ
ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่เหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค Leapmotor B10 ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้อย่างแท้จริง
สรุป: Leapmotor B10 รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV ที่น่าจับตาที่สุดในปี 2025
Leapmotor B10 ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เข้ามาในตลาดไทย แต่เป็นการประกาศศักยภาพของ Leapmotor ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย สมรรถนะที่น่าประทับใจ ระยะทางวิ่งที่ไกล การชาร์จที่รวดเร็ว ห้องโดยสารที่กว้างขวางและอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยขั้นสูงครบครัน ทำให้ Leapmotor B10 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งในกลุ่ม B-SUV ไฟฟ้า ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
PNA Group ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มุ่งมั่นที่จะสร้างความสำเร็จให้กับ Leapmotor B10 ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ EV ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่โลกของรถยนต์ไฟฟ้า หรือผู้ที่ต้องการอัพเกรดจากรถยนต์สันดาปเดิม Leapmotor B10 พร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและคุ้มค่าอย่างแน่นอน เตรียมพบกับความตื่นเต้นนี้ได้ในเดือนตุลาคม 2568 และอย่าพลาดโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตด้วยตัวคุณเอง!

