Porsche 911 GT3 R rennsport
เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ ณ งาน “Rennsport Reunion 7” รัฐแคลิฟอร์เนีย 911 จีที3 อาร์ เรนน์สปอร์ต (911 GT3 R rennsport) ละทิ้งข้อจำกัดของกฎระเบียบ FIA GT3 เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบมีให้เลือก 7 สีพื้นฐานและดีไซน์พิเศษ 3 รูปแบบ มีจำนวนเพียง 77 คัน โดยมีพื้นฐานจากรุ่น Porsche 911 GT3 R

ปอร์เช่นำเสนอรถแข่งสำหรับบรรดานักสะสมผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ต ณ งาน Rennsport Reunion 7 ซึ่งจัดขึ้นที่ WeatherTech Raceway Laguna Seca สำหรับรุ่น 911 จีที3 อาร์ เรนน์สปอร์ต (911 GT3 R rennsport) มีพละกำลังสูงสุดถึง 456 กิโลวัตต์ (620 แรงม้า) มีพื้นฐานมาจาก 911 จีที 3 อาร์ (911 GT3 R) ใหม่ของ 992 เจเนอเรชันปัจจุบัน อุปกรณ์ติดตั้งสำหรับลงสนามแข่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น
ซึ่งป็นแนวคิดที่เน้นการออกแบบที่มีประสิทธิภาพ และประโยชน์ด้านเทคนิคเพื่อความเสรีภาพฉีกกฎเกณฑ์ของมอเตอร์สปอร์ต งานครั้งนี้นับเป็นการรวมตัวระดับนานาชาติของปอร์เช่ ถูกจัดขึ้น ณ สนามแข่งรถแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีผู้เยี่ยมชมมากกว่า 80,000 คนเข้าร่วมงานตลอดทั้ง 4 วัน
ความพิเศษอย่างหนึ่งของไอเท็มใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับนักสะสม มีจำนวนจำกัดเพียง 77 คันในโลก ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ เรนน์สปอร์ต (911 GT3 R rennsport) มาพร้อมตัวถังที่ได้รับการออกแบบอย่างโดดเด่น ผสมผสานรูปลักษณ์อันทรงพลังของรถแข่งสมรรถนะสูงเข้ากับองค์ประกอบการออกแบบที่ทันสมัย ขณะเดียวกันยังสามารถย้อนกลับไปสู่ประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตโดยไม่ต้องมีรูปทรงแบบย้อนยุค

ด้านสมรรถนะเบื้องต้นของรุ่น GT3 ดั้งเดิม อาทิ แรงต้านของอากาศ และแรงกดตามหลักอากาศพลศาสตร์ จะยังคงไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ในฐานะรถแข่งพันธุ์แท้ ปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์ เรนน์สปอร์ต (Porsche 911 GT3 R rennsport) ยังคงสืบทอดฟังก์ชั่นการใช้งานได้สมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังเติมเต็มอารมณ์ด้านการขับขี่และมีความน่าดึงดูดอย่างมาก
รถสปอร์ตสุดพิเศษคันนี้ได้รับการออกแบบโดย แกรนท์ ลาร์สัน (Grant Larson) และ ธอร์สเทน ไคลน์ (Thorsten Klein) จากทีมงาน สไตล์ ปอร์เช่ (Style Porsche) ด้าน แกรนท์ ลาร์สัน (Grant Larson) ให้ความเห็นว่า “911 GT3 R rennsport ออกแบบใหม่อย่างกว้างขวาง ภายใต้ผิวคาร์บอน เพื่อเป็นรถแข่งพันธุ์แท้ โดยใช้ 911 GT3 R รุ่นปัจจุบันของ 992 มาเป็นรุ่นพื้นฐาน และจะเข้ามาแทนที่ปอร์เช่ 935 รุ่นใหม่
ดีไซน์โดดเด่นส่วนท้ายที่กว้างขวาง
ฝากระโปรงหน้าและหลังคาเท่านั้นที่ถูกนำมาจากรุ่นมาตรฐาน GT3 R ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ของตัวถังได้รับการเปลี่ยนแปลง ทีมงานได้นำรูปทรงส่วนหน้าของรถที่ได้รับการปรับแต่งตามหลักอากาศพลศาสตร์มาปรับใช้ รวมถึงช่องอากาศเข้าและท่อระบายความร้อนด้วย นักออกแบบยังได้เน้นการมองเห็นในบริเวณรอบๆ ด้านข้างเพิ่มระยะเพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการกระแทกจากภายนอก ซุ้มล้อหน้า ตอกย้ำรูปลักษณ์ที่ สง่างาม ลืมภาพกระจกมองข้างแบบเดิมๆ แทนที่ด้วยกระจกมองข้างใหม่ในรูปแบบดิจิทัล ประกอบด้วยกล้อง 3 ตัวที่รวมอยู่ในส่วนตัวถังด้านนอกของรถ และจอภาพของที่นั่งคนขับ
การดัดแปลงส่วนท้ายของรถแข่งมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นเป็นพิเศษ ปีกหลังขนาดใหญ่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่ปรับรับกับกระแสทางลม การออกแบบของรถชวนให้นึกถึงรถในตำนานอย่าง Brumos Porsche 935/77 ซึ่ง 3 นักแข่งในตำนานอย่าง Peter Gregg ชาวอเมริกัน ,Toine Hezemans ชาวดัตช์ และ Rolf Stommelen ชาวเยอรมัน ได้นำรถรุ่นนี้คว้าชัยชนะโดยรวมครั้งที่ 7 ให้กับ Porsche ในรายการ 24 Hours of Daytona ในปี 1978
ท้ายรถ โดดเด่น สะกดทุกสายตา และตัวเลขดาวน์ฟอร์ซ สะท้อนให้เห็นว่า คุณสมบัติของสปอยเลอร์ใหม่สามารถรับแรงกดภายใต้ขีดจำกัดที่กำหนดไว้ตามมาตรฐาน การเพิ่มอุปกรณ์เสริมอีก 3 ตัว เหมาะสำหรับการใช้งานเสมือนรถแข่ง Porsche 962 Le Mans ดีไซน์แถบไฟ LED เชื่อมช่องว่างระหว่างอดีตกับปัจจุบัน การรวมตัวอักษรเรืองแสงคำว่า Porsche ไว้ด้วยกัน ช่วยสร้างลักษณะเฉพาะของส่วนท้ายโป่งหลังแบบเปิดขนาดใหญ่ที่กว้างขึ้น ต่อเนื่องด้วยแผ่นปิดช่องลม สิ่งเหล่านี้ช่วยให้มองเห็นองค์ประกอบทางเทคนิคได้อย่างชัดเจน รวมไปถุงระบบไอเสียที่มีท่อไอเสียคู่อยู่ตรงกลาง

การออกแบบของ 911 GT3 R rennsport ยังสะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงด้านตกแต่งภายในเล็กน้อย สำหรับจอภาพจากกล้องภายนอกที่ติดตั้งอยู่บริเวณบังโคลน 2 ตัว จะผสมผสานเข้ากับการตกแต่งภายในได้อย่างกลมกลืน กราฟิกพิเศษสำหรับหน้าจอแสดงผลตรงกลางและหมายเลขรุ่นลิมิเต็ดบนแผงหน้าปัดได้ถูกดีไซน์รูปทรงแบบเดียวของรถแข่ง ในขณะที่ไฟส่องสว่างโดยรอบใช้รูปแบบของไฟหน้าหลัก คุณลักษณะด้านความปลอดภัยทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐาน FIA ที่บังคับใช้ โครงเหล็กเสริมความแข็งแรงของตัวถังรถ (roll cage) ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษติดตั้งที่บริเวณเบาะนั่งคนขับ เช่นเดียวกับ 911 GT3 R ที่มีการใช้งานทั่วโลกทำให้ “rennsport” ถูกจำกัดเป็นรถแข่งที่นั่งเดียว
ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของขอบล้อขนาด 18 นิ้วจาก BBS เป็นหนึ่งในการออกแบบ “รถแข่ง” ที่สะดุดตา ผสมผสานกับระบบเซ็นทรัลล็อคที่ใช้ในมาตรฐานการออกแบบระดับสูงของ Porsche Motorsport และการตกแต่งด้วยสี Dark Silver Metallic เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

