ราคาจำหน่าย
- New Flying Spur Mulliner เริ่มต้น 27.6 ล้านบาท
- New Continental GT Mulliner เริ่มต้น 30 ล้านบาท
- New Continental GTC Mulliner เริ่มต้น 32.8 ล้านบาท
รุ่น Mulliner มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบ ‘Floating Diamond’ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mulliner พร้อมขอบโครเมียมและแถบโครเมียมตรงกลาง กระจังหน้าแบบโครเมียมส่วนล่าง แถบโครเมียมด้านข้างของตัวถัง ท่อไอเสียโครเมียม และการตกแต่งแบบโครเมียมที่เสริมด้วยฝาครอบกระจกมองข้างในเฉดสีเงินแบบซาติน พร้อมด้วยตัวเลือกเฉดสีดำ-เงาในแบบ Mulliner Blackline Specification นอกจากนี้ รุ่น Mulliner ยังมาพร้อมกับล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้วที่ออกแบบด้วยสองเฉดสี อันได้แก่ เฉดสีเทา Tungsten หรือเฉดสีดำ-เงา ซึ่งทั้งสองเฉดสีมากับพื้นผิวที่มัน-เงาและการตกแต่งด้วยดุมล้อโลโก้เบนท์ลีย์แบบ Mulliner


สำหรับรุ่น Continental GT Mulliner และ GTC Mulliner เจเนอเรชันที่ 4 โดดเด่นด้วยไฟหน้าเดี่ยวคู่พร้อมรีเฟลกเตอร์ ‘Cut Crystal’ แบบใหม่ที่ประณีตและโดดเด่น พร้อมด้วยโลโก้ Mulliner ที่ตกแต่งบริเวณด้านข้างตัวถังส่วนหน้า ในส่วนของรุ่น Flying Spur Mulliner งดงามด้วย Flying B ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยโครเมียมหรือตัวเลือกเฉดสีดำ รวมถึงการตกแต่งด้วยโลโก้ Mulliner แบบใหม่บริเวณช่องระบายอากาศข้างตัวถัง พร้อมด้วยรายละเอียดลวดลายแบบเพชร 2 ชั้นที่สวยงาม

ไฟต้อนรับ Welcome Light และไฟ Coming Home มาพร้อมกับแอนิเมชันของโลโก้ Bentley Wings ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของรุ่น Mulliner เช่นเดียวกับไฟท้ายสีแดงที่จะแตกต่างจากในรุ่น Speed

กาบบันไดแบบเรืองแสงและพรมปูพื้นแบบหนานุ่มจาก Mulliner ถูกนำมาตกแต่งภายในห้องโดยสารที่ล้ำสมัยพร้อมกับการนำเสนอการผสมผสาน 3 เฉดสีที่สั่งทำพิเศษจาก Mulliner พร้อมด้วยการเดินด้ายสีตัดกันและงานปัก Mulliner ที่เป็นเอกลักษณ์บนเบาะโดยสารที่เย็บด้วยมือและลวดลายรูพรุนรูปเพชรในแบบ Mulliner ที่ออกแบบใหม่ สำหรับ Continental GTC Mulliner ลวดลายการเย็บใหม่มีการนำมาใช้กับหลังคาผ้าใบ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ในขณะที่หลังคาผ้าใบถูกพับลง คุณสมบัติใหม่ในรุ่น Mulliner ยังได้รวมถึงเบาะโดยสารแบบ Wellness ที่สามารถปรับท่าทางการนั่งและปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติสำหรับเบาะโดยสารส่วนหน้าในรุ่น Continental GT/C และส่วนหลังในรุ่น Flying Spur ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าและมอบความผ่อนคลายในขณะเดินทาง


