DEEPAL E07: นิยามใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้า ที่ผสาน SUV และกระบะเพื่อชีวิตไร้ขีดจำกัด
ในโลกของยานยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็วในปี 2025 การมาถึงของ DEEPAL E07 ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มตัวเลือกใหม่ในตลาด แต่คือการประกาศนิยามใหม่ของ “รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์” ที่ฉีกทุกกรอบเดิมๆ ด้วยการผสานจุดเด่นของรถ SUV เข้ากับฟังก์ชันการใช้งานแบบรถกระบะได้อย่างลงตัว นับเป็นความกล้าหาญทางวิศวกรรมที่ Changan Deepal นำเสนอให้กับผู้บริโภคชาวไทย หลังจากสร้างความฮือฮาครั้งแรกที่ Motor Show 2024 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีเดียวกัน รถคันนี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่นักเลงรถ EV และผู้ที่มองหารถยนต์สำหรับ “ไลฟ์สไตล์ไร้ขีดจำกัด” ต่างให้ความสนใจ
ในฐานะผู้ที่ติดตามวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่า DEEPAL E07 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไม่กี่รุ่นที่สามารถทำให้คุณ “Be Yourself, Drive Your Way” ได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าชีวิตคุณจะเรียบง่ายในเมืองหลวง หรือรักการผจญภัยแบบถึงขีดสุด รถคันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับทุกมิติของชีวิตคุณ
พลิกโฉมการออกแบบ: เมื่อ SUV ไม่ใช่แค่ SUV และกระบะไม่ใช่แค่กระบะ
เมื่อแรกเห็น DEEPAL E07 หลายคนอาจจะรู้สึกถึงความ “แปลกตา” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ถึงความโดดเด่นสะดุดตา ตัวรถมีขนาดใหญ่โตตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ ด้วยความยาวกว่า 5,045 มม. และกว้างเกือบ 2 เมตร (1,996 มม.) ทำให้มันดูภูมิฐานและแข็งแกร่ง มิติที่ใหญ่ขึ้นนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงการออกแบบที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานสูงสุด สัดส่วนตัวถังที่สง่างามผสานกับแนวคิดการออกแบบ Star Ring LED ทั้งไฟหน้าและไฟท้าย มอบเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครบนท้องถนน ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานที่ต่ำเพียง 0.237 cd ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถขนาดใหญ่เช่นนี้ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานและระยะทางในการขับขี่
แต่จุดที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงคือส่วนท้ายของรถ ที่มาพร้อมแนวหลังคาแบบคูเป้ Fastback ที่ดูโฉบเฉี่ยว แต่เมื่อมองใกล้ๆ หรือใช้งานจริง จะพบว่ามันซ่อนความอเนกประสงค์แบบรถกระบะเอาไว้ หลังคากระจกด้านท้ายสามารถสไลด์เปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า และฝาท้ายก็เปิดออกได้แบบรถกระบะ นี่คือการเปลี่ยนผ่านจาก SUV ไฟฟ้า สู่รถกระบะได้อย่างไร้รอยต่อ สิ่งที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเมื่อพับเบาะโดยสารแถวหลังลงราบเรียบ พื้นที่ด้านท้ายจะยาวเหยียดถึง 1,667 มม. และเมื่อเปิดประตูท้ายแบบพับไฟฟ้าขึ้น ก็จะเพิ่มความยาวสูงสุดถึง 2,880 มม. และกว้าง 1,550 มม. พื้นที่ขนาดใหญ่นี้ไม่เพียงพอสำหรับการขนสัมภาระชิ้นใหญ่เท่านั้น แต่ยังสามารถรองรับผู้ใหญ่ส่วนสูง 186 ซม. ให้นอนเหยียดได้อย่างสบายๆ ราวกับเป็น “ห้องนอนเคลื่อนที่” เลยทีเดียว และยังรับน้ำหนักได้มากถึง 300 กก. ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขนอุปกรณ์กีฬา แคมป์ปิ้ง หรือแม้แต่สัมภาระธุรกิจ นี่คือข้อได้เปรียบที่ Deepal E07 ในไทย มอบให้เหนือรถ EV รุ่นอื่น ๆ ในตลาด
ห้องโดยสาร: มากกว่าแค่การเดินทาง แต่คือพื้นที่ใช้ชีวิต
การออกแบบภายในของ DEEPAL E07 สะท้อนแนวคิด “ห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่” ได้อย่างชัดเจน ผู้ผลิตได้เปิดเผยว่าต้องการให้เป็นในรูปแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ระเบียง ซึ่งฟังดูอาจจะเกินจริงไปบ้าง แต่เมื่อได้สัมผัสและใช้งานจริง มันกลับทำได้ใกล้เคียงกับคำกล่าวอ้างนั้นมาก แผงแดชบอร์ดถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแต่ล้ำสมัย โดดเด่นด้วยหน้าจอควบคุมสั่งงานแบบสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในชื่อ “Sunflower Screen” ซึ่งสามารถปรับทิศทางเข้าหาคนขับหรือผู้โดยสารด้านหน้าได้ตามคำสั่งเสียง นี่คือความใส่ใจในรายละเอียดที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Head-up Display (HUD) ขนาดใหญ่ถึง 28.86 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลการขับขี่สำคัญสะท้อนไปยังกระจกบังลมหน้า ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape ที่ปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มควบคุมแบบลูกกลิ้ง มอบความรู้สึกพรีเมียมและใช้งานง่าย อุปกรณ์ภายในครบครัน ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จไร้สายขนาด 50 วัตต์ พร้อมระบบระบายอากาศ ป้องกันความร้อนสะสมของสมาร์ทโฟน ระบบไฟ Ambient Light ที่ปรับเปลี่ยนสีได้ถึง 256 สี พร้อมฟังก์ชันปรับตามจังหวะเพลง ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารตามอารมณ์ที่ต้องการ ระบบเสียงคุณภาพสูงพร้อมลำโพง 18 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์ความบันเทิงระดับโรงภาพยนตร์ และหลังคากระจกแบบพาโนรามาพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ช่วยให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งสบาย หรือจะปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวก็ได้
อีกหนึ่งฟีเจอร์อัจฉริยะที่ตอกย้ำความเป็น รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ คือแผงกั้นและกระจกกั้นห้องโดยสารกับท้ายรถแบบเปิด-ปิดได้ ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณต้องขนของที่มีกลิ่นแรงหรือมีฝุ่นละอองมาก ทำให้ห้องโดยสารยังคงความสะอาดและสดชื่น นอกจากนี้ยังมีโหมดการปรับบรรยากาศภายในห้องโดยสารถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดแสดงแสงสีเสียง, โหมดงีบหลับ, และโหมดแคมป์ปิ้ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คิดมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่โดยเฉพาะ
ขุมพลังและสมรรถนะ: แรง นุ่มนวล และประหยัด
DEEPAL E07 ที่วางจำหน่ายในตลาด รถ EV 2025 ของไทยมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยหลักๆ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน:
Single Motor 2WD (ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD):
มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 89.98 kWh ให้กำลังสูงสุด 252 กิโลวัตต์ หรือ 342 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วและเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางไกล
ระยะทางวิ่งสูงสุด 640 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งถือเป็นระยะทางที่น่าพอใจสำหรับ รถ EV รุ่นใหม่ ที่เน้นการใช้งานหลากหลาย
Dual Motors AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD):
ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 89.98 kWh เช่นกัน แต่ให้กำลังสูงสุดที่ 440 กิโลวัตต์ หรือ 598 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 645 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่น่าทึ่งในเวลาเพียง 3.96 วินาที ความแรงระดับซูเปอร์คาร์ในร่าง SUV ไฟฟ้า
ระยะทางวิ่งสูงสุด 590 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) แม้จะน้อยกว่ารุ่นขับเคลื่อนสองล้อเล็กน้อย แต่ก็แลกมาด้วยสมรรถนะที่เร้าใจและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่พร้อมลุยทุกสภาพถนน
ในส่วนของการชาร์จ DEEPAL E07 ราคา ที่แข่งขันได้ยังมาพร้อมกับระบบชาร์จที่ทันสมัย รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo และกระแสตรง DC Fast Charging สูงสุดถึง 240 kW ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30%-80% ได้ภายในเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น ช่วยลดความกังวลเรื่องการเดินทางไกลได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีระบบ V2L (Vehicle-to-Load) ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอกได้สูงสุด 6 kW เปลี่ยนรถของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่สำหรับการตั้งแคมป์หรือใช้งานในกรณีฉุกเฉิน นี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ Deepal EV คันนี้
ช่วงล่างและประสบการณ์การขับขี่: เหนือความคาดหมาย
จากประสบการณ์การทดสอบในช่วงพรีวิว และหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมต้องยอมรับว่าช่วงล่างของ DEEPAL E07 ทำได้ “เหนือความคาดหมาย” อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่มาพร้อมระบบช่วงล่างถุงลม และระบบปรับความหนืดช่วงล่างอัจฉริยะ (Adaptive Air Suspension) ซึ่งสามารถยกรถขึ้นได้ 50 มม. และลดต่ำลงได้ 40 มม. การขับขี่บนถนนลูกรัง ขรุขระ หรือแม้แต่ทางคันนา ให้ความรู้สึกนุ่มนวลอย่างน่าเหลือเชื่อ เหมือนกับขับอยู่บนถนนเรียบๆ เลยทีเดียว มันมอบฟีลลิ่งที่คล้ายกับ Ford Raptor ในแง่ของความนุ่มนวลในการซับแรงกระแทกจากพื้นผิวที่ไม่เรียบ และยังทำได้ดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นพี่อย่าง Avatr 11 ในบางแง่มุมด้วยซ้ำ ช่วงล่างถุงลมนี้ไม่เพียงแค่เพิ่มความสบาย แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการลุยอุปสรรคได้อย่างมั่นใจ
สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ที่ใช้ระบบช่วงล่างแบบคอยล์สปริง ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันมากนัก ยังคงมอบความนุ่มนวลและเกาะถนนได้ดี การปรับเซ็ตช่วงล่างออกมาในแนว “นุ่มนวลพร้อมลุย” ทำให้รถคันนี้เหมาะอย่างยิ่งกับสภาพถนนในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และคอสะพาน การตอบสนองของพวงมาลัยและการควบคุมในโค้งก็ทำได้ดี ระบบควบคุมการทรงตัวเข้าช่วยเหลือได้อย่างนุ่มนวลและไม่น่ารำคาญ ทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
DEEPAL E07 ยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 5 โหมด ได้แก่ โหมดประหยัด, โหมดสบาย, โหมดสปอร์ต, โหมดกำหนดเอง, และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับบุคลิกของรถให้เข้ากับสไตล์การขับขี่และสภาพถนนในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่: มั่นใจทุกเส้นทาง
ในยุคที่ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ก้าวล้ำ ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะคือสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ และ DEEPAL E07 ก็จัดเต็มมาให้แบบครบครัน เพื่อความอุ่นใจตลอดการเดินทาง:
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC) และระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าและควบคุมความเร็วได้อย่างแม่นยำ
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LCC) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) รวมถึงระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน (ELK): เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางบนทางหลวง
ระบบช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติเมื่อเปิดไฟเลี้ยว (UDLC) และระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้สิ่งกีดขวางด้านข้าง (LDC): ลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนเลน
ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB): ช่วยลดโอกาสและผลกระทบจากการชน
ระบบเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า (FCTA) และระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า (FCTB): เพิ่มความปลอดภัยเมื่อออกจากทางแยก
ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) และระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (BSD): ช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงสิ่งรอบข้าง
ระบบเตือนการถูกชนด้านหลัง (RCW) และระบบเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) พร้อมระบบช่วยเบรก (RCTB): เพิ่มความปลอดภัยขณะถอยจอดและออกจากช่องจอด
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนขณะเปิดประตู (SEW): ป้องกันอุบัติเหตุจากการเปิดประตู
ระบบเตือนความเร็วเกินกำหนด (OSW), ระบบช่วยตรวจจับป้ายจราจร (TSR), และระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (FAB): เพิ่มความสะดวกสบายและลดความเมื่อยล้าในการขับขี่
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมถุงลมนิรภัยถึง 8 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ด้านข้างคู่หลัง, และม่านด้านข้าง) กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมระบบแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง ที่ช่วยให้การกะระยะเป็นเรื่องง่าย ระบบบันทึกวิดีโอการขับขี่รอบทิศทาง 360 องศา และโหมดเฝ้าระวัง (Sentry Mode) ที่จะช่วยจับตาดูรถของคุณตลอดเวลา
สำหรับความสะดวกสบายในการจอดรถ DEEPAL E07 มีระบบช่วยในการจอดรถให้เลือกถึง 4 รูปแบบ: ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (APA), ระบบช่วยจอดอัตโนมัติจากระยะไกล (RPA), ระบบนำรถเข้า-ออกช่องจอดในแนวตรงจากระยะไกล (RSIO), และระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (RADS) ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้ช่วยลดความกังวลในการจอดรถในพื้นที่จำกัดได้อย่างมาก
บทสรุป: รถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์อนาคตแห่งการเดินทาง
DEEPAL E07 ได้พิสูจน์แล้วว่ามันคือมากกว่าแค่ รถยนต์ไฟฟ้า ทั่วไป แต่คือสัญลักษณ์ของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ที่กล้าฉีกกรอบเดิมๆ การผสานรวมคุณสมบัติของ SUV และรถกระบะเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาความอเนกประสงค์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมือง การผจญภัยในวันหยุด หรือแม้แต่การใช้งานเชิงพาณิชย์เบื้องต้น ด้วย สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่โดดเด่น ช่วงล่างที่มอบความนุ่มนวลเหนือชั้น เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน และห้องโดยสารที่รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทำให้ DEEPAL E07 เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตาที่สุดในปี 2025
สำหรับราคาจำหน่ายที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 1.6 – 1.8 ล้านบาท (ซึ่ง ณ ปัจจุบันที่รถได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วก็เป็นราคาที่แข่งขันได้ในตลาด Deepal ในไทย) ถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ขนาด 90 kWh ระบบชาร์จ DC 240 kW และตัวเลือกมอเตอร์คู่ 598 แรงม้า พร้อมช่วงล่างถุงลม AWD ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่า DEEPAL E07 ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือ “พาร์ทเนอร์” ที่พร้อมจะพาคุณไปในทุกเส้นทาง พร้อมตอบรับทุกความต้องการในการใช้ชีวิตยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
